Skip to main content
sharethis

รายงานจาก Stateline ชี้ว่าขณะที่ชาวต่างชาติต่างพากันซื้อที่ดินทางการเกษตรหรือ 'ฟาร์ม' ในสหรัฐอเมริกา ท้องถิ่นต่าง ๆ ก็ต้องการจำกัดบางประเทศเช่น 'จีน-รัสเซีย' ให้อยู่ห่าง ๆ


ที่มาภาพประกอบ: Thomas Cizauskas (CC BY-NC-ND 2.0)

Stateline สื่อที่เกาะติดประเด็นท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2023 ว่าแอนดี้ กิ๊บสัน (Andy Gibson) กรรมาธิการการเกษตรและพาณิชย์ของรัฐมิสซิสซิปปี รู้สึกกังวลแม้กระทั่งเมื่อพันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างเนเธอร์แลนด์และเยอรมนี เข้ามาลงทุนในพื้นที่ฟาร์มอันกว้างใหญ่ในรัฐมิสซิสซิปปี

"มันแค่รบกวนผมในระดับสัญชาตญาณเท่านั้น" เขากล่าว

สำหรับกิ๊บสัน แนวโน้มของการเป็นเจ้าของที่ดินจากต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นอาจคุกคามทรัพย์สินที่ทรงคุณค่าที่สุดของรัฐ นั่นคือที่ดินผืนป่า ไร่ข้าวโพด และไร่ฝ้าย

"มันคือความสามารถของเราในฐานะประเทศ ในฐานะรัฐ ที่จะผลิตอาหาร และที่อยู่อาศัยของเราเอง" เขากล่าวกับ Stateline "และผมคิดว่าทุก ๆ ไร่ที่ขายให้กับใครก็ตามนอกประเทศนี้ เราก็จะมีไร่ที่น้อยลงหนึ่งไร่ ที่เราต้องพึ่งพาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เพื่อความมั่นคงด้านอาหารของชาติ"

กิ๊บสันใช้เวลาหลายเดือนที่ผ่านมาในการศึกษาปริมาณที่ดินทางการเกษตรของรัฐซึ่งถูกซื้อโดยผู้มีส่วนได้เสียจากต่างชาติ เขาเป็นประธานคณะกรรมการศึกษาที่เพิ่งออกรายงานความยาว 363 หน้า เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวตามคำร้องขอของสภานิติบัญญัติของรัฐมิสซิสซิปปี หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติคนหนึ่งเสนอร่างกฎหมายห้ามการซื้อขายโดยชาวต่างชาติอย่างเด็ดขาด

รายงานระบุว่า รัฐมิสซิสซิปปีมีข้อบังคับการเป็นเจ้าของที่ดินโดย "คนต่างด้าวที่ไม่ใช่ผู้อาศัย" ตั้งแต่ปี 1890 แต่คณะกรรมการสรุปว่า กฎหมายของรัฐในปัจจุบัน "ขาดกลไกการบังคับใช้ที่ชัดเจนและใช้งานได้" กระทรวงเกษตรกรรมของสหรัฐฯ รายงานว่าผู้มีส่วนได้เสียจากต่างชาติถือครองที่ดินทางการเกษตรของมิสซิสซิปปีประมาณ 757,000 ไร่ หรือประมาณ 2.5% ของทั้งหมด กิ๊บสันหวังว่าสภานิติบัญญัติซึ่งพรรครีพับลิกันเป็นผู้นำ จะผ่านกฎหมายอันเข้มงวดได้ในสมัยประชุมหน้า

"ผมคิดว่าปี 2024 จะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสภานิติบัญญัติที่จะผ่านกฎหมายเหล่านี้" เขากล่าว

