โดย สมยศ  โต๊ะหลัง

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2549 ชาวบ้านห้วยน้ำขาวที่ร่วมกันคัดค้านการไถป่าสมบูรณ์ในพื้นที่ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม กระบี่ ตั้งแต่ปี 2547 เนื่องจาก ออป. (องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้) เข้าไปไถพื้นที่เนื้อที่ป่าสมบูรณ์ 3 แปลงเกือบ 600 ไร่ จนส่งผลกระทบต่อชุมชนอย่างหนัก หน้าฝนน้ำท่วม เนื่องจากการขุดและถมคลองทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยน หน้าแล้งน้ำก็แห้งขอด เนื่องจากไม่มีต้นไม้อุ้มน้ำรักษาความชุ่มชื้น หน้าดินแห้งผากจากการไถเปิดหน้าดิน มีการลักลอบการทำไม้อยู่เนืองๆ ทำให้ที่นา แปลงผักโรงเรียนต้องได้รับผลกระทบเกือบพันไร่ มีการบุรุกเพื่อเข้าไปทำประโยชน์โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ ออป.บางคน

ภายหลังกลุ่มอนุรักษ์ห้วยน้ำขาว บุกรวบรถไถขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2547, ชาวบ้านร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่เข้าไปจับไม้หลายครั้ง ทุกกรณีในทุกคดีก็เงียบหายไปทุกครั้ง จากความเห็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน หน่วยงานที่อาสาเข้ามาแก้ไขปัญหากลับติดกับดักของการตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ จังหวัด การตรวจสอบจากสมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิ์ฯ และหน่วยงานต่างๆ เห็นพ้องกันว่า ออป. ทำลายป่าสมบูรณ์จริง ตำรวจป่าไม้โดยผู้บัญชาการ (เสวก ปิ่นสินชัย) รวมทั้ง จาตุรนต์ ฉายแสง รับหนังสือกับมือ แต่ในทางนโยบายไม่มีการดำเนินการใดๆ

ชาวบ้านห้วยน้ำขาว ปักหลักต่อสู้กับแนวและวิธีการทำงานของ ออป.มาเกือบ 2 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างต้องต่อสู้โดยลำพัง ตั้งศาลาเล็กๆ เพื่อเป็นจุดสังเกตการณ์การทำงาน (ทำลายป่า) ของ ออป. จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มอาชีพต่างๆ ทำโรงสีข้าวซ้อมมือ เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้กับคนในชุมชน พยายามจัดสมาชิกเข้าไปตรวจตราป่าเป็นระยะ ๆ ตั้งเป็นศูนย์ประสานงานการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนกรณีคลื่นยักษ์สึนามิ

คดีที่ชาวบ้านบอกถึงการทำลายป่าสมบูรณ์ของ ออป.เกือบ 10 คดี ถูกยกฟ้องหมด

วันที่ 19 มิถุนายน 2549 ศาลจังหวัดกระบี่ได้มีหมายเรียกชาวบ้านคดีหมายเลขดำที่ 1043/2548 ความอาญาได้ประทับรับฟ้องชาวบ้านในข้อหาร่วมกันบุกรุกตามประมวลกฏหมายอาญา ตามรายชื่อดังต่อไปนี้

๑. นายอิปร้อเหม หวังสป ผู้ใหญ่บ้าน

๒. นายอมรศักดิ์ ไชยพร

๓