Skip to main content
sharethis

อำเภอสันกำแพงเป็นที่สนใจของผู้ติดตามข่าวทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากการทำการยึดอำนาจรัฐประหารการบริหาร-การปกครอง จากรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดย "คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" — ซึ่งเป็นความผันผวนทางการเมืองครั้งล่าสุดในประเทศไทย

กับคำถามที่ว่าทำไม อ. สันกำแพง ถึงกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้งน่ะหรือ?  ก็เพราะว่าความทรงจำอะไรหลายอย่างของ พ.ต.ท. ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ที่นั่น ...

000

ทีมข่าวประชาไทได้ลงเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอสันกำแพงพร้อมด้วย เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา

สภาพบรรยากาศของอำเภอสันกำแพง ในด้านของเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตนั้น ยังคงเรียบง่าย เฉกเช่นที่เคยเป็นมาก่อนการทำรัฐประหาร...จากการสอบถาม พบว่าตั้งแต่คืนรัฐประหาร ไม่มีรถถังหรือแม้แต่ทหารคนใดย่างกลายมาเพื่อรักษาความสงบหรือตรึงกำลังในพื้นที่ตัวเมืองอำเภอสันกำแพงและใกล้เคียง

แต่ภายใต้ภาพเดิมๆ ที่ผู้คนในสันกำแพงดำเนินไปตามกิจวัตรนั้น ความรู้สึกและอารมณ์ร่วมของคนในสันกำแพงจะเป็นเช่นใด? มันเป็นคำถามที่ชวนให้สงสัยสำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ของเราและเพื่อนผู้สื่อข่าวต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

ทีมงานประชาไทได้เดินทางไปยังจุดสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บ่อสร้าง,ย่านร้านค้า,วัดโรงธรรมสามัคคี อันเป็นสถานที่บรรจุอัฐิของบรรพบุรุษของตระกูลชินวัตร,ร้านชินวัตรพาณิชย์, ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเชย ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชื่นชอบและคุ้นเคยมาแต่เด็กๆ เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา

ป้ายบอกทางใกล้ถึงบ่อสร้าง-สันกำแพง แล้ว

ถนนสายสันกำแพง-เชียงใหม่

ร้านขายร่มบ่อสร้าง

ย่านอุตสาหกรรมทำร่มบ่อสร้างนักท่องเที่ยวเบาบางตา

ร้านขายกาแฟ  ย่านตลาดสันกำแพง ยังมองเห็นภาพอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ คุณหญิงพจมาน ติดอยู่หน้าตู้กระจก

ภายในร้านชินวัตรพาณิชย์ ดูเงียบเหงา

วัดโรงธรรมสามัคคี วัดประจำครอบครัวของตระกูลชินวัตร

สถานที่เก็บบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร อยู่ด้านหลังวัดโรงธรรมสามัคคี

ร.ร.บ้านสันกำแพง คือสถานศึกษาระดับชั้นประถม 4 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ป้ายขนาดใหญ่ ที่ติดอยู่ทางแยกวงแหวนตัดใหม่ อีกไม่นานคงหายไป

ป้ายชินวัตรพาณิชย์ ของญาติ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งอยู่ติดถนน

ร้านลุงเชยก๋วยเตี๋ยว  ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชื่นชอบและคุ้นเคยมาตั้งแต่เยาว์วัย

ย่านตลาดการค้า ในเขตเทศบาลตำบลสันกำแพง

000

เมื่อทีมงานประชาไท เข้าไปสอบถามความคิดเห็นในเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจหลังการประกาศของคณะปฏิรูปฯ กับพ่อค้าขายล็อตเตอรี ทุกคนแสดงสีหน้าไม่สู้ดี ส่ายหัว บอกไม่รู้เรื่อง ไม่อยากพูด เพียงครู่เดียว พ่อค้าขายล็อตเตอรีกลุ่มนั้น ก็เก็บแผงแยกย้ายหายไปจากถนนฟุตบาท