หากสภานิติบัญญัติดำเนินการ มิสซิสซิปปีจะเป็นอีกหนึ่งรัฐที่ต้องการห้ามหรือจำกัดการเป็นเจ้าของที่ดินทางการเกษตรของชาวต่างชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติในหลายรัฐกำลังกำหนดเป้าหมายไปที่ประเทศที่ถือว่าเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เช่น จีนและรัสเซีย และกำลังมองหาแนวทางการบังคับใช้ใหม่ หลายคนมองว่า รัฐอาร์คันซอเป็นผู้นำในการผลักดันหลังรัฐบาลท้องถิ่นที่นั่นบังคับใช้กฎหมายใหม่ในเดือน ต.ค. 2023 ซึ่งห้ามเจ้าของชาวต่างชาติบางราย และสั่งให้บริษัทเมล็ดพันธุ์ของจีนขายที่ดินของตนเอง

ไมกาห์ บราวน์ (Micah Brown) ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกษตรกรรม จากมหาวิทยาลัยอาร์คันซอ กล่าวว่า แม้ว่าการถกเถียงจะเก่าแก่พอๆ การก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ประเด็นนี้กลับถูกรื้อฟื้นคืนมาอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลังจากที่บริษัทจีนซื้อที่ดินใกล้กับค่ายทหารในนอร์ทดาโคตาและเท็กซัส 

บราวน์ชี้ว่าในปี 2023 สมาชิกสภานิติบัญญัติใน 36 รัฐ เสนอกฎหมายเกี่ยวกับประเด็นนี้ ตั้งแต่การจำกัดจำนวน ไปจนถึงการห้ามขายโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบางประเทศ มีกฎหมายที่ผ่านการอนุมัติไปแล้วประมาณ 12 รัฐ และคาดว่าจะมีร่างกฎหมายอีกมากในสมัยประชุมหน้า

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภานิติบัญญัติและผู้เชี่ยวชาญบางคนกังวลว่า กฎหมายที่เข้มงวดเกินไป อาจส่งผลเสียหลายด้าน เช่น เกษตรกรบางรายอาจขายที่ดินได้ยาก ยับยั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น ชาวเอเชีย-อเมริกัน

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2021 ระบุว่า ชาวต่างชาติมีส่วนร่วมในที่ดินการเกษตรของสหรัฐฯ ประมาณ 40 ล้านไร่ โดยนักลงทุนจากแคนาดาถือครองมากที่สุด รองลงมาคือสหราชอาณาจักรและยุโรป การถือครองของชาวต่างชาติคิดเป็นเพียง 3.1% ของที่ดินการเกษตรในมือเอกชนทั้งหมดของสหรัฐฯ แต่ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว: บราวน์กล่าวว่าการถือครองของชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ข้อมูลของกระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐฯ ยังแสดงว่า การถือครองของจีนยังค่อนข้างน้อย: ผู้มีส่วนได้เสียชาวจีนถือครองที่ดินการเกษตรในต่างประเทศของสหรัฐฯ น้อยกว่า 1%

ปัจจุบัน รัฐบาลกลางยังไม่มีกฎหมายควบคุมการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ ไปมากว่าให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติต้องลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรกรรมสหรัฐฯ แต่ในสภาคองเกรส มีความสนใจจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการเข้มงวดและการรายงานการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ

ในระดับรัฐ กฎหมายส่วนใหญ่ได้รับการเสนอโดยพรรครีพับลิกัน บราวน์กล่าวว่าแม้ว่ากฎหมายเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวบทกฎหมายกำหนดเป้าหมายไปที่การเป็นเจ้าของโดยประเทศที่ถือว่าเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

"ใครจะกล้าออกตัวว่า 'เราไม่ควรจำกัดเกาหลีเหนือน่ะ' … นั่นคือที่มาของการเมืองบางส่วนในเรื่องนี้ มันดูเหมือนเป็นการบรรลุผลบางอย่าง และนั่นทำให้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค"

อาร์คันซอเป็นผู้นำในการบังคับใช้กฎหมาย


ที่มาภาพประกอบ: Jo Naylor (CC BY 2.0)

