Skip to main content
sharethis

"สุทัศน์ เงินหมื่น" ออกโรงคัด ค้าน "อภิสิทธิ์" ลงพื้นที่บุรีรัมย์ ระบุไม่จำเป็นต้องไปพึ่งบารมีคนอื่น พร้อมขู่ลาออก และเลิกเล่นการเมือง หาก ปชป.ส่งไม้ให้ "เนวิน" นำทัพคุมพื้นที่อีสาน ขณะที่ "อภิสิทธิ์" ยันไม่ได้พึ่งบารมีใคร สวน "สุทัศน์" ไม่เข้าใจการประสานงานระหว่างพรรคร่วมฯ ระบุไปบุรีรัมย์เพื่อตรวจงานของรัฐบาล พร้อมไล่ส่ง "ศักดิ์สยาม" ที่พูดว่าต้องทนอยู่กับประชาธิปัตย์ต่อไป ด้านพรรคภูมิใจไทยแก้ตัวพัลวัน อ้างน้อง "เนวิน" แค่พูดเล่น

กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเลือก จ.บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดแรกในโปรแกรมเดินสายลงพื้นที่ภาคอีสาน หลังจากที่ไปกินข้าวกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่านายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาคัดค้านทันที โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งบารมีคนอื่น
"สุทัศน์" ค้าน "อภิสิทธิ์" ไปบุรีรัมย์
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 ก.ค. นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเลือกลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดแรกในการเดินสายพบประชาชนภาคอีสานว่า ไม่เห็นด้วย เนื่องจากนายกฯ สามารถเดินทางไปในทุกจังหวัดของภาคอีสาน และควรจะทำพื้นที่ด้วยตัวเอง ไม่มีความจำเป็นต้องไปอาศัยบารมีของใคร เท่าที่สัมผัสกับชาวบ้านพบว่าคนอีสานส่วนใหญ่ รักใคร่นายอภิสิทธิ์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แต่การที่นายกฯ ตัดสินใจจะไปลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ครั้งนี้ ไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับตนหรือ ส.ส.อีสานในพรรคเลย หากได้ปรึกษาหารือกับบรรดา ส.ส.อีสานก่อน ตนจะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ให้นายกฯ ได้รับทราบอย่างแน่นอน ตนเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้เป็นเพราะรับงานหรือรับเงินมาจากพรรคเพื่อไทยมาสั่นคลอนพรรคประชาธิปัตย์ การรับประทานอาหารกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนไม่ได้พูดเรื่องการเมือง แต่เป็นความสนิทสนมส่วนตัว
ขู่ลาออกถ้าชู "เนวิน" นำทัพลุยอีสาน
นายสุทัศน์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะมอบหมายภารกิจรวมทั้งทุ่มงบประมาณให้พรรคภูมิใจไทยดูแลพื้นที่ภาคอีสาน เพื่อเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และหากเป็นเช่นนั้นจริง ตนจะขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ทันที และจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคใหญ่ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีศักดิ์ศรี มีหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ มาแล้วหลายคน หากจะให้ไปฮั้วกับพรรคอื่นเพื่อหลีกทางกันเองก็ไม่เหมาะสม เพราะการเป็นพรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครลงสู้กับพรรคอื่นๆ ในทุกสนามเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นความไม่ชอบธรรมทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ยังมีโอกาส เพียงแต่ต้องทุ่มเทมากขึ้น ถ้านายกฯจะลงพื้นที่ก็ควรจะเป็น จ.อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา หรืออำนาจเจริญ
"อภิสิทธิ์" ยันไม่ได้พึ่งบารมีใคร
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์กรณีที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น ไม่พอใจที่นายกฯ จะไปลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ว่า ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเท่าไหร่ และไม่มีการให้พรรคอื่นไปดูแลพื้นที่ภาคอีสานแทน ที่จริงคิดว่านายสุทัศน์เข้าใจดีว่าเรื่องของรัฐบาลเป็นอีกส่วนหนึ่ง เรื่องของพรรคก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง นายสุทัศน์น่าจะรู้อยู่แล้วว่าตนมีจุดยืนอย่างไร เพราะในสมัยหนึ่งที่กระแสพรรคประชาธิปัตย์ถูกต่อต้านอย่างมาก ตนเป็นคนที่ยืนยันด้วยการใส่เสื้อพรรคลงพื้นที่ภาคอีสาน ดังนั้น เรื่องของพรรคก็ต้องดูแลและไปเตรียมการแข่งขัน แต่เรื่องของรัฐบาลสิ่งที่เกิดขึ้นคือในเมื่อมีการวิจารณ์อยู่เรื่อยๆ ถึงการประสานงานระหว่างกัน จึงได้ปรารภกับรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลว่าให้ไปลงพื้นที่ด้วยกัน โดยขอให้พรรคต่างๆ เสนอการจัดการลงพื้นที่เข้ามา ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เสนอเรื่องของถนนและแหล่งน้ำในโครงการไทยเข้มแข็งแค่นั้นเอง ไม่ได้ไปพึ่งบารมีอะไรกับใคร
 
