Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

สองไม่เอา : ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ทักษิณในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ หลายฝ่ายออกมาพูดผ่านสื่อว่า เดือนนี้จะเกิดความรุนแรง แล้วก็เกิดขึ้นจริง คือมีการยิงเอ็ม 79 ถล่ม บก.ทบ. ยิงเข้าไปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งห่างจากทำเนียบรัฐบาลแค่ 50 เมตร และพบกล่องระเบิดซีโฟร์ในรั้วศาลฎีกา หลวงตามองเรื่องนี้อย่างไรครับ?

หลวงตา : อาตมาไม่สบายใจเลยที่สังคมเราอ้างความเป็นสังคมพุทธ อ้างประชาธิปไตย แต่เราไม่รักสันติ ไม่เคารพความเห็นต่าง ไม่ใช้เหตุผลแก้ปัญหาความขัดแย้งเท่าที่ควรจะเป็น

สองไม่เอา : บางคนบอกว่ามันเลยขั้นตอนการใช้เหตุผลมาแล้ว ถึงเวลาต้องแตกหักเพื่อให้รู้แพ้-ชนะ กันเสียที!

หลวงตา : ใครแพ้ ใครชนะ? ถ้ามองเชิงกายภาพ ดูจากสรรพกำลังของทั้งสองฝ่ายแล้ว ไม่มีใครจะแพ้-ชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ในขณะนี้หรอก ดูจาก “ยุทธศาสตร์” ทั้งสองฝ่ายแล้วก็ยังจำเป็นต้องอธิบายให้สังคมเข้าใจมากกว่านี้ ส่วน “ยุทธวิธี” นั้นไม่ต้องพูดถึง แต่ละฝ่ายต่างอ้างสันติวิธี อ้างสิทธิ เสรีภาพตามกรอบของกฎหมาย แต่เอาเข้าจริงทุกฝ่ายล้วนเป็น pragmatists คือ เพื่อบรรลุเป้าหมายหรือความสำเร็จที่ตนต้องการแล้วก็พร้อมทำทุกวิธีการไม่ว่าจะถูกหรือผิด

สองไม่เอา : แสดงว่ายุทธวิธีที่ไม่เลือกถูก-ผิดของแต่ละฝ่ายนั่นเอง ที่ทำให้พวกเขาถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคมได้เสมอว่า ถึงพวกเขาจะชนะ แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำให้สังคมบรรลุถึงยุทธศาสตร์ หรืออุดมการณ์ที่พวกเขากล่าวอ้างได้?

หลวงตา : มันเป็นเช่นนั้นแหละโยม และอันที่จริงยุทธศาสตร์มันก็ตอบโจทย์ของสังคมไม่ได้ด้วย ดูอย่างเสื้อเหลืองซิ เขี่ยทักษิณตกจากอำนาจไปแล้ว การเมืองที่สะอาดโปร่งใสเกิดขึ้นจริงไหม? ที่ไม่เกิดไม่ใช่เพราะทักษิณและเสื้อแดงคอยป่วนอยู่นะ แต่เพราะว่าประชาธิปไตยภายใต้การกำกับของศักดินา-อำมาตย์ที่เสื้อเหลืองเรียกร้องนั้น มันไม่ใช่การเมืองที่โปร่งใสแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ฉะนั้น ภายใต้ประชาธิปไตยตาม concept นี้ไม่มีทางจะเกิด “การเมืองใหม่” ที่เป็นการเมืองสะอาดโปร่งใส ได้ผู้แทนที่เป็นตัวแทนของปวงชนจริงๆหรอก อย่างมากก็ได้แค่ “พรรคการเมืองใหม่” เท่านั้นแหละ

สองไม่เอา : แล้วถ้าเสื้อแดงชนะในเร็วๆนี้ล่ะครับ?

หลวงตา : เฉพาะหน้าเลย ถ้า “โชคดี” มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ เราก็จะได้นายกรัฐมนตรีชื่อ “ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกฯด้านเศรษฐกิจชื่อ “วีระ มุสิกพงศ์” รัฐมนตรีมหาดไทยชื่อ “จตุพร พรหมพันธ์” รัฐมนตรีกลาโหมชื่อ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” แล้วรัฐบาลนี้ก็จะบอกว่าขอเวลา 6 เดือน ออกกฎหมายนิรโทษกรรมทักษิณ แต่ถูกเสื้อเหลืองออกมาป่วนเลยต้องขอต่อเวลาไปอีก 1 ปี ภายในพรรครัฐบาลเองก็ขัดแย้งวุ่นวายไปหมด ไหนจะแย่งตำแหน่งกัน ไหนจะแย่งกันทำงานเอาหน้ากับ “นายใหญ่” ไหนจะมีกลุ่มก๊วนจากบ้านเลขที่ 111 และวงศาคณาญาติของนายใหญ่เข้ามาวุ่นวาย ...แต่ถ้าได้นายกฯ ชื่อ “บิ๊กจิ๋ว” ก็ไม่น่าจะดีกว่านี้นะ เพราะที่จริงบิกจิ๋วก็เป็นแค่ “สิ่งชำรุด” ทางประวัติศาสตร์พอๆกับ “ป๋า” นั่นแหละ

สองไม่เอา : แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดีกว่ารัฐบาลปัจจุบันที่ถูกตั้งและอยู่ภายไต้การกำกับของอำมาตย์ไม่ใช่หรือครับ เพราะเป็นรัฐบาลที่เสียงส่วนใหญ่เลือกมา?

