Skip to main content
sharethis

‘ชวน’ ยันไม่ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ขออยู่ตอบแทนในช่วงปลายชีวิตการเมืองหวัง ‘อภิสิทธิ์’ กลับมา หนุน 'วทันยา' อยู่ต่อ ชี้อนาคตการเมืองอีกไกล เชื่อพรรคไม่ตกต่ำกว่านี้ ฝาก กก.บห.ชุดใหม่ ยึดจุดยืน “การเมืองบริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต” ดักคออย่าใช้พรรคหากิน - 'สุขุม นวลสกุล' วิเคราะห์ประชาธิปัตย์มีชุดความคิดใหม่มุ่งหวังเข้าร่วมรัฐบาลเต็มที่ มองเป็นไปได้ยากแล้วที่จะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม


นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ | ที่มาภาพ: เพจชวน หลีกภัย Chuan Leekpai

10 ธ.ค. 2566 มติชนออนไลน์ รายงานว่าที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสมาชิกพรรคลาออกหลังได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า ยังไม่รู้ว่ามีคนลาออกกี่คน ยอมรับว่าเสียดายบุคคลเหล่านั้น ไม่ทราบว่านายสาธิต ปิตุเตชะ จะลาออก ทราบเพียงที่เขาบอกว่าจะไม่มาประชุมเท่านั้น จึงได้ถามว่าเป็นเพราะเหตุใด และได้รับคำตอบกลับมาว่าเขาล็อกไว้หมดแล้ว มาก็ไม่มีประโยชน์ จึงขอร้องให้มาประชุม เขาจึงยอมมาแต่มาแล้วลาออกก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เสียดายคนที่เป็นกำลังสำคัญ ผู้ที่ไม่เกี่ยวกับส.ส.หลายคนก็แจ้งลาออก คนที่เคยสนับสนุนพรรคก็ส่งไลน์มาขอลาออก ตนก็เข้าใจและเห็นใจคนที่ห่วงใย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ มีการล็อบบี้เอาไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คงเป็นอย่างนั้น ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้ใหญ่ พูดตรงไปตรงมาในที่ประชุมว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ แล้วแต่เลขาฯพรรคสั่งมา เพราะเลขาฯ ดูแลมา 4 ปี ฉะนั้นแล้วแต่ท่านสั่ง หลายคนก็พูดแบบนี้ ไม่เฉพาะผู้ที่ถูกเสนอชื่อจะเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แม้จะเป็นคนอื่นหากถ้าเลขาฯ เป็นคนสนับสนุน คนนั้นก็ชนะ และเมื่อนายเฉลิมชัย ยอมผิดคำพูดมาเป็นหัวหน้าพรรคเอง จึงได้พูดว่าอย่าให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่ ความคิดที่ดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ไปร่วมกับเขาไม่ควรเกิดขึ้น และที่เป็นห่วงคือ อุดมการณ์ของพรรค ที่ประกาศมา 78 ปี คือ เรื่องการเมืองบริสุทธิ์ และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่ย้ำตลอดมาว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการยอมรับเป็นสถาบันการเมืองไม่ใช่เพราะอยู่มานาน หากอยู่นานแล้วโคตรโกง โกงทั้งโคตร หัวหน้าพรรคติดคุก ก็ไม่มีใครยอมรับเป็นสถาบันการเมือง แต่คนรุ่นก่อน หัวหน้าพรรคทุกคนทำหน้าที่ ด้วยความซื่อตรง สุจริต จึงทำให้พรรคได้รับการยอมรับจากประชาชน ดังนั้นต้องรักษาสิ่งนี้ไว้ ซึ่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในที่ประชุม จึงขอฝากกรรมการบริหารพรรค ที่พะวงเรื่องพวกนี้ให้ช่วยกันดูแล เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวลือเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปดูแลในรัฐบาลมีอยู่ไม่น้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ สามารถทำงานกับสมาชิกพรรค ที่เป็นคนรุนเก่าได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ที่จริงไม่มีรุ่น กรรมการบริหารคือบุคคลสำคัญที่จะนำพรรคไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลว ต้องยอมรับว่า เที่ยวที่แล้วการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค เราต้องรับผิดชอบด้วยกัน เนื่องจากการที่ได้เป็นเพราะนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตนช่วยสนับสนุนสู้กับคนอื่นที่เป็นคนเก่ง ทั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ นายกรณ์ จาติกวณิช ที่เป็นคนเก่ง เมื่อนายจุรินทร์ ชนะและเสนอนายเฉลิมชัย เป็นเลขาฯพรรค เราก็เลือก แต่เวลา 4 ปีที่ผ่านมา คนเหล่านี้ได้นำพรรคไปสู่จุดหนึ่ง จนทุกคนเป็นห่วงว่าต่อจากนี้จะตกต่ำมากกว่านี้หรือไม่ ถามว่ามีหรือที่จะต่ำกว่านี้ เพราะตั้งนี้ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อแค่ 3 คน ในอนาคตจะดีหรือชั่วอย่างไร ไม่ควรจะต่ำกว่า 3 คน ผลครั้งนี้ก็มาจากกรรมการบริหารชุดที่แล้ว จึงหวังว่าในอนาคตต้องฝากว่าขอให้ยึดอุดมการณ์พรรคเอาไว้ ถึงแม้จะไว้วางใจได้ไม่เต็มที่ก็ตาม ขอฝากกรรมการบริหารพรรคบางคนที่ยังพรรคอยู่ รักและหวงพรรคอยู่ ให้ช่วยกันดูแล อย่าให้เขาเอาพรรคไปหากิน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชวนจะวางบทบาทในพรรคต่อจากนี้อย่างไร นายชวน กล่าวว่า จะพยายามช่วยประคับประคอง สนับสนุนสิ่งดีให้พรรค การที่ตัดสินใจสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะคิดว่า สถานการณ์เป็นช่วงเวลาที่จำเป็น ที่จะต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับพอสมควร และหัวหน้าพรรคในประเทศไทยที่มีนายอภิสิทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใคร ถ้าขี้โม้ก็จะบอกว่า เหนือกว่าคนอื่น ย้ำว่า ไม่ด้อยกว่าใคร แล้วยังมีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่จะนำพาพรรคในช่วงเวลาแบบนี้ให้พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ เพราะที่คนห่วงใยพรรคประชาธิปัตย์เพราะถือว่า มีอยู่พรรคเดียวที่ยังพึ่งพาได้ในเรื่องความคิด ความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอยู่ แต่ปรากฏผลออกมาคิดว่า แค่ไม่รับตำแหน่ง ไม่คิดว่าจะลาออก เมื่อเป็นเช่นนี้ขอให้กำลังใจว่า อย่าเพิ่งวางมือ เพราะยังมีเวลาอยู่