จวก "สุทัศน์" ไม่เข้าใจงานของรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายสุทัศน์อาจไม่เข้าใจว่าเป็นการไปตรวจงานของรัฐบาล และถ้าจังหวัดอื่นมีความพร้อมแล้วเสนอเข้ามา ตนก็ไป ทั้งนี้ ไม่มีช่องว่างอะไรในการบริหารภายในพรรคประชาธิปัตย์ ได้คุยกับ ส.ส. อีสานของพรรคแล้ว เข้าใจตรงกัน ถ้าจะให้พรรคอื่นมาดูแลภาคอีสานแทน ตนก็รับไม่ได้ และถ้าเราคิดอย่างนั้นทำไมถึงมีข่าวเรากำลังเตรียมผู้สมัครลงในภาคอีสาน ตรงนี้บ่งบอกว่าเราไม่ได้ยกพื้นที่ให้พรรคอื่น ส่วนการไป จ.บุรีรัมย์ จะพักค้างคืนหรือไปเช้าเย็นกลับนั้น ต้องดูเวลาก่อน คนที่ไปค้างคืนก็ไม่เห็นจะมีผลอะไรเท่าไหร่ เรื่องการทำงานสำคัญที่สุด การติดงานให้สำเร็จคือเป้าหมายหลัก
ยอมรับกวาดเพิ่ม ส.ส.อีสานไม่ง่าย
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังมี โอกาสเพิ่มจำนวน ส.ส.ในภาคอีสานได้ แต่ถ้าดูบนความเป็นจริงก็ไม่ง่าย เพราะในสมัยหนึ่งคะแนนที่ได้มาเคยลงไปประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ขึ้นมาประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังยากในการชนะการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต แต่มีบางพื้นที่ที่ดีกว่านั้น เราถือเป็นพื้นที่เป้าหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่าทัพใหญ่ของพรรคขาดการทำกิจกรรมในภาคอีสาน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องสำคัญคือการทำงานและการทำความเข้าใจ ส่วนการทำกิจกรรมต้องทำกันไป ทุกพรรคการเมืองมีปัญหาที่ว่าพื้นที่ใดที่มี ส.ส.น้อยก็ทำกิจกรรมได้ยากกว่า เมื่อถามว่ากลุ่มเสื้อแดงถือเป็นอุปสรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรคหรือไม่ แต่ยืนยันว่าการที่กลุ่มคนจะมาขัดขวางไม่ให้รัฐบาลหรือพรรคการเมืองไปทำกิจกรรมในพื้นที่ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตยต้องเปิดโอกาสให้และแข่งขันกันไป ซึ่งไม่ทราบว่าเขากลัวอะไรจึงได้ขัดขวาง ผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรจะเป็นจุดขายของพรรคในภาคอีสาน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ผลงานที่จะออกมาแต่ต้องใช้เวลาอีกนิด งานในแผนไทยเข้มแข็งจะส่งผลอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องของแหล่งน้ำ จะเห็นเป็นรูปธรรมได้
ไล่ส่ง "ศักดิ์สยาม"
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ ระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลต้องทนเป็นรัฐบาลกันต่อไปเพื่อบริหารเงิน 8 แสนล้านบาท และรองบประมาณปี 2553 ว่า ถ้าเขาทนไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ ไม่ได้บังคับให้อยู่ ที่จริงควรจะคุยกับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงที่เป็นผู้บังคับบัญชาของเขาว่างานที่เราทำอยู่มีเหตุผลในการทำงานอย่างไร ทุกคนจะเอาตามใจชอบไม่ได้ ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ต้องดูข้อจำกัดต่างๆไม่ได้บังคับให้ทน ถ้าไม่อยากทนอยู่ก็ ไม่ต้องอยู่ คนเราควรทำงานคบกับใครด้วยความสมัครใจและอยู่กันด้วยเหตุผล
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องคุยกับนายเนวินอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของที่ปรึกษาหรือคณะทำงานของรัฐมนตรี ตนอาจจะคุยกับรัฐมนตรีว่าถ้าใครไม่สมัครใจก็ไม่ต้องให้ทำงาน เมื่อถามว่าจะเสนอให้มีการปรับนายศักดิ์สยามออกจากคณะทำงาน รมว.มหาดไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ถ้าไม่อยากจะทำเขาก็ไม่ควรจะทำ