และเมื่อทีมงานเดินไปสอบถามความคิดเห็นของ ร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นบริเวณด้านหน้า ชินวัตรพาณิชย์ เขาตกใจ อึ้ง พูดไม่ออก ก่อนเดินหายเข้าไปในร้านทันที

บางคนบอกว่า ไม่อยากพูด อยากอยู่เงียบๆ พร้อมกับสายตาจ้องมองทีมงาน ด้วยสายตาที่ระแวงระไว

พวกเขาหวาดกลัวใคร ใครทำให้บรรยากาศเป็นเช่นนี้...หลายคนเริ่มตั้งคำถาม

คำบอกเล่าจากการพูดคุยสอบถามกับคนสันกำแพง  ยังคงเป็นเหมือนคนในพื้นที่อื่นๆ ในเชียงใหม่ ที่ยังดูเหมือนว่ายังคงไม่ค่อยมั่นใจในการแสดงความเห็นกับ "คนแปลกหน้า" เท่าใดนัก สำหรับสถานการณ์ในช่วงเวลานี้ หมอกควันแห่งความอึมครึมยังคงปกคลุมเบียดบังยอดเขาแห่งเสรีภาพเช่นเคย ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักหลังจากการทำรัฐประหารในวันแรก

ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต อ.สันกำแพง คนหนึ่ง บอกกับทีมงานประชาไท ด้วยสีหน้าเศร้าและปวดร้าวในถ้อยคำของคนบางกลุ่มที่มองสันกำแพงด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายได้

"ระวังนะ! สันกำแพงจะถูกลบออกจากแผนที่ประเทศไทย" ถ้อยคำอันน่ารังเกียจนี้ถูกเปล่งออกมาจากปากคนที่ไม่มีความรับผิดชอบที่สุด ในสภาวะที่คนไทยต้องรับการเยียวยาความตระหนกตกใจหลังการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญครั้งแรกของประเทศไทยในศตวรรษที่ 21

.. สิ่ง "ถูก-ผิด" ต่างๆ กำลังรอการตัดสิน และเป็นเรื่องของ "ฝ่ายปกครองใหม่" กับ "ฝ่ายปกครองเก่า" ที่คงจะทำการสะสางกันเอง บนพื้นฐานของอำนาจที่ตนมีและพึงจะใช้มัน สำหรับ คนตัวเล็กๆ และชาวบ้านตาดำๆ เฉกเช่นพวกเราก็คงต้องก้มหน้าก้มตารอรับ "สิ่งใหม่" ซึ่งอาจจะเป็น "การกำหนดชะตาชีวิตด้วยน้ำมือของพวกเราเอง" หรือการ "พยายามใช้ชีวิตตามกรอบ" ที่เขาขีดไว้ให้เรา อย่างที่เคยเป็นมา .... ณ เวลานี้เราคงได้แต่ รอ รอ รอ และรอ ว่ามันจะออกมาในรูปไหน

และสำหรับในช่วงที่ "สิทธิ - เสรีภาพ" ของคนที่ "ไร้อำนาจ" เช่นพวกเราถูกจำกัดอยู่นี้ จะด้วยอารมณ์ร่วมชั่ววูบที่ทำให้เราอุ่นใจไปได้กับมันช่วงหนึ่งและพาลให้เราคิดว่าเราสามารถทำอะไรก็ได้ตามกรอบการ "สะสางอดีต-ปัจจุบัน" ของ "อำนาจ" นั้น ... การ "ซ้ำเติม" ผู้อื่นย่อมเป็นอะไรที่ดูเหมือนเป็นการ "ทำร้ายคนตัวเล็กๆ กันเอง"  และคนตัวเล็กๆ ไม่สมควรโดยทำร้ายไปมากกว่านี้แล้ว

เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่ภาวนาให้ "ชีวิตแต่ละคนสุขสงบ" และขอ "เสรีภาพ" ของเรากลับคืนมาให้เร็วที่สุด ...สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net