ศูนย์ข่าวภาคเหนือ- 19 ต.ค.47 ชาวบ้านแม่เมาะและสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ออกโรงจวก"จิ๋ว" หลังพลิกลิ้นให้ชะลอการอพยพชาวบ้านออกนอกพื้นที่เสี่ยงภัย ชี้ปัญหาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 4 ปี มีคนป่วยและเสียชีวิตกว่า 100 ราย

เครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ กรณีการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง โดยมีใจความสรุปว่า จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2547 ได้พิจารณาเห็นชอบให้มีการอพยพโยกย้ายราษฎรบ้านหัวฝาย หมู่ที่ 1 ต.บ้านดง บ้านห้วยเป็ด หมู่ที่ 1 และบ้านห้วยคิง หมู่ที่ 6 ต.แม่เมาะ ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาฯ หลังจากนั้น นายอำเภอแม่เมาะ ได้มีหนังสือเชิญประชุมเพื่อหารือแนวทาง และจัดประชาคมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2547 แล้วนั้น

ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางสำนักนายกรัฐมนตรี กลับมีหนังสือที่ลงนามโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ให้ชะลอการดำเนินการอพยพโยกย้ายชาวบ้าน

พล.อ.ชวลิต อ้างว่า ทางกระทรวงพลังงานได้ติดตามการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน อ.แม่เมาะ พบว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ จนไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของราษฎรในชุมชนที่อยู่อาศัยและพืชผลแต่อย่างใด

รวมทั้งทาง กฟผ.) ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนชุมชน จัดตั้งกองทุนพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้ความเป็นอยู่ของชุมชนดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินอ.แม่เมาะ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เห็นควรชะลอการประชุมจัดทำประชาคมไว้ก่อน และให้ติดตามผลการแก้ไขปัญหาของ กฟผ.

นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขากองสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ กล่าวว่า เห็นได้ว่า คำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้านที่เจ็บป่วยล้มตายจากมลพิษที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ที่มีความประสงค์จะย้ายอพยพออกจากพื้นที่อันตรายตามมติของจังหวัด

"จึงขอเสนอข้อเรียกร้อง คือ ให้ยกเลิกคำสั่งชะลอการประชุมคณะอนุกรรมการฯโดยทันที และให้เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2547 และการที่กระทรวงพลังงานแจ้งว่า กฟผ. ได้ปรับปรุงแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ตามมาตราฐานที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดลำปาง ได้มีคำพิพากษาให้ กฟผ. เป็นผู้จ่ายค่าเสียหายแก่ราษฎร จำนวน 77 ราย รวมเป็นเงินทั้งหมด 3.2 ล้านบาท และจากปี 2544 จนถึงปัจจุบันนี้ มีชาวบ้านได้เจ็บป่วยและล้มตายจากมลพิษแล้ว กว่า 100 ศพ และยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งมันค้านกับมติของครม. อย่างสิ้นเชิง" นายสุริยันต์ กล่าว

นายสุริยันต์ ยังเปิดเผยอีกว่า เราเห็นว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ความเดือดร้อนทุกข์ยากของชาวบ้านแม่เมาะ ได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องแล้ว ยังถูกการไฟฟ้าแม่เมาะทำลายความชอบธรรม และยังพยายามสลายมวลชนตลอดมา แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษได้ ดังนั้น พวกเราจึงขอความเป็นธรรมมายังนายกรัฐมนตรีว่า หากรัฐต้องการพลังไฟฟ้าจากเหมืองถ่านหินแม่เมาะ รัฐจะต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งดูแลชดเชยเสียหาย ซึ่งชาวบ้านต้องเสียสละอวัยวะและร่างกายเพื่อความเจริญของชาติมายาวนาน

องอาจ เดชา
ศูนย์ข่าวภาคเหนือรายงาน