เทพเทือกฉุนข่าวปล่อย เสี้ยมรัฐบาลแตกแยก
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ขู่จะลาออกจากตำแหน่ง และเลิกเล่นการเมือง หากพรรคประชาธิปัตย์ให้พรรคภูมิใจไทย นำทีมหาเสียงภาคอีสานแทนพรรคประชาธิปัตย์ว่า ระบุไม่ทราบว่า นายสุทัศน์ ไปพูดอะไร เพราะไม่ได้ยิน ทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น นายสุทัศน์ โตแล้ว ต้องหัดเรียนรู้ ที่จะเข้าใจอะไรให้ถูก ไม่ต้องให้ใครมาเตือน มั่นใจว่า จะไม่ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในพรรค
ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้พรรคภูมิใจไทยนำทีมหาเสียงในภาคอีสาน เพราะคนอีสานไม่ต้อนรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หากจะวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็คงไม่ใช่ เพราะการเลือกตั้งอยู่ที่ความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองในช่วงใด ช่วงหนึ่ง ซึ่งก็ไม่เหมือนกันเสมอไป เหมือนกับรสนิยมที่อาจมีความชอบแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้มั่นใจ ส.ส.อีสานของพรรคจะเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตามยอมรับวันนี้น่ากังวลใจ มีความพยายามสร้างข่าวว่า มีปัญหาในรัฐบาล ในพรรคร่วมรัฐบาล ข่าวอย่างนี้ไม่สร้างสรรค์ ควรเอาเวลาไปสนใจในประเด็นที่อื่นที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนมากกว่า
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น้องชายนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจ ระบุต้องทนอยู่กับรัฐบาล เพื่อรองบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 นั้น นายเนวิน ได้โทรศัพท์มาหาตน อธิบายให้ฟังแล้วว่า ไม่ได้เป็นอย่างตามที่เป็นข่าว
"วิฑูรย์" ข้องใจท่าที "สุทัศน์"
นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของนายสุทัศน์ เพราะในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ทุกคนก็เข้าใจตรงกันว่าพรรคไม่เคยคิดทิ้งพื้นที่ภาคอีสานหรือให้ใครมาดูแลแทน และยังได้มีการมอบหมายความรับผิดชอบดูแลพื้นที่รายจังหวัดที่คิดว่ามีความหวังด้วย นายสุทัศน์ก็อยู่ในที่ประชุมและได้รับมอบหมายให้ดูแล จ.อำนาจเจริญ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดว่าเราจะให้พรรคภูมิใจไทยมาดูแลภาคอีสานแทน "ความจริงการลงพื้นที่ภาคอีสานนั้น นายกฯได้แจ้งต่อทุกคนรวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลว่า พื้นที่ไหนที่มีความพร้อมในโครงการไทยเข้มแข็งที่จะให้ไปตรวจสอบความคืบหน้า ขอให้แจ้งเพื่อที่นายกฯจะได้กำหนดวันเวลาให้ตรงกัน โดยนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เสนอมาคนแรกเร็วที่สุด อาจจะเป็นเพราะว่ามีโครงการถนนปลอดฝุ่น จึงขอให้นายกฯลงพื้นที่ แต่ไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องการเมือง บังเอิญว่านายโสภณเป็น ส.ส.บุรีรัมย์ จึงทำให้ถูกมองว่านายกฯไปพึ่งบารมีนายเนวิน ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องเลย"
"สาทิตย์" ยัน ส.ส.ปชป.เข้าใจนายกฯ ลง "บุรีรัมย์"
ส่วนนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความไม่พอใจที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานร่วมกับพรรคภูมิใจไทย โดยมองว่าเป็นการแบ่งพื้นที่ภาคอีสานให้กับพรรคภูมิใจไทยดูแล ว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของนายสุทัศน์ คงไม่มีปัญหาอะไรภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายสุทัศน์ อาจไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานโดยการเลือกลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดแรก ซึ่งถือเป็นพื้นที่ของนายเนวิน ชิดชอบแกนนำพรรคภูมิใจไทย ขอบอกว่าเราได้หารือกันตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะลงไปพิจารณาเรื่องงบประมาณ เพื่อติดตามการดำเนินงานในโครงการไทยเข้มแข็ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าจะบานปลายจนนำไปสู่ความน้อยใจของ ส.ส.