ประชาไท -- 1 พ.ย. 2547 -- อเมริกาเชื่อ หวัดนกระบาดในคน เตรียมรับมือด้วยวัคซีนจากบริษัทยา ขณะที่อังกฤษยังคงห้ามขายเนื่องจากพบสารปนเปื้อน

ดร. แคทลีน นิวซิล จาก สคูล ออฟ เมดิซีน มหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวในการประชุมร่วมกันของสมาคมจุลชีววิทยาและสมาคมโรคติเชื้อ สหรัฐอเมริกาว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้องมีวัคซีน ยา และข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ เพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก

ดร.นิวซิลกล่าวว่า หนทางที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่คือการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคดังกล่าวอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่กำลังดำเนินการผลิตวัคซีนดังกล่าว

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกาได้ทำสัญญากับบริษัทอเวนติส พาสเตอร์ อิงค์และบริษัทชิรอน คอร์ป ทำการผลิตวัคซีนจำนวน 2.4 ล้านโดส

ทว่าขณะนี้ ทางการอังกฤษได้สั่งห้ามจำหน่ายวัคซีนของบริษัทดังกล่าว ซึ่งทำการผลิตจากโรงงานในเมืองลิเวอร์พูล เนื่องจากตรวจพบสารปนเปื้อน คำสั่งห้ามดังกล่าวส่งผลให้สหรัฐอเมริกาไม่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัด 48 ล้านโดสจากที่คาดไว้ 100 ล้านโดส และส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลต้องพยายามหาวัคซีนเพิ่มอีกหลายล้านโดส ซึ่งดร. นิวซิลกล่าวว่าเป็นสถานการณ์เลวร้ายสำหรับหลักประกันการระบาดของไข้หวัด

นอกจากปัญหาเรื่องวัคซีนไม่เพียงพอแล้ว ยาที่สามารถรับมือกับโรคไข้หวัดก็อยู่ในภาวะขาดแคลนด้วย โดยมียาเพียง 4 ชนิด ซึ่งได้แก่ ยา oseltamivir หรือ Tamiflu ของบริษัทโรช, ยา amantadine, rimantadine และ zanamivir ที่จัดจำหน่ายโดยบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ ภายใต้แบรนด์ Relenza ซึ่งยาดังกล่าวก็มีอยู่ในปริมาณที่ไม่เพียงพอเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางส่วนที่เข้าร่วมประชุมเชื่อว่า หากมีการใช้วัคซีน Prevnar pneumococcal ของบริษัท Wyeth ในเด็กชาวสหรัฐกันอย่างกว้างขวาง ก็จะส่งผลในอนาคตทำให้อัตราการติดเชื้อในผู้ใหญ่ลดลง

ประชาไทรายงาน