Skip to main content
sharethis

สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ มช. และวัลย์นภัสร์ เจนร่วมจิต ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้ความเห็นต่อกรณีที่ศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุก “เก็ท” โสภณ 6 เดือน ในข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 กฎหมายกำหนดเพียงโทษปรับไม่เกิน 200 บาท ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้เป็นการที่ศาลตัดสินโทษ ‘เกินกว่า’ ที่กฎหมายกำหนด ‘สั่งจำคุก’ ทั้งที่ไม่มีโทษจำคุก

1 ก.ย. 2566 สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และวัลย์นภัสร์ เจนร่วมจิต ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน มีการให้ความเห็นต่อกรณีที่ศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุก “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ 6 เดือน ในข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งที่ พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 กฎหมายกำหนดเพียงโทษปรับไม่เกิน 200 บาท ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้เป็นการที่ศาลตัดสินโทษ ‘เกินกว่า’ ที่กฎหมายกำหนด ‘สั่งจำคุก’ ทั้งที่ไม่มีโทษจำคุก

โดยเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงาน ศาลอาญา รัชดาฯ พิพากษาคดีของ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมจากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ผู้ถูกกล่าวหาในคดี “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีปราศรัยในกิจกรรม #ทัวร์มูล่าผัว ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565

ศาลเห็นว่า ในคดี ม.112 จำเลยได้มีการปราศรัยเอ่ยพระนาม “พระราชินีสุทิดา” กล่าวโดยมีเจตนามุ่งหมายถึงรัชกาลที่ 10 และพระราชินี ทำให้ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศ สั่งลงโทษจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา นอกจากนี้ ศาลยังลงโทษเก็ท โสภณ ในข้อหาใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งจำคุก 6 เดือน รวมโทษจำคุกสองคดีเป็น 3 ปี 6 เดือน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net