ภายในพรรค จนถึงขั้นมีความคิดที่จะย้ายพรรคหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเข้าใจ แม้ว่าเราจะคิดต่างกันบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับความแตกต่างทางความคิด อย่าลืมว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งมาถึง 62 ปี ไม่เหมือนพรรคบางพรรคที่ตั้งมา 6 ปียังแตก เราต่อสู้กันมา กว่าจะมาเป็นรัฐบาล ฝ่าฟันอะไรกันมาก็เยอะ น่าจะมาช่วยกันคิด ช่วยกันทำงานมากกว่า ในพื้นที่ภาคอีสานเราไปกันมาหลายที่แล้ว ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานีก็มียายเนียม นายกฯ ก็ไปที่นั่น ส่วนเรื่องใครจะมาจีบส.ส.ในพรรคให้ย้ายขั้วนั้น เราก็ต้องหนักแน่น
 
"ชวรัตน์" ชี้เป็นพรรคร่วมต้องช่วยกัน
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจและขู่จะลาออกหากพรรคประชาธิปัตย์ให้นายเนวิน ชิดชอบ คุมพื้นที่ภาคอีสานว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องช่วยกันอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะเป็นชนวนความขัดแย้งหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า ที่นายสุทัศน์ออกมาพูดน่าจะความสมานฉันท์มากกว่า ในการหาเสียงยึดหลักปรัชญาว่าสองแรงดีกว่าแรงเดียว ส่วนที่นายสุทัศน์จะลาออกนั้น ถือว่าเป็นสิทธิของท่าน เมื่อถามว่าการที่นายกฯลงพื้นที่อีสาน แสดงว่าจะมีการร่วมกันเจาะพื้นที่นี้หรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า หลังจากแพ้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สกลนคร ทำให้รู้ว่ากระแสฝ่ายตรงข้ามยังแรงอยู่ ดังนั้นต้องผนึกกำลังกันต่อสู้ เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามอีกว่ามีความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า เป็นห่วง หากคนไหนที่ไม่หวังดี ต้อง ระมัดระวัง
เผยนายกฯให้ "เนวิน" จัดงานวันแม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับประทานอาหารร่วมกับนายเนวิน ชิดชอบ ที่บ้านพิษณุโลกเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่มีการขอให้นายเนวินยกเลิกโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน นายอภิสิทธิ์จึงได้มอบโครงการเพื่อไม่ให้นายเนวินรู้สึกเสียหน้า โดยขอให้นายเนวินจัดงานวันแม่ 12 ส.ค.นี้ โดยใช้รูปแบบเดียวกับที่เคยจัดงานวันฉัตรมงคล 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการปิดถนนราชดำเนินตลอดทั้งสาย และจัดเวทีคอนเสิร์ต 9 เวที เพราะนายกฯเห็นว่าการจัดงานในครั้งที่แล้วภายใต้การกำกับดูแลของนายเนวินและกระทรวงในสังกัดพรรคภูมิใจไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีประชาชนเดินทางมาร่วมงานประมาณ 3 แสนคน และงานวันที่ 12 ส.ค.นี้ตัวเลขผู้ที่จะมาร่วมงานจะต้องไม่ต่ำไปกว่าเดิม สำหรับงบประมาณที่ใช้ครั้งก่อนมากกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รูปแบบในการจัดงานครั้งนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยการตัดสินใจทั้ง หมดขึ้นอยู่กับนายเนวิน แต่ขณะนี้นายเนวินอยู่ในระหว่าง เดินทางไปพักผ่อนที่ฮ่องกง
โฆษก ภท.อ้าง "ศักดิ์สยาม" แค่พูดเล่น
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้ สัมภาษณ์กรณีนายกรัฐมนตรีแสดงความไม่พอใจคำพูดของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประธานคณะทำงาน รมว. มหาดไทย ที่ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยจะทำงานร่วมกับรัฐบาลถึงแค่การผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2553 เท่านั้นว่า ได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายศักดิ์สยามแล้ว ได้รับคำชี้แจงว่าเป็นการพูดเล่นหยอกล้อกับสื่อมวลชน ไม่มีเจตนาจะบอกว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ร่วมทำงานกับรัฐบาล เราไม่มีปัญหาในการทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ และยังตั้งใจแก้ปัญหาให้บ้านเมืองร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอย่างเอาจริงเอาจัง ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจำเป็นต้องคุยปรับความเข้าใจกับนายเนวิน ชิดชอบ อีกครั้งหรือไม่ นายศุภชัยตอบว่า เข้าใจว่าผู้ใหญ่คงไปพูดคุยกัน แต่พรรคไม่มีปัญหาอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นนายเนวินได้โทรศัพท์มาสอบถาม บอกว่าตกใจกับคำพูดของนายศักดิ์สยาม จึงชี้แจงไปว่าเป็นแค่การพูดเล่นกับสื่อมวลชนเท่านั้น
