Skip to main content
sharethis

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกประกาศฉบับใหม่เรื่องการขออนุญาตจัดกิจกรรมการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัย หนึ่งในเงื่อนไข "ห้ามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม" สมชายระบุ ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ ย้ำลมหายใจของมหาวิทยาลัยคือเสรีภาพ ถ้ามหาวิทยาลัยไหนไม่มีเสรีภาพ ก็ไม่ต่างจากวัดเก่าๆ ที่ไม่มีคนเข้า

 

3 ก.ค. 2566 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกประกาศฉบับใหม่เรื่อง “การขออนุญาตใช้พื้นที่จัดกิจกรรมการชุมนุมตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่” เพื่อยกเลิกประกาศฉบับเก่าเรื่อง “การจัดกิจกรรมทางการเมืองของนักศึกษา และบุคลากรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ วันที่ 19 ส.ค. 2563”

โดยประกาศการขออนุญาตจัดกิจกรรมการชุมนุมฯ ฉบับใหม่ ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. 2551 และมติสภามหาวิทยาลัยในคราวประชุมครั้งที่ 10/2551 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2551 ระบุเงื่อนไขในการจัดกิจกรรมชุมนุม มีดังนี้

  1. ชุมนุมโดยสันติ ปราศจากอาวุธ ไม่ใช้กำลัง และเป็นกิจกรรมที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการนำไปสู่ความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และต้องไม่มีบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่นักศึกษา นักเรียน และผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าร่วมการชุมนุม กรณีเกิดการชำรุดเสียหายให้ผู้ทำการยื่นขอใช้พื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ
  2. ไม่พาดพิงถึงสถานบันพระมหากษัตริย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
  3. ไม่เป็นการขัดขวางการใช้พื้นที่ของบุคคลอื่นเกินสมควร
  4. ไม่ทำการบุกรุกหรือทำให้เสียหาย ทำลายทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  5. ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมชุมนุม
  6. การแสดงออกของผู้ร่วมกิจกรรมการชุมนุม ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
  7. การแสดงออกของผู้เข้าร่วมชุมนุมต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ การแสดงออกที่ขัดต่อกฎหมาย ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล

ประกาศฉบับใหม่เรื่อง “การขออนุญาตใช้พื้นที่จัดกิจกรรมการชุมนุมตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่”

สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า ประกาศฉบับใหม่เรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่จัดกิจกรรมการชุมนุมภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ออกมา สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติต่อเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกของคนที่อยู่ในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าความสำคัญและความหมายของเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพในการแสดงความเห็น ในทัศนะเช่นนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก

“ถามผม ผมคิดว่าลมหายใจของมหาวิทยาลัยคือเสรีภาพ ถ้ามหาวิทยาลัยไหนไม่มีเสรีภาพ คุณไม่ต่างจากวัดเก่าๆ ที่ไม่มีคนเข้า แล้วก็ท่องสวดนะโมตัสสะไปเรื่อยๆ โดยไม่ปล่อยให้คนถกเถียง นี่ไม่ใช่เป้าหมายของสถาบันการศึกษา” สมชาย กล่าว

เรื่องที่สอง มหาวิทยาลัยมักจะออกกฎเกณฑ์จำนวนมากที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์ใหญ่ของประเทศว่าเป็นอย่างไร ซึ่งในกรณีนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ออกมาโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ ถ้ายึดตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะไม่ต้องอนุมัติอนุญาต เป็นเพียงแค่การแจ้ง แต่ว่าประกาศของมหาวิทยาลัยต้องได้รับอนุมัติ แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานในการยอมการชุมนุมของมหาวิทยาลัยต่ำกว่าสังคม  

“คำถามคือว่า มหาวิทยาลัยในฐานะหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งสามารถออกกฎเกณฑ์ที่ต่ำกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ได้หรือ” สมชาย กล่าว

สมชายระบุว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นตอนเลือกตั้งอธิการบดีแล้วครั้งหนึ่ง มีการออกกฎเกณฑ์ที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญกรณีที่เคยมีระเบียบว่าผู้สมัครหรือบุคลากรคนไหนสนับสนุนการหยั่งเสียงจะมีความผิดทางวินัย ครั้งนั้นก็ได้มีผู้คนโต้แย้งไปและผมก็ได้โต้แย้งไปด้วยว่าเป็นกฎที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เกิดขึ้นคือมหาวิทยาลัยไม่แก้ไข จนกระทั่งต้องรอให้ฟ้องศาลปกครอง พอฟ้องศาลปกครองแล้วมหาวิทยาลัยจึงค่อยแก้ไข ตนคิดว่านี่ไม่ใช่สังคมที่ถกเถียงกันด้วยเหตุผล แต่เป็นการกลัวว่าจะแพ้คดี อาย ก็เลยรีบแก้ไขและรีบประชุมกันในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก

“พูดจริงๆ ผมคิดว่าเนติบริกรของมหาวิทยาลัยมีปัญหาครับ” สมชาย กล่าว

สมชาย ปรีชาศิลปกุล

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการห้ามพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย

"อันนี้คืออะไร แปลว่าอะไร สมมุติผมกล่าวยกย่องอันนี้ถือว่าพาดพิงไหม เท่ากับพาดพิงครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นต่อไปมหาวิทยาลัยต้องห้ามจัดงานทุกประเภทที่พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าถามผมจะตีความแบบตรงไปตรงมา ก็ต้องเป็นแบบนี้ มหาวิทยาลัยเองก็ต้องห้ามจัดงานทุกชนิดที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ จริงๆ มหาวิทยาลัยควรเอาทุกอย่างที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เกี่ยวข้องอยู่ในมหาวิทยาลัยออกไป รูปก็ขึ้นไม่ได้ เพราะนี่คือห้ามพาดพิงทั้งทางตรงและทางอ้อม" สมชาย กล่าว

สุดท้าย สมชายคิดว่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่น่าจะมีปัญหาในระบบคิดเรื่องเสรีภาพมาก

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net