ในเดือน ต.ค. 2023 ซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส (Sarah Huckabee Sanders) ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอจากพรรครีพับลิกัน อ้างอิงถึงสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ขณะประกาศว่ารัฐกำลังดำเนินการครั้งแรกเพื่อต่อต้านการถือครองที่ดินการเกษตรโดยชาวต่างชาติ

แซนเดอร์ส บรรยายถึง “ศัตรู” ของอเมริกา ไม่เพียงแค่ฮามาส แต่ยังรวมถึงจีน อิหร่าน และรัสเซีย ว่ากำลัง “ยาตราทัพ” เข้ามา

"เป็นเวลานานเกินไปแล้ว ในนามของความอดทน เราปล่อยให้ประเทศอันตรายเหล่านี้แทรกซึมเข้ามาในประเทศของเรา" เธอกล่าว "อาร์คันซอ จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว"

รัฐอาร์คันซอสั่งให้ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์และยาฆ่าแมลง Syngenta ขายที่ดิน 160 เอเคอร์ในรัฐอาร์คันซอตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ดินแปลงนี้ Syngenta ใช้เพื่องานวิจัย กฎหมายที่ผ่านในระหว่างการประชุมปี 2023 ห้ามบางประเทศจากการเป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูก และอนุญาตให้รัฐสามารถขอให้มีการยึดสังหาริมทรัพย์โดยศาลสำหรับผู้ที่พบว่ามีการละเมิด สำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐอาร์คันซอระบุว่าจนถึงปัจจุบันมีทรัพย์สินเพียงแห่งเดียวที่กำลังถูกดำเนินการภายใต้กฎหมายใหม่นี้

Syngenta  ซึ่งได้รับเวลา 2 ปีในการขายทรัพย์สิน ไม่ออกความเห็นใด ๆ ต่อ Stateline แต่ก่อนหน้านี้ บริษัทเคยวิจารณ์การกระทำของอาร์คันซอว่า “ไม่มองการณ์ไกล”

เมื่อเดือน พ.ย. 2023 ทิม กริฟฟิน (Tim Griffin) อัยการสูงสุดของรัฐอาร์คันซอ ประกาศว่า Syngenta ได้จ่ายค่าปรับทางแพ่งเป็นเงิน 280,000 ดอลลาร์ฯ ฐานไม่ลงทะเบียนกับรัฐตามที่กำหนดภายใต้กฎหมายที่ผ่านในปี 2021

“สิ่งนี้ถือเป็นการเตือนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ของจีนที่ดำเนินงานในรัฐอาร์คันซอ ผมกำลังตรวจสอบทรัพย์สินประเภทนี้ทั่วทั้งรัฐ และจะใช้อำนาจทั้งหมดที่มีภายใต้กฎหมาย” เขากล่าวในแถลงการณ์

Syngenta ซึ่งตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกซื้อโดย ChemChina ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนในปี 2017

เบลค จอห์นสัน (Blake Johnson) สว. รัฐอาร์คันซอ พรรคพับลิกัน กล่าวว่าเขาไม่ทราบถึงการซื้อกิจการของ Syngenta เมื่อเขาสนับสนุนกฎหมายทั้งสองฉบับ เขากล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายในวงกว้างเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ

“ความมั่นคงทางอาหารของเราเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศ ในความคิดของผม: การมีอาหาร เสื้อผ้า ให้ตัวเราและกองทัพของเรา มีความจำเป็นในอนาคต” เขากล่าว “นั่นสามารถทำได้ในดินแดนของเราเอง เราไม่จำเป็นต้องส่งมอบภาระนั้นให้กับศัตรู”

จอห์นสันกล่าวว่าเขาระมัดระวังในการกำหนดเป้าหมายกฎหมายดังกล่าวไปยังประเทศที่ไม่เป็นมิตร โดยบังคับใช้กับประเทศเดียวกับที่มีรายชื่ออยู่ในกฎข้อบังคับการค้าอาวุธระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางที่จำกัดอาวุธจากประเทศที่เป็นปรปักษ์บางประเทศ เขาตั้งข้อสังเกตว่าประเทศที่เป็นมิตรได้รับการยกเว้น เช่น แคนาดา เป็นเจ้าของพื้นที่ป่าไม้ขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของรัฐอาร์คันซอ