เช่นเดียวกับวทันยา บุนนาค ที่เสียดาย และชื่นชมในความพยายาม แต่เมื่อเห็นโพยที่ล็อกเอาไว้ ว่าอย่าไปรับการลงมติ 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับ (6) ที่เป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 5 ปี ให้สามารถสมัครชิงตำแหน่งได้ถ้าสมาชิก 3 ใน 4 ให้การยอมรับ เมื่อเป็นการสกัดจึงต้องขอร้องสมาชิกในที่ประชุม ให้เปิดโอกาส ได้มีโอกาสแข่งขัน ที่จริงผลก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่ควรเปิดโอกาสให้ได้แข่งขัน ซึ่งได้คะแนนเพิ่ม ขาดไปเพียง 60 กว่าเสียง จึงมีความรู้สึกว่า ทำไมไปกลัว หัวหน้าพรรคควรได้มาด้วยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้มาตามโพย ตนพยายามเสนอแนะในทางที่ดี แต่เขาไม่เอาแนวทางที่เราเสนอด้วยความปรารถนาดี ซึ่งหัวหน้าพรรค ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ มาด้วยระบบแข่งขัน ตนก็ยังต้องแข่งขันกับนายมารุต บุนนาค ซึ่งสมาชิกจะพิจารณาว่า ใครจะนำพรรคไปได้ดี ที่ตนได้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะสมาชิกเห็นว่า จะสามารถนำพรรคไปได้ และต่อมาตนได้เชิญนายมารุตมาเป็นหัวหน้าพรรค จนมาเป็นประธานสภา จึงอยากบอกว่า การแข่งขันไม่ได้แตกแยกเสมอไป แต่ยุคที่มีการแข่งขันแล้วคนลาออกไปมากคือยุคของนายจุรินทร์ แม้จะพยายามห้าม ก็ห้ามไม่อยู่ แต่ไม่ว่าคนเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องขอชื่นชม คนที่ทำงาน ยกตัวอย่างนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่สามารถจับการโกงข้าวได้ ดังนั้น คนดีๆ เราอยากเอาไว้ และอยากเห็นคนใหม่ที่จะเข้ามา อยากเห็นมาดามเดียร์อยู่ต่อไป เพราะอายุยังน้อย ยังมีอนาคต

