เจรจาแก้ปัญหา "ป่าเทือกเขาบรรทัด" เหลว สะดุดตั้งแต่ขอให้ย้าย 2 เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ "อธิบดีกรมอุทยานฯ" ตีลูกเซ่อ ยันไม่มีอำนาจสั่งย้าย ประสานสมัชชาคนจน - เครือข่ายป่าชุมชน เตรียมบุกกรุงฯ จัดชุมนุมใหญ่จี้นายกฯ แก้ปัญหา
ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 มกราคม 2550 เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด จากจังหวัดตรัง พัทลุง และนครศรีธรรมราชกว่า 1,000 คน ได้เดินทางมาชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อรับฟังผลการเจรจาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ทับที่ดินทำกิน ระหว่างตัวแทนเครือข่ายฯ กับนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
การเจรจาเริ่มขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. โดยทางตัวแทนเครือข่ายฯ ขอให้ย้ายนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และนายคม ชัยภักดี หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนเต๊ะ ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้ลงโทษทางวินัย เนื่องจากละเมิดข้อตกลง เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2550 ที่ระบุว่า ในระหว่างที่ยังหาข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้าน ที่ถูกประกาศเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทับที่ดินทำกินไม่ได้ ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องชะลอหรือยุติการดำเนินการต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนให้ชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงให้มีการลงโทษทางวินัย
ต่อมา เวลาประมาณ 15.00 น. นายเฉลิมชัย คำเหมือน ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้ออกมาชี้แจงกับผู้ร่วมชุมนุมว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชบอกว่า ไม่มีอำนาจในการสั่งย้ายนายสนิทกับนายคม พร้อมกับขอเวลาตรวจสอบข้อมูล 7 วัน เมื่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชไม่มีอำนาจสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนออกจากพื้นที่ นั่นหมายถึงอธิบดีไม่มีอำนาจแก้ไขปัญหาของประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนได้ ทางเครือข่ายฯ จึงยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อรอไปพบนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาภาคใต้ ในวันที่ 27 มกราคม 2550 นี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 - 18 มกราคม 2550 ทางเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ได้ชุมนุมขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากกรณีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ทับที่ดินทำกิน โดยนายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ประสานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนที่มีอำนาจ เดินทางมาเจรจาเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกับทางเครือข่ายฯ ในวันที่ 25 มกราคม 2550
ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยังหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ ให้เจ้าหน้าที่ยุติการข่มขู่ คุกคาม และดำเนินคดีกับชาวบ้าน ตลอดจนยินยอมให้ชาวบ้านพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานในหมู่บ้านได้ หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ให้มีการลงโทษทางวินัย
ต่อมา วันที่ 20 มกราคม 2550 ขณะที่ชาวบ้านในตระ หมู่ที่ 2 ตำบลปะเหลียน อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ขนปูนไปซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน นายคม ชัยภักดี หัวหน้าหน่วยรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนเต๊ะ พร้อมเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่งได้ยึดปูนของชาวบ้าน อ้างว่าปฏิบัติตามคำสั่งของนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลง ที่ลงนามร่วมกันระหว่างชาวบ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า ผู้อำนวยการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่มีผลตามกฎหมาย ถ้าต้องการได้รับการยกเว้น ต้องให้ผู้มีอำนาจอนุญาต คือ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้สั่งการ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทางเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ได้ประสานไปยังสมัชชาคนจน และเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศ เพื่อเตรียมจัดชุมนุมครั้งใหญ่ ที่กรุงเทพมหานครในเร็วๆ นี้
000
แถลงการณ์ฉบับที่ 3
การรวมพลังของเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดเมื่อวันที่ 17-18 มกราคมพิสูจน์อีกครั้งถึงสัจธรรมข้อที่ว่าชัยชนะของประชาชนจะได้มาก็ด้วยการต่อสู้เท่านั้น
พวกเราได้บรรลุข้อตกลงในเชิงหลักการกับราชการเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกข้อตามที่เราเสนอคือให้ชะลอการจับกุม การทำลายทรัพย์สิน ชะลอการดำเนินคดีกับชาวบ้าน ให้ชาวบ้านสามารถพัฒนาสาธารณูปโภคได้ สามารถกำหนดขอบเขตพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยได้ จนกว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันที่ชัดเจน
การยุติการชุมนุมเป็นการพักยกชั่วคราวเพื่อให้ทั้งส่วนราชการและพวกเราได้กลับไปเตรียมตัวสำหรับการกำหนดวิธีปฏิบัติตามหลักการให้เกิดเป็นจริงขึ้นมา แล้วจะกลับไปเจรจาใหม่รอบ 2 ในวันที่ 25 มกราคมอันจะเป็นการเจรจาเพื่อกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติได้จริงของข้อตกลงเชิงหลักการ
แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์อัปยศขึ้น คือหลังจากการตกลงในเวทีเจรจาเมื่อวันที่ 18 มกราคมแล้วได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้บางคนละเมิดข้อตกลงที่ตนเองร่วมลงนามอย่างจงใจ ด้วยการจับกุมขัดขวางยึดทรัพย์สินชาวบ้านในตระ หมู่ที่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรังที่ร่วมกันซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้านเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงของชาวบ้านกับบุคคลระดับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นเชื่อถือไม่ได้
เมื่อเป็นอย่างนี้จะให้เราเชื่อมั่นในข้อตกลงกับราชการที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้อย่างไร?