“นั่นไม่ใช่ปัญหาภายใต้กฎหมายนี้” เขากล่าว

การดำเนินการของรัฐอาร์คันซอถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยรัฐมิสซิสซิปปี้ที่อยู่ใกล้เคียง

“จนถึงปัจจุบัน อาร์คันซอเป็นรัฐเดียวที่บังคับใช้กฎหมายเช่นนี้จริงๆ” กิ๊บสัน กรรมาธิการการเกษตรและพาณิชย์ของรัฐมิสซิสซิปปีกล่าว “ผมชอบวิธีที่พวกเขาทำ”

แต่เขายังกล่าวต่อว่า มีผลกระทบหลายด้านที่ต้องคำนึงถึง

มิสซิสซิปปี ไม่ต้องการขัดขวางการวิจัยด้านเกษตรกรรมที่สำคัญ กิ๊บสันกล่าว และไม่อยากขัดขวางการลงทุน เช่น โรงงานประกอบขนาดใหญ่ของ Nissan จากญี่ปุ่น

"บางรัฐเผชิญผลกระทบที่ไม่คาดคิด และนั่นเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน" เขากล่าว

การประนีประนอม


ที่มาภาพ: risingthermals (CC BY-NC 2.0)

ในการพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือน ก.ย. 2023 เด๊บบี สตาเบโนว์ (Debbie Stabenow) สว.รัฐมิชิแกน จากพรรคเดโมแครต ยอมรับว่าระบบการผลิตอาหารของประเทศเป็นองค์ประกอบสำคัญของความมั่นคงของชาติ

เธอกล่าวว่าเมื่อมีหน่วยงานต่างชาติซื้อที่ดินมากขึ้น ปัญหานี้สมควรได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่เธอกลับเตือนว่า “...เราต้องระมัดระวังด้วยเช่นเดียวกันกับประวัติของเราที่เคยห้ามผู้อพยพถือครองที่ดิน และต้องแน่ใจว่าความพยายามในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจของเรา จะไม่ส่งเสริมการเลือกปฏิบัติ” 

ในระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของต่างชาติในเมืองโทพีกา รัฐแคนซัส รุ่ย สี (Rui Xi) จากพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเพียงคนเดียวในสภานิติบัญญัติของรัฐ เตือนเกี่ยวกับวาทกรรมที่สร้างความสงสัยต่อชาวเอเชีย-อเมริกัน เช่น นักศึกษาระดับปริญญาโทที่ได้รับอนุญาตเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมาย

"ถ้าเราต้องการตรวจสอบการลงทุนจากต่างชาติในที่ดินเกษตรกรรม และจำกัดขอบเขต นั่นก็เยี่ยม" สี กล่าว "แต่ถ้าคุณพยายามสร้างความสงสัยต่อผู้คนที่อยู่ที่นี่อย่างบริสุทธิ์ใจ เพียงแค่พวกเขาพยายามเรียนรู้ พยายามเข้าเรียนมหาวิทยาลัยของเรา ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องเตือนกันอย่างจริงจัง"

เดวิด ออร์เตก้า (David Ortega) นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท กล่าวว่าแม้ว่าที่ดินเกษตรกรรมของสหรัฐฯ จะถูกซื้อโดยกลุ่มผลประโยชน์จากต่างชาติมากขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ใช่ที่ดินที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ

ออร์เตก้า กล่าวว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานใดที่โยงการซื้อที่ดินจากต่างชาติทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น หรือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านอาหารของสหรัฐฯ

เขาชี้ว่าผู้กำหนดนโยบายควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายใหม่ที่มีต่อภาคการเกษตรในวงกว้าง ตัวอย่างเช่น จีนมักตกเป็นเป้าหมายของสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐต่างๆ แต่ก็ยังเป็นผู้ซื้อสินค้าเกษตรส่งออกของอเมริการายใหญ่ที่สุด และอาจตอบโต้เกษตรกรอเมริกันได้