เมื่อถามย้ำว่า กรรมการบริหารที่มาตามโพย จะทำให้อึดอัดในการร่วมงานหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตลอดมา ตนป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้มีสถานะมากไปกว่านี้ มีสิทธิในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ที่จะให้ความเห็นในทางเป็นประโยชน์ เมื่อเห็นมีการฝืนมติพรรค ทั้งที่เวลา 77 ปี ของพรรคไม่เคยมีมาก่อน ที่สมาชิกจะไปฝืนมติพรรคกลางสภา ไปรับรองนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่คนเสนอไม่ให้รับคือตัวเขาเองคือพล.ต.ต. สุรินทร์ ที่เสนอในที่ประชุมพรรค ว่าไม่ควรรับนายเศรษฐา เพราะเราไม่ได้ร่วมรัฐบาล แต่คนเหล่านี้กลับคำตัวเอง กรรมการบริหารชุดต่อไป จึงต้องพิจารณาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชวนยืนยันที่จะยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ใช่หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า “ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องอยู่ เพราะเป็นหนี้บุญคุณพรรค ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง สามารถเป็นอะไรก็ได้ เพราะมีโอกาสได้อยู่พรรค ถ้าไม่อยู่ที่พรรคก็ยาก พรรคนี้ให้โอกาส โดยไม่สนใจว่า ฐานะ ตระกูลมาอย่างไร ถ้าแสดงตัวว่า คนนี้ดีพอเป็นหัวหน้าพรรคได้ เขาก็เลือก นี่คือสิ่งที่ผ่านมา ดังนั้นบุญคุณอันนี้ใช้ไม่หมด ผมต้องตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”

'สุขุม นวลสกุล' วิเคราะห์ประชาธิปัตย์มีชุดความคิดใหม่ มุ่งหวังเข้าร่วมรัฐบาลเต็มที่

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่ารศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย อสมท ว่าเป็นไปตามคาด ที่เหลือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพียงหนึ่งเดียว และชัดเจนว่าวันนี้เห็นการแตกหักระหว่างความคิดใหม่กับความคิดเก่า พรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหวังที่จะเข้าเป็นรัฐบาล ในขณะที่ชุดเก่าพยายามดึงให้ไปสู่ยุคอุดมการณ์เดิม แต่วันนี้ฝ่ายใหม่ได้อำนาจมากกว่าก็จะเป็นผู้กำหนดทิศทางต่อไป มองอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย คาดว่าถ้ามีโอกาสมีจังหวะก็เตรียมตัวอยากเข้าร่วมรัฐบาล พูดง่ายๆหากรัฐบาลทาบทามเมื่อไหร่ก็คงพร้อมไปทันที

แต่วันนี้ที่ผิดคาดไป คือ การที่นายอภิสิทธิ์ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่มีความผูกพันมานาน แต่ก็เชื่อว่าคงไม่ไปอยู่พรรคอื่นตามที่ได้บอกไว้ และเชื่อว่าที่นายชวน หลีกภัย เสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค นั้น อาจคิดว่าจะยังพอมีหวัง เพราะเดิมทีคงมองว่าอาจจะยังพอพูดคุย เปลี่ยนความคิดและคงอยู่ร่วมกันได้ แต่ในระยะหลังก็ไม่ได้มีการพูดออกมาจากปากของนายอภิสิทธิ์ว่าจะประกาศตัวลงชิงตำแหน่งชัดเจนแต่อย่างใด

ส่วนอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนี้ เป็นไปได้ยากแล้วที่จะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม ยิ่งเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็เห็น ๆ อยู่ จากการบริหารของชุดนี้ ที่ทำให้ได้ สส. เหลือเพียง 25 ที่นั่ง แล้วนี่ยังเลือกกลับมาเป็นผู้นำอีกก็คิดว่าต่อไปอาจจะได้ที่นั่งน้อยลงอีก

ส่วนประเด็นที่นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ลาออกจากสมาชิกพรรค ด้วยเหตุผลว่าเพราะพรรคไม่มีจุดยืน อุดมการณ์เปลี่ยน ผู้นำคนใหม่ไม่รักษาสัจจะ ตนมองว่าใช้คำผิดไปนิดหนึ่ง คือไม่มีสัจจะด้วยมากกว่า ที่ยอมเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล เวลาหาเสียงต่อไปจะเป็นจุดที่คู่แข่งใช้โจมตี

ส่วนกรณี มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค มองว่าถือว่าได้แสดงความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แม้ว่าจะไม่สำเร็จในการลงชิงชัยวันนี้ ก็ต้องติดตามว่าอนาคตในพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าถ้ายังอยู่ ปชป. จะสามารถอยู่ได้ เพราะมีจุดแข็งในพื้นที่ กทม. ซึ่ง ปชป. ไม่มีตรงนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net