ประชาไท-18 ต.ค. 47 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่วันที่ 18-19 ต.ค.47 นี้ สภาเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใน 4 ประเด็นหลักได้แก่ การประกาศเขตเศรษฐกิจชายแดนจังหวัดตาก ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แม่สอด กำหนดพัฒนาเป็นเขตการลงทุนด้านอุตสาหกรรม การค้าและท่องเที่ยว ส่วนอ.พบพระและอ.แม่ระมาด กำหนดพัฒนาการผลิตด้านเกษตรและอุตสาหกรรมเชื่อมโยงกับอ.แม่สอด

ภายใต้แนวทางและแผนปฏิบัติการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน จ.ตาก ให้เป็นฐานผลิตหลักตามแนวเศรษฐกิจเชื่อมโยงตะวันออก-ตะวันตกภายใต้กรอบ GMS และเป็นพื้นที่พัฒนานำร่องในลักษณะเมืองคู่แฝดระหว่างไทย-พม่า (แม่สอด-เมียวดี) แห่งแรกภายใต้ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ACMECS)

ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการส่งเสริมให้มีการเข้าลงทุนทั้งด้านอุตสาหกรรมและการบริการ โดยระยะแรกให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดตามกฎหมายที่มีในปัจจุบัน ได้แก่ การลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม : เห็นควรให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้วของ 3 หน่วยงานหลัก คือ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กรมศุลกากร และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) เพื่อจัดให้มีเขตนิคมอุตสาหกรรมทั่วไป (กฎหมาย กนอ.) ที่ได้รับสิทธิประโยชน์แบบเขตปลอดอากร (กฎหมายกรมศุลกากร) พร้อมสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้ (กฎหมาย สกท.) ตลอดจนจัดให้มีมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่ จัดให้มี One Stop Service เขตนิคมอุตสาหกรรม และการผ่อนปรนการใช้แรงงานต่างด้าว

ด้านการค้า บริการ การท่องเที่ยว : สนับสนุนการจัดตั้งร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์บรรจุและขนส่งสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ คลังสินค้าทัณฑ์บน โดยอาศัยกฎหมายกรมศุลกากร ในขณะที่ด้านท่องเที่ยวสนับสนุนการจัดตั้งที่พัก โรงแรม โดยอาศัยกฎหมาย สกท. นอกจากนี้ จัดให้มี One Stop Service บริเวณด่านชายแดน อำนวยความสะดวกผ่านเข้า-ออกสินค้าและคน

การดำเนินการตามแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลทางปฏิบัติในระยะเวลาที่กำหนด ตามแผนปฏิบัติการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจชายแดน จังหวัดตาก รวมทั้งการขอรับจัดสรรงบกลางปี 2548 เพื่อดำเนินโครงการจำเป็นเร่งด่วน 3 กลุ่ม คือกลุ่มโครงการพัฒนาพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานหลัก กลุ่มโครงการพัฒนาเมืองชายแดน และ แผนงานสนับสนุนสังคม สิ่งแวดล้อม และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ปิ่นแก้ว อุ่นแก้ว
ประชาไทรายงาน