“จีนจะหาแหล่งซื้อใหม่ได้ง่ายกว่าเรามาก โดยเฉพาะจากตลาดส่งออกใหม่” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์

ออร์เตก้า กล่าวว่ามีข้อกังวลเฉพาะเจาะจงในท้องถิ่น เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของที่ดินของต่างชาติ ซึ่งมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่เขากังวลว่าการโต้เถียงอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มต่างๆ เช่น ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน

“ผมไม่คิดว่าต้นตอของความกังวลของฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวกับปัญหานี้มีรากฐานมาจากความกลัวชาวต่างชาติ” เขากล่าว “แต่ผมกังวลว่าการพูดถึงปัญหานี้อาจนำไปสู่ความหวาดกลัวชาวต่างชาติ นั่นคือสาเหตุที่ผมและคนอื่นๆ เรียกร้องให้ระมัดระวัง”

เนื่องจากสภาคองเกรสยังไม่ได้ออกกฎหมายใด ๆ ผู้บัญญัติกฎหมายของรัฐต่าง ๆ จึงกล่าวว่าพวกเขายินดีที่จะดำเนินการแทน

“แม้ผมต้องการให้สภาคองเกรสออกเสียงเป็นหนึ่งเดียวเพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่นั่นก็อยู่นอกเหนือขอบเขตที่ผมทำได้” เคลย์ พีร์เคิล (Clay Pirkle) สมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐจอร์เจีย กล่าว “สิ่งที่ผมทำได้คือกำหนดแนวทางตอบสนองต่อปัญหานี้ในรัฐของผม”

พีร์เคิล ปลูกฝ้าย ถั่วลิสง ข้าว และถั่วบัตเตอร์ บนพื้นที่ประมาณ 1,000 เอเคอร์ทางตอนใต้ของรัฐจอร์เจีย เมื่อต้นปี 2023 ผ่านมา เขาเสนอญัติให้มีการป้องกันมิให้คนต่างด้าวที่ไม่ได้พำนักในสหรัฐฯ ซื้อที่ดินเกษตรกรรมใกล้ฐานทัพทหาร หากพวกเขามาจากประเทศที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ถือว่าเป็นศัตรู  ซึ่งรายชื่อปัจจุบันรวมถึงจีน คิวบา อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย แม้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้า แต่พีร์เคิลวางแผนที่จะผลักดันต่อในสมัยหน้า

เขาอธิบายว่าการร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพราะเขาไม่ต้องการให้รัฐจอร์เจียขัดขวางการซื้อที่ดินจากผู้ที่หนีภัยจากประเทศอื่นมายังสหรัฐฯ

“ผมพยายามทุกวิถีทางจริง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจของคนจากประเทศเหล่านี้ที่เดินทางมายังสหรัฐฯ เพียงเพราะพวกเขาปรารถนาเสรีภาพ” เขา กล่าว “ผมอยากแน่ใจว่าไม่ได้สร้างภาระให้กับพวกเขาโดยไม่จำเป็น”

แต่พีร์เคิลเชื่อว่ามีบางอย่างจำเป็นต้องทำ ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ไม่ใช่ทรัพยากรหมุนเวียน และนักพัฒนาที่ดินก็ยังคงรุกล้ำพื้นที่เพาะปลูกเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมอยู่ตลอดเวลา

"ที่ดินที่เราใช้ปลูกพืชผลเพื่อเลี้ยงดูโลก คือที่ดินเดียวกันกับที่เรามีสำหรับการเกษตรกรรม" เขากล่าว "เราไม่มีที่ดินเพิ่มขึ้นอีกแล้ว มันเป็นทรัพยากรที่หายาก"


ที่มา:
This land is our land: States crack down on foreign-owned farm fields (Kevin Hardy, Stateline, 4 December 2023)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net