Skip to main content
sharethis

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วานนี้ (29 ธ.ค.) โดยปฏิเสธว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เบี้ยวแก้รัฐธรรมนูญ และกล่าวถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่าจะไปร่วมกับแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2540 กับพรรคเพื่อไทยหากมีการเสนอก่อนว่า คิดว่าไม่มีเหตุผลที่ต้องไปทำอย่างนั้น เพราะแนวทางที่คุยกันไว้ตั้งแต่ต้นในประเด็นที่เห็นว่าเป็นปัญหา โดยพูดกันชัดเจนมาตลอดว่าต้องไม่เป็นการสร้างความขัดแย้ง "เราพยายามทำมาหลายทาง เมื่อฝ่ายค้านปฏิเสธก็มาทบทวนกันใหม่ ซึ่งได้ข้อยุติ 2 ประเด็นคือมาตรา 190 และเรื่องเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียวที่จะนำเสนอต่อสภาฯ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันคงจะคุยกันในหลังปีใหม่" นายอภิสิทธิ์กล่าว พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่าหากนอกเหนือไปจาก 2 ประเด็นนี้แล้วไม่มีการทำประชามติก็น่าจะมีปัญหาความขัดแย้งในสังคม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลและบ้านเมือง จะนำไปสู่ความขัดแย้งบั่นทอนการทำงานของรัฐบาล พรรครัฐบาลทุกพรรคก็เดือดร้อน

โดยนายกอธิบายว่าที่ตกลงจะให้เสนอแก้ไขเรื่องเลือกตั้งเขตเดียวเบอร์เดียวนั้น ไม่ได้แปลว่าพรรคประชาธิปัตย์ยอมที่จะให้กลับไปแก้เขตเลือกตั้งเป็นเขตเดียวเบอร์เดียวแต่ที่พูดกันไว้ในกรรมการบริหารพรรค คือรัฐบาลไม่ต้องเป็นผู้เสนอ พรรคการเมืองที่อยากจะเสนอสามารถเสนอให้สภาฯ พิจารณาได้ทั้ง 2 ประเด็น มาตรา 190 นั้นพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วย ส่วนเรื่องเขตเลือกตั้งนั้นจุดยืนเดิมของพรรคไม่เห็นด้วย และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าจะมีการเสนอจริงพรรคฯต้องมาพิจารณาว่าจะตัดสินใจอย่างไร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลักการแก้รัฐธรรมนูญปกติไม่ใช่เรื่องของฝ่ายบริหาร เพราะฝ่ายบริหารไม่ได้มีเสียงข้างมากในรัฐสภา เห็นบางทีมีนักเขียนนักวิเคราะห์ไม่เข้าใจ และเหตุผลที่ให้รัฐสภาเป็นผู้พิจารณาเพราะไม่ใช่การบริหารนโยบายที่จริงแล้วเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ไม่ให้เป็นเรื่องเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรนั้นเพราะไม่ต้องการให้รัฐบาลเปลี่ยนกติกาของบ้านเมือง การเปลี่ยนกติกาต้องอาศัยเสียงมากกว่าฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลในขณะใดขณะหนึ่งซึ่งเป็นหลักที่เขียนกันในรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ดังนั้น เรื่องนี้โดยแท้จริงจึงไม่ใช่เรื่องของนโยบายรัฐบาล แต่สิ่งที่รัฐบาลคุยกันและเป็นแนวปฏิบัติคือ เราจะไม่ทำให้ปมประเด็นรัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินหรือเป็นปมเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคม ซึ่งตนสนใจในแง่บทบาทรัฐบาลที่เดิมรัฐบาลน่าจะเสนอได้คือกรณีที่เรามาทำนโยบายเรื่องสมานฉันท์แต่วันนี้นโยบายสมานฉันท์ไม่อาจทำได้ด้วยรัฐธรรมนูญอีกต่อไปเนื่องจากไม่ครบทุกพรรค มันกลับกลายเป็นเรื่องของสภาฯ รัฐบาลดูเพียงแต่ว่าอย่าให้เรื่องนี้เป็นปัญหากับบ้านเมืองในเรื่องความขัดแย้งหรือสมานฉันท์ ซึ่งหากคุยกันพรรคร่วมคงเข้าใจบทบาทรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net