“อภิสิทธิ์” ชี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคมคืนจากกลุ่มเทมาเส็กสิงคโปร์ อ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ เผยมอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการเจรจาแล้ว ปัดตอบต้องใช้งบประมาณถึง 5 พันล้าน
เว็บไซต์ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า วันนี้ (14 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง กรณีรัฐบาลมีแนวคิดที่จะซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคมคืนจากกลุ่มเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการซื้อหุ้นดาวเทียมไทยคมคืนจากกลุ่มเทมาเส็กของสิงคโปร์ เพื่อที่รัฐบาลไทยจะนำดาวเทียมสื่อสารไทยคมมาบริหารจัดการเอง โดยคำนึงถึงเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นหลัก ประกอบกับทางเทมาเส็กเองเมื่อครั้งที่เข้ามาซื้อกิจการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) เคยชี้แจงไว้ต่อสาธารณะและตลาดหลักทรัพย์ว่าไม่มีเจตนาที่จะมาซื้อกิจการดาวเทียมของไทย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการเจรจาการซื้อกิจการดังกล่าว และให้ยึดหลักความโปร่งใส โดยเฉพาะในเรื่องราคา และเงื่อนไขต่างๆ และหากมีการซื้อคืนมาได้จริง คงต้องพิจารณาว่าจะให้หน่วยงานหรือองค์กรใดเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการ ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ในเรื่องของการซื้อคืน
ส่วนวิธีการที่จะได้มา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของเงื่อนไขในการที่กระทรวงการคลังจะต้องไปเจรจากับบริษัทเทมาเส็ก ถ้าเกิดมีการซื้อจะต้องดูว่าเมื่อเป็นเจ้าของแล้วองค์กรการบริหารจะอยู่ในรูปแบบใด สังกัดใด และคิดว่าเป็นประโยชน์ถ้าได้คืนมา แต่ต้องดูความสมเหตุสมผลในเรื่องของเงื่อนไขราคาต่างๆ ทั้งนี้รัฐบาลจะซื้อเฉพาะดาวเทียมเท่านั้น ส่วนจะใช้เวลานานแค่ไหนก็อยู่ที่กระทรวงการคลัง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่ารัฐบาลอาจต้องใช้งบประมาณถึง 5 พันล้านบาทใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขเข้ามา
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)