ประชาไท - 1 มี.ค.48 นายจักรภพ เพ็ญแข โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่าเดือนมกราคมที่ผ่านมาประเทศไทยขาดดุลการค้าจำนวนมากประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งจากการหารือในครม.พบว่ามีการนำเข้าสินค้าทุน เช่น เครื่องจักร เครื่องมือแพทย์ค่อนข้างมาก ที่สำคัญมีการนำเข้าทองคำช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนจำนวนมาก ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประเทศไทยอยู่ในภาวะส่งออกน้อยกว่านำเข้า

โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เอาจริงเอาจังในการติดตามบทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการนำเข้าที่ยังปรากฏ รวมทั้งให้รัดโครงการเอทานอลด้วย

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการนำเข้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาขยายตัวสูงขึ้นมาก เพราะผู้ประกอบการจำนวนมากถือโอกาสช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งกักตุนวัตถุดิบไว้เพื่อลดต้นทุน อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์คาดว่า ในปี 2548 ภาวะการค้าต่างประเทศจะยังคงเกินดุล 500-1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาวะการค้าต่างประเทศขาดดุลสูงถึง 1,475 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากที่เกินดุล 813 เหรียญสหรัฐในเดือนก่อน ทำให้นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวลและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับรูปแบบของภาคอุตสาหกรรมที่รับจ้างผลิตสินค้าเพื่อส่งออก เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ภาวะการค้าขาดดุลมากขึ้น ให้เปลี่ยนเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบในประเทศ เพื่อรองรับการเปิดเขตเสรีทางการค้าที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้