Skip to main content
sharethis

20 ส.ค. 2549 แหล่งข่าวความมั่นคงเลบานอนเผยว่า อิสราเอลส่งเครื่องบินและหน่วยคอมมานโด เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ โดยใช้วิธีโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์บุกเข้าปฏิบัติการในหมู่บ้านโบดาอี ทางภาคตะวันออกของเลบานอน เมื่อเช้าวานนี้ (19 ส.ค.) ซึ่งการโจมตีครั้งนี้นับเป็นครั้งแรก หลังข้อตกลงสงบศึกของยูเอ็นมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม


 


โดยกองทัพอิสราเอลแถลงว่า การที่อิสราเอลโจมตีภาคตะวันออกของเลบานอนในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อขัดขวางการขนส่งอาวุธจากซีเรียและอิหร่านไปให้กองกำลังเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน โดยปฏิบัติการเช่นนี้จะดำเนินไปจนกว่าจะมีหน่วยงานสังเกตการณ์ของเลบานอนที่มีประสิทธิภาพ หรือมีกองกำลังระหว่างประเทศเข้าควบคุมพื้นที่         


 


ด้านสถานีโทรทัศน์ของเฮซบอลเลาะห์รายงานว่า กลุ่มติดอาวุธปะทะกับหน่วยคอมมานโดของอิสราเอล ใกล้หมู่บ้านโบได ทางตะวันตกของเมืองบัลเบค และสามารถขับไล่หน่วยคอมมานโดไปได้ ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กองกำลังของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ 3 รายเสียชีวิตในเหตุปะทะกันครั้งนี้ ส่วนทหารอิสราเอลเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย     


 


นอกจากนี้ อิสราเอลยังบุกจับกุมรองนายกรัฐมนตรีนาเซอร์ อัล-ชาเอร์ แห่งปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส ที่บ้านของเขาในเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ โดยอิสราเอลจับกุมส.ส.และรัฐมนตรีของฮามาสกว่า 20 คน และเข้าโจมตีฐานที่มั่นของฮามาส ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน เพื่อตอบโต้กรณีทหารอิสราเอลถูกจับเป็นตัวประกัน             


         


ยูเอ็นเรียกร้องให้ประเทศยุโรปส่งทหารไปเลบานอน


ก่อนหน้านี้ นายมาร์ก มอลลอช บราวน์ รองเลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเร่งส่งกำลังทหารไปช่วยปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพในพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอน พร้อมกับกล่าวขอบคุณประเทศในภูมิภาคเอเชียที่แสดงความประสงค์จะส่งทหารไปช่วยยูเอ็นในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว


 


การออกมาเรียกร้องของยูเอ็นมีขึ้นภายหลังจากอิสราเอลระบุว่า อิสราเอลไม่อาจจะยอมรับได้ หากว่ากองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็น ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น กองกำลังนานาชาติ จะประกอบด้วยทหารจากไม่กี่ประเทศเท่านั้น และยังล้วนเป็นประเทศที่แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล เช่น ประเทศมุสลิมอย่างมาเลเซีย และอินโดนีเซีย


 


ทั้งนี้ ตามแผนการของมติที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อสัปดาห์ก่อน ยูเอ็นจะส่งกองกำลังทหารนานาชาติเข้าไปในเลบานอน 15,000 นาย เพื่อปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพร่วมกับทหารเลบานอนจำนวน 15,000 นาย


 


โดยขณะนี้มีเพียงอินโดนีเซีย มาเลเซีย บังคลาเทศ และเนปาลเท่านั้น ที่ตกลงจะส่งทหารเข้าร่วมกับยูเอ็น ขณะที่ฝรั่งเศส ซึ่งมีท่าทีจะส่งทหารไปเลบานอนมากที่สุด กลับตกลงใจในที่สุดว่าจะส่งทหารหน่วยรบพิเศษเข้าร่วมเพียง 200 นาย เนื่องจากเห็นว่าพันธกิจของยูเอ็นที่กำหนดให้ทหารนานาชาตินั้น ทำให้ทหารไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงเพื่อป้องกันตัวเองได้


 


ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐฯ แสดงความเห็นว่า ฝรั่งเศสน่าจะส่งทหารไปมากกว่านี้ แต่ฝ่ายสหรัฐฯ เอง รวมทั้งอังกฤษ กลับจะส่งความช่วยเหลือในด้านการขนส่งสิ่งของแทน ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของอิตาลีเพิ่งจะออกมาระบุเมื่อวานนี้ว่า อิตาลีจะร่วมส่งทหารไปเลบานอนด้วย ส่วนเยอรมนีจะส่งทหารไปปฏิบัติภารกิจรักษาความสงบทางทะเล


 


ล่าสุด เช้าวานนี้ (19 ส.ค.) ทหารฝรั่งเศสราว 50 นายซึ่งเดินทางด้วยเรือรบได้มาถึงภาคใต้ของเลบานอนแล้ว โดยทอดสมอเรือใกล้กับเมืองนากูราที่อยู่ห่างจากพรมแดนของอิสราเอลเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งนี้ กองกำลังดังกล่าวเป็นหน่วยเสริมกำลังของสหประชาชาติหน่วยแรกเพื่อช่วยทหารเลบานอนดูแลพื้นที่ที่ทหารอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์ถอนกำลังออกไปในภาคใต้ของเลบานอน


 


อิเหนาไม่ส่งกองกำลังปฏิบัติภารกิจปลดอาวุธ


ด้านอินโดนีเซียได้ปฏิเสธที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิบัติภารกิจปลดอาวุธกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ตามที่เป็นข้อกำหนดภารกิจของกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็นในเลบานอน


    


สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายจูโวโน่ ซูดาร์โซโน่ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียไม่ต้องการให้กองกำลังทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับภารกิจปลดอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการร่วมกับกองกำลังของอิสราเอลหรือกองกำลังของยูเอ็น แต่ยินดีสนับสนุนกองกำลังของยูเอ็น เพื่อจะได้ไม่ต้องลงสนามรบ


 


รมว.กลาโหมกล่าวว่า เราต้องการทราบว่ากองกำลังของเราจะต้องทำอะไรบ้าง แต่เราไม่ต้องการทำหน้าที่ในการปลดอาวุธกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหว โดยเรื่องที่เป็นความกังวลหลักๆ ของกองกำลังรักษาสันติภาพคือการปลดอาวุธและการปลดฐานยิงจรวด ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวควรจะเป็นหน้าที่ของกองทัพเลบานอนเพียงอย่างเดียว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net