(11 มิ.ย.) ที่รัฐสภา คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายดิเรก ถึงฝั่ง เป็นประธาน ได้ประชุมหารือและมีมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 265 และ 266 เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ เช่น เลขานุการ ที่ปรึกษารัฐมนตรี เพื่อให้ส.ส.สามารถทำงานใกล้ชิดและช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น อันสอดคล้องกับระบบรัฐสภาสากลที่ให้ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในขณะเดียวกันได้

 

ส่วนรัฐธรรมนูญมาตรา 190 นายดิเรก กล่าวว่า ให้คงหลักการเดิมของที่เกี่ยวกับการทำหนังสือสัญญากับต่างประเทศที่ต้องได้ รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่เสนอให้มีการกำหนดประเภทของหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และให้เร่งรัดออกกฎหมายกำหนดประเภทขั้นตอน และวิธีการจัดทำหนังสือสัญญา เพราะปัจจุบันเป็นอุปสรรคในการทำงานของรัฐบาล

นายดิเรก กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นการบัญญัติพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ การพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีศาลเดียว และการให้มีศาลเลือกตั้งตัดสินใบแดงใบเหลืองแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งก่อนและหลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนั้น คณะกรรมการฯ จะไม่มีการเสนอความคิดเห็นในประเด็นเหล่านี้ แต่จะเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ในอนาคตดำเนินการเรื่องนี้เอง ในส่วนของตารางการทำงานของคณะกรรมการฯหลังจากนี้ กำหนดไว้ว่าวันที่ 16 มิ.ย. จะพิจารณาแผนปฏิบัติของคณะอนุกรรมการสมานฉันท์ วันที่ 17 มิ.ย.พิจารณาแผนปฏิบัติของคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเมือง ส่วนวันที่ 18-20 มิ.ย.ฝ่ายเลขานุการจะสรุปและเขียนรายงานผลการทำงานทั้งหมด และสัปดาห์ถัดไปจะประสานนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาเพื่อกำหนดวันเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาร่วมประชุมพร้อมกับการส่งมอบผลการทำงานต่อไป.