เครือข่ายฯ จึงต้องการให้ลงโทษเจ้าหน้าที่รายนั้นๆตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยต้องย้ายเจ้าหน้าที่ผู้จงใจทำผิด 2 คนคือนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และนายคม ชัยภักดี หัวหน้าหน่วยโตนเต๊ะ ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่าและเขตรักษ์พันธ์ป่าเขาบรรทัดโดยทันทีภายใน24 ชั่วโมง และต้องลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด
เมื่อนั้นก็จะเรียกความเชื่อมั่นของพวกเราต่อเกียรติและศักดิ์ศรีของราชการให้กลับคืนมา เนื่องจากเป็นการพิสูจน์ให้เราเห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและราชการส่วนใหญ่ที่ลงนามยังเคารพในข้อตกลงกับประชาชนว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่รับปากลอยๆเพียงเพื่อสลายการชุมนุมเท่านั้น
พวกเราจึงขอประกาศว่าจะเริ่มชุมนุมอย่างยืดเยื้อตั้งแต่บัดนี้ และข้อเรียกร้องแรกสุดคือต้องย้ายและลงโทษเจ้าหน้าที่ 2 คนนี้เสียก่อน หลังจากนั้นการเจรจาข้อตกลงอื่นจึงจะดำเนินต่อไปได้.
เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด และพันธมิตร
25 มกราคม 2550
ณ ศาลากลางจังหวัดตรัง
000
ศาลากลางจังหวัดตรัง
25 มกราคม 2550
เรื่อง ขอให้ย้ายและลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดข้อตกลงและมีพฤติกรรมอื่นที่ไม่โปร่งใส
เรียน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ พันธ์พืช และสัตว์ป่า
สิ่งที่ส่งมาด้วย บันทึกข้อตกลงระหว่างทำหนังผู้แทนเครือข่ายฯกับตัวแทนภาครัฐฯวันที่ 18 มกราคม 2550
จากการที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้เจรจาตกลงกับเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2550 จนบรรลุเจตนารมย์ร่วมกันในเชิงหลักการเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือให้ชะลอการจับกุม การทำลายทรัพย์สิน ชะลอการดำเนินคดีกับชาวบ้าน ให้ชาวบ้านสามารถพัฒนาสาธารณูปโภคได้ สามารถกำหนดขอบเขตพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยได้ จนกว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันที่ชัดเจน จากนั้นจะกลับไปเจรจาใหม่รอบ 2 ในวันที่ 25 มกราคมอันจะเป็นการเจรจาเพื่อกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติได้จริงตามข้อตกลงเชิงหลักการ
แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์อัปยศขึ้น คือหลังจากการตกลงในเวทีเจรจาเมื่อวันที่ 18 มกราคมแล้วได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คนละเมิดข้อตกลงที่ตนเองร่วมลงนามอย่างจงใจ ด้วยการจับกุมขัดขวางยึดทรัพย์สินชาวบ้านในตระ หมู่ที่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรังที่ร่วมกันซ่อมแซมเส้นทางเข้าหมู่บ้านเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงของชาวบ้านกับบุคคลระดับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นเชื่อถือไม่ได้
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนยังมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เช่น ปล่อยปละละเลยให้มีการแปรรูปไม้เพื่อการค้าแล้วใส่ร้ายให้กับสมาชิกเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด มีการรายงานเท็จว่าผู้ที่ออกมาชุมนุมเป็นผู้บุกรุกทำลายป่าตนเองเป็นผู้ออกมาปกป้องรักษาป่าเพื่อให้ตนเองได้เลื่อนตำแหน่ง พฤติกรรมเช่นนี้จะก่อให้เกิดปัญหาทวีคูณยิ่งขึ้น และไม่สามารถจะแก้ปัญหาอย่างสมานฉันท์ได้ และยังมีพฤติกรรมอื่นๆที่ไม่มีหลักฐานเป็นเอกสารแต่เป็นที่รู้กันของชาวบ้านในชุมชนอีกมากมาย
เมื่อเป็นอย่างนี้จะให้เราเชื่อมั่นในข้อตกลงกับราชการที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้อย่างไร?
เครือข่ายฯ จึงขอให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชทำตามข้อตกลงโดยลงโทษเจ้าหน้าที่รายนั้น โดยต้องย้ายเจ้าหน้าที่ผู้จงใจทำผิด 2 คนคือนายสนิท องศารา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด และนายคม ชัยภักดี หัวหน้าหน่วยโตนเต๊ะ ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่เขาย่าและเขตรักษ์พันธ์ป่าเขาบรรทัดโดยทันทีภายใน 24 ชั่วโมง และต้องลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดทั้งความผิดจากการละเมิดข้อตกลงในวันที่ 18 มกราคม 2550 และความผิดจากความไม่โปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อนั้นก็จะเรียกความเชื่อมั่นของพวกเราต่อเกียรติและศักดิ์ศรีของราชการให้กลับคืนมา เนื่องจากเป็นการพิสูจน์ให้เราเห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและราชการส่วนใหญ่ที่ลงนามยังเคารพในข้อตกลงกับประชาชนว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่รับปากลอยๆเพียงเพื่อสลายการชุมนุมเท่านั้น
พวกเราจึงขอประกาศว่าจะเริ่มชุมนุมอย่างยืดเยื้อตั้งแต่บัดนี้ และข้อเรียกร้องแรกสุดคือต้องย้ายและลงโทษเจ้าหน้าที่ 2 คนนี้เสียก่อน หลังจากนั้นการเจรจาข้อตกลงอื่นจึงจะดำเนินต่อไปได้
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาโดยทันที.
ขอแสดงความนับถือ
เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)