รมว.พลังงาน มีหนังสือสั่งการโออาร์ แก้ไขปัญหาปั๊มน้ำมันเติมเผื่อเหลือเผื่อขาด พร้อมเตรียมดึงเป็นหนึ่งประเด็นแก้กฎหมายการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง - กรมการค้าภายใน แนะ 4 วิธีดูก่อนเติมน้ำมันเพื่อป้องกันการเอาเปรียบ แนะหากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้โทรแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอด 24 ชม.
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2566 ว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงาน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าจากกรณีที่มีข่าวว่าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเติมน้ำมัน 5 ลิตร แต่ได้น้ำมันไม่ถึง 5 ลิตร เจ้าหน้าที่ปั๊มตอบว่า ตามกฎกระทรวงให้สามารถทำได้กรณีน้ำมัน บวก/ลบ ไม่เกิน 50 มิลลิลิตร เมื่อวานช่วงบ่าย หลังตรวจสอบพบว่ากฎกระทรวงของกระทรวงพาณิชย์อนุญาตไว้ว่าเป็นกรณี “เผื่อเหลือเผื่อขาด”
“ผมเห็นว่านั่นเป็นเรื่องการตรวจวัดตามกฎกระทรวงเท่านั้น ถึงอย่างไรปั๊มน้ำมันก็ควรต้องจ่ายน้ำมันชดเชยให้ผู้ใช้บริการเต็มตามจำนวนลิตรที่ชำระเงินไป เพราะการชำระเงินค่านำ้มันเป็นการชำระเต็มตามจำนวนลิตรมิใช่ชำระแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดด้วย”
โดยจะนำประเด็นนี้ไปรวมแก้ไขในกฎหมายการค้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งผมเห็นว่ากฎหมายในปัจจุบันมีช่องโหว่ในการกำกับดูแลเยอะมาก โดยเฉพาะอำนาจของรัฐมนตรีที่จะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเช่นในกรณีนี้มีน้อยมากจริง ๆ
“ผมได้มีหนังสือสั่งการให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (โออาร์) แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ทันที และสั่งการให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานที่กำกับดูแลปั๊มน้ำมันทั่วประเทศดำเนินการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ทันทีเช่นกัน โดยมอบให้ท่านณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานที่ปรึกษาของผมกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง”
ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจครับว่ากระทรวงพลังงานยุคนี้จะไม่ละเลยต่อปัญหาของประชาชนแน่นอน และจะพยายามแก้ไขปัญหาเต็มความสามารถที่กฎหมายปัจจุบันให้อำนาจไว้ ต่อไปจะแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมปัญหาต่าง ๆ ให้ครบถ้วนซึ่งเป็นไปตามได้บอกว่าปัญหาเรื่องพลังงานของเรามันไม่ใช่แค่ปรับโครงสร้างแต่มันต้องรื้อทั้งระบบ
ก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ในเรื่องของชั่งตวงวัด การกำกับดูแลมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ภายใต้ภารกิจของสำนักชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยจากกฎกระทรวงกำหนดเครื่องวัดที่อยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 สำหรับมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง กรณีใช้ถังตวงขนาด 5 ลิตร มีอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด +/- 25 mL สำหรับการตรวจสอบเพื่อรับรอง และ +/- 50 mL สำหรับการตรวจสอบระหว่างใช้งาน
ดังนั้น กรณีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงในคลิป ซึ่งเป็นมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้งาน มีอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด +/- 50 mL จึงไม่ได้ทำผิดตามกฎหมายดังกล่าวตามที่ปั๊มน้ำมันอ้างจริง
อย่างไรก็ตาม ผมเองเห็นว่าในปัจจุบันความสามารถของเครื่องมือในการชั่งตวงวัดดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก มีความเที่ยงตรงสูงกว่าแต่ก่อน จึงสมควรมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้คลาดเคลื่อนน้อยที่สุดเพื่อประโยชน์ผู้บริโภค
ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ผมจะแจ้งประสานไปยังกระทรวงพาณิชย์ให้พิจารณาทบทวนอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดดังกล่าวให้แคบลง และจะนำเรื่องนี้ไปรวมไว้ในการแก้ไขกฎหมายน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งระบบ ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ และในฐานะที่ผมเป็นประธานคณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติด้วย ก็จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาว่าจะสามารถแก้ไขมาตรฐานของเครื่องมือชั่งตวงวัดได้อย่างไรบ้าง
'ภูมิธรรม' เข้มน้ำมันไม่เต็มลิตร รัฐบาลดูแลประชาชนเต็มที่ ถ้าจงใจ-เจตนาดำเนินการเด็ดขาด
24 ธ.ค. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประเด็นน้ำมันไม่เต็มลิตร ภายหลังเปิดกิจกรรมพาณิชย์ชวนเที่ยวตลาดต้องชมทั่วประเทศ ฉลองเทศกาลปีใหม่ “ชวนตะลอนตลาดต้องชม ตะลุยความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่”ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องน้ำมันไม่เต็มลิตรเกี่ยวพันกับ 2 กระทรวงฯ คือ กระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์เป็นปลายน้ำเรื่องการควบคุมราคาแลดูความถูกต้องให้พี่น้องประชาชน กระทรวงพลังงานดูแลปั๊มน้ำมันที่เป็นต้นเรื่อง ขอบคุณท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ออกมาช่วยประสานและบอกให้ปั๊มต่างๆเข้มงวด ไม่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
สำหรับกระทรวงพาณิชย์เราเข้าไปดำเนินการ เรื่องมาตรการเผื่อขาดเผื่อเกิน 1% เป็นมาตรฐานสากลของโลก ให้อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปกำชับผู้ประกอบการผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ให้เข้มงวดและระหว่างนี้ให้คณะกรรมการกลางชั่งตวงวัดได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับอัตราผลเผื่อขาด เพื่อให้เป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนมากที่สุด
เพราะเราไม่สบายใจถ้าพี่น้องประชาชนต้องประสบกับ การได้รับความไม่เป็นธรรม ซึ่งมี 2 ส่วน 1.การเผื่อเหลือเผื่อขาดตามมาตรฐานสากล ต้องไปดูหัวจ่ายถ้ามีการชำรุดทรุดโทรมต้องใช้อำนาจบริหารจัดการคุยกับผู้ประกอบการเข้มงวดมากขึ้น และ2.เรื่องหัวจ่าย ถ้ามีการเอารัดเอาเปรียบ จะจัดการเด็ดขาด
ในช่วงนี้เราไปดูและประสานงาน ไม่มีแค่น้ำมันอย่างเดียว แต่มีอีกหลายเรื่อง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไปตรวจสอบอยู่แล้ว เราระมัดระวังไม่ให้คนตัวเล็กตัวน้อย พ่อค้าแม่ค้า ประสบปัญหาเกิดความยากลำบาก เพราะอาจเกิดจากความเก่า เราพยายามแนะนำหรือเชิญชวนให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ถ้าเกิดจากความพยายามละเมิดสิทธิประชาชน เอารัดเอาเปรียบประชาชนเราจะจัดการขั้นเด็ดขาด ไม่อยากให้สร้างความเดือดร้อน เราจะดูแลให้มากที่สุด
ได้สั่งการไปแล้วให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้ กระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์จะเข้มงวดช่วยดูแลแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดและมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
กรมการค้าภายใน แนะ 4 วิธีดูก่อนเติมน้ำมันเพื่อป้องกันการเอาเปรียบ แนะหากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้โทรแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอด 24 ชม.
ด้านกรมการค้าภายใน แนะประชาชน ที่จะเข้าใช้บริการปั้มน้ำมันต่างๆทั่วประเทศให้สังเกตเบื้องต้นก่อนเข้ารับเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนี้
1) ป้ายราคาน้ำมัน/ลิตรที่ระบุหน้าสถานีบริการน้ำมันตรงกับตู้จ่ายน้ำมัน
2) ตู้จ่ายน้ำมันตามสถานีบริการต้องมีสติ๊กเกอร์วงกลมของกรมการค้าภายใน (มีรูปครุฑสีแดง /ระบุว่าตรวจสอบแล้ว /แสดงปี พ.ศ. ปัจจุบันอยู่ด้านล่าง) หากมีสติ๊กเกอร์ดังกล่าวติดอยู่แสดงว่าได้มีการตรวจสอบแล้ว
3) ก่อนเติมยอดขายและจำนวนลิตร ต้องเป็นเลขศูนย์
4) เมื่อเติมเสร็จให้ดูยอดขายและจำนวนลิตรให้ถูกต้อง
หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ กรมจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)