ประยุทธ์ประกาศวางมือทางการเมือง ลาออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้ำมีผลงานตลอด 9 ปี ขอให้รัฐบาลใหม่สานต่อ พรรคแถลงแม้ประยุทธ์ไม่อยู่ก็จะสานต่อปกป้องเสาหลักของชาติ ย้ำไม่สนับสนุนนายกฯ หรือพรรคการเมืองที่มีวาระแก้ม.112

11 ก.ค.2566 เวลา16.00 น. แฟนเพจของพรรครวมไทยสร้างชาติลงประกาศพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ลาออกจากพรรคพร้อมประกาศวางมือทางการเมือง

ในโพสต์ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอบคุณประชาชนที่ลงคะแนนให้กับพรรคในการเลือกตั้งที่ผ่านมาจนทำให้ได้ ส.ส.รวม 36 คน

“การที่ผมตัดสินใจเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เพราะผมต้องการร่วมสร้างพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นหลักให้กับบ้านเมืองต่อไปในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์ระบุในโพสต์

นายกรัฐมนตรียังระบุว่าที่ผ่านมาได้มีผลงานต่างๆ จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง เพื่อปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอันเป็นที่รักยิ่ง และกำลังผลลัพธ์จากการทำงานกำลังปรากฏขึ้นมาในโพสต์ระบุถึงผลงานไว้เช่น พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเร่งรัดการลงทุนจากต่างประเทศในพื้นที่เศรษฐกิจต่างๆ และสนับสนุนการวิจัยและที่ดินทำกิน

การต่อสู้กับการระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 จนได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการบริหารจัดการโรคอุบัติใหม่ที่ดีที่สุดในโลก การแก้ไขสิ่งที่เป็นปัญหาต่อการค้าการลงทุนมายาวนาน เช่น การค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย การรักษามาตรฐานกิจการการบิน”

พล.อ.ประยุทธ์ยังประกาศวางมือทางการเมือง ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และขอให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง ปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปด้วย

พรรคแถลงย้ำไม่หนุนนายกฯ ที่มีวาระแก้ 112

หลังจากพรรคโพสต์เรื่องการลาออกของพล.อ.ประยุทธ์แล้วได้มีการแถลงข่าวเรื่องแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคในวันที่ 13 ก.ค.นี้

อัครเดช พงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติได้แถลงว่าในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคมีมติไม่เห็นชอบให้โหวตให้กับพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ของพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีตามที่พรรคก้าวไกลและ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเสนอมา

อัครเดชระบุว่าตาทมที่ประธานสภาเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายก่อนลงมติ ทางพรรคได้มอบหมายให้ ศาสตรา ศรีปาน ส.ส.เขตของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นตัวแทนในการอภิปรายเหตุผลที่พรรคไม่สนับสนุนให้พิธาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โฆษกพรรคกล่าวถึงเรื่องจะเปิดลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีกี่ครั้งนั้นยังไม่มีข้อสรุปแต่ทางพรรคได้มอบหมายให้ วิทยา แก้วภราดัย ประธานวิป และเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการของรวมไทยสร้างชาติ และอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะลงมติให้ลงคะแนนเลือกนายกฯ 1 ครั้งหรือมากกว่า 1 ครั้ง ทางพรรคจึงไมไ่ด้มีการหารือในประเด็นนี้ในที่ประชุม 

เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการของรวมไทยสร้างชาติชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องการลาออกของพล.อ.ประยุทธ์ว่าที่ผ่านมาตนและพรรคแสดงจุดยืนชัดเจนเรื่องไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ประธานสภา พรรคการเมืองหรือรัฐบาลที่มีวาระแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะเป็นการทำร้ายสถาบันเสาหลักของชาติและทำให้สังคมแตกแยกที่วันนี้ต้องการความสามัคคี

"แต่เราก็ชัดเจนไม่ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพราะเราไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย การต่อสู้ของพรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันจะไม่สร้างความวุ่นวายให้กับระบบการเมืองและสร้างความวุ่นวายเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองด้วยจุดยืนตรงนี้เป้นจุดยืนที่สำคัญ" เลขาฯ พรรคระบุซึ่งในการประชุมของพรรควันนี้ก็เห็นพ้องต้องกันกับจุดยืนที่เขากล่าว

เอกนัฐกล่าวถึงเรื่องการลาออกของพล.อ.ประยุทธ์ว่า ได้มีการคุยกันแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงจุดยืนว่าจะวางมือทางการเมือง ส่วนพรรคก็ขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพรรคก่อนการเลือกตั้งและร่วมวางรากฐานที่มั่นคงให้กับพรรคที่จะเป้นทุนในการขับเคลื่อนงานการเมืองของพรรค 

"เราก็ยืนยันจะสานต่อภารกิจทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แนวแน่มั่นคงในการปกป้องสถาบันเสาหลักของประเทศชาติตามเจตนารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ต่อไปถึงแม้ว่าท่านวางมือทางการเมืองแล้ว" เลขาฯ พรรคกล่าวย้ำ

เอกนัฐกล่าวว่าขณะนี้ที่พล.อ.ประยุทธ์ยังคงทำหน้าที่เขาก็เชื่อว่าจะทำงานยังทำงานจนสุดกำลังจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะได้เข้ามาปฏิญาณตน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่หลังจากนั้นก็หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์จะได้ผักผ่อนบ้าง