หลวงตา : ดีกว่าในแง่ “ที่มาชอบธรรม” แต่คุณเชื่อว่ารัฐบาลหน้าตาอย่างนี้จะมีอุดมการณ์และศักยภาพพอจะตอบสนองต่อการสร้างประชาธิปไตยที่สังคมมีความเสมอภาค เป็นธรรมและรัฐสวัสดิการตามที่เสื้อแดงสายอุดมการณ์เรียกร้องหรือ? อย่างหมอเหวง จักรภพ จาตุรนต์ สุรชัย อาจารย์ใจ ฯลฯ พวกนี้จะมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลไหม? อย่าว่าแต่มีตำแหน่งเลยนะ แม้แต่จะผลักดันอุดมการณ์ให้รัฐบาลยอมรับนำไปปฏิบัตินี่ก็คงแทบเป็นไปไม่ได้เลย อย่างอาตมานี่เป็นเจ้าอาวาส “วัดป่าบ้านแดง” เลยนะ เคยล่ารายชื่อญาติโยมได้เป็นล้านชื่อสนับสนุนให้บัญญัติในรัฐธรรมนูญว่า “พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย” อาตมายังไม่แน่ใจเลยว่าถ้าอ้าง “เสียงส่วนใหญ่” ให้รัฐบาลคนเสื้อแดงด้วยกันเองทำตามที่เราต้องการแล้วเขาจะเอาด้วยไหม ทั้งที่เขายืนยันว่าเสียงส่วนใหญ่ถูกต้องเสมอในกรณีปกป้องทักษิณ แต่กรณีปกป้องพุทธศาสนาอาจจะไม่!

สองไม่เอา : พูดเหมือนกับหลวงตาไม่อยากให้ยุบสภาตอนนี้อย่างนั้นแหละ?

หลวงตา : อยากซิ! ถ้าการยุบสภาจะเป็นทางหลีกเลี่ยงความรุนแรงและรัฐประหาร เพียงแต่อยากติงพรรคการเมืองของเสื้อแดงว่า อย่าชะล่าใจว่าเลือกตั้งเมื่อไรก็ชนะ โอเค.ถ้าคุณชนะแล้วไง? นอกจากอาศัยบารมีของทักษิณแล้ว คุณมีอุดมการณ์ แนวคิด หรือนโยบายอะไรที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องเชิงอุดมการณ์ของมวลชนเสื้อแดงหรือไม่? คุณคิดถึงความต้องการของคนไทยคนอื่นๆที่ไม่สังกัด “สี” บ้างไหม? ทุกวันนี้อาตมาไม่เห็นคุณบอกสังคมในเรื่องดังกล่าวเลย นอกจากคุณจะโชว์ความอ่อนแอแตกแยกภายในพรรค และชอบใช้วิธีเดียวกับ “สนธิ ลิ้ม” หรือ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่มักแสดงว่าตัวเอง “ดี” ด้วยการกล่าวหาว่าคนอื่น “เลว”

สองไม่เอา : หลวงตาเป็น “พระเสื้อแดง” ทำไมวิจารณ์เสื้อแดงด้วยกันค่อนข้างแรง?!

หลวงตา : อ้าว...ก็เสื้อแดงเขาเป็นประชาธิปไตยนี่ มันต้องวิจารณ์กันได้ ไม่มีใครเป็น “เทวดา”!

สองไม่เอา : แล้วเราจะผ่านพ้น “เดือนแห่งความรัก” นี้ไปได้อย่างไม่เกิดความรุนแรงได้อย่างไรครับหลวงตา?

หลวงตา : ได้แน่นอน ถ้าเรารัก “ประชาธิปไตย” จากใจจริงอย่างที่พากันกล่าวอ้าง และรัก “ความเป็นมนุษย์” ของตัวเราเองและคนอื่นๆ และถ้าการปกป้องประชาธิปไตยหมายถึงการปกป้องความเป็นมนุษย์ด้วย ความรุนแรงย่อมไม่ใช่ทางเลือก! มีแต่เผด็จการในคราบประชาธิปไตยเท่านั้นที่ยอมใช้ทุกวิธีไม่ว่าถูกหรือผิดเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่ความรุนแรง! แล้วเราจะสามรถตัดสินได้เลยว่าใครที่เลือกใช้วิธีรุนแรงคือฝ่ายที่ต้องพ่ายแพ้! นี่ไม่ใช่การคาดเดา แต่เป็นสัจธรรมแห่งประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ!

 

 

 

หมายเหตุ : เป็นเพียง “สมมติสัมภาษณ์”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net