"ชัย-เนวิน" เต้นโทร.เคลียร์ "อภิสิทธิ์"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พ่อของนายศักดิ์สยาม ได้โทรศัพท์เคลียร์กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนายศักดิ์สยามแค่พูดเล่นกับสื่อมวลชน ไม่ใช่การให้สัมภาษณ์ แต่สื่อกลับนำไปเสนอข่าว ยืนยันว่านายศักดิ์สยามไม่ได้หมายความว่าต้องทนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันช่วงเย็น นายเนวิน ชิดชอบ พี่ชายนายศักดิ์สยาม ก็โทรศัพท์ไปขอโทษนายอภิสิทธิ์ทันทีที่มีข่าวนี้ออกมา รวมทั้งโทรศัพท์ไปทำความเข้าใจกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ขณะที่นายอภิสิทธิ์ตอบไปว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องราว ก็ขออภัยที่ตอบโต้แรงไปหน่อย
ชทพ.กระทุ้งรัฐบาลเร่งปั๊มผลงาน
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงอาการป่วยของนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาว่า นายชุมพลออกจากโรงพยาบาลแล้ว อยู่ระหว่างการพักฟื้นอยู่ที่บ้าน สภาพร่างกายฟื้นตัวดีแล้ว และเริ่มทำงานอย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่บ้านด้วย คาดว่าจะสามารถเข้าประชุม ครม.วันที่ 9 ก.ค.ได้ สำหรับการทำงานของรัฐบาลนั้น ในฐานะที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลขอเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคร่วมมือกันทำงานในหน้าที่ที่รับมอบหมายของแต่ละกระทรวงอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่จับมือทางการเมืองหรือตอบโต้ประเด็นทางการเมืองรายวัน เพราะถ้าไม่มีผลงานก็คงไม่ช่วยให้มีสถานะยืนยาวได้ การที่ประชาชนบางส่วนจำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ เพราะจำที่ผลงาน แต่ไม่ใช่สงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ต้องทำงานและมีผลงาน เพื่อให้ผลงานทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณถูกลืมในที่สุด
พท.หยาม ปชป.อาจเสีย 2 เด้ง
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นัดกินข้าวกับนายเนวิน ชิดชอบ และนำไปสู่การประกาศลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ น่าสงสัยว่าภายในพรรคประชาธิปัตย์ เกิดอะไรขึ้นหรือไม่ มีความขัดแย้งหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เคยไปคุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พอมาวันนี้นายอภิสิทธิ์กลับไปกินข้าวกับนายเนวิน และเลือกที่จะเดินทางไปยัง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของนายเนวิน จากนั้นก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งที่ความจริงไปนัดคุยกันลับๆที่ไหนก็ได้ เหมือนต้องการจะบอกว่าให้นายเนวินเป็นผู้ดูแลจัดการภาคอีสาน เชื่อว่าหากเป็นไปตามนี้สุดท้ายแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะเสียถึง 2 เด้งคือ เสียนายสุทัศน์ขุนพลอีสาน รวมทั้งนายเนวินก็จะเจาะพื้นที่อีสานไม่สำเร็จ เพราะประชาชนยังคงให้ความนิยมศรัทธาพรรคเพื่อไทยอย่างเหนียวแน่น
ได้ทีจีบ "สุทัศน์" ย้ายพรรค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันเก่าแก่ มีแกนนำอีสานหลายคน แต่นายอภิสิทธิ์กลับไปเรียกใช้บริการนายเนวินเซอร์วิสนับเป็นการซื้อใจนายเนวินแบบสุดๆ คาดว่าอาจจะมีการจัดสรรงบประมาณก้อนใหญ่ตามมาเพื่อเป็นยาต่ออายุรัฐบาล ขอฝากไปยังนายสุทัศน์ที่ถือเป็นบุคลากรคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์แต่กำลังถูกลดความสำคัญลง ถ้าอึดอัดใจที่จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ต่อไปพรรคเพื่อไทยก็ยินดีต้อนรับ
ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ไทยรัฐ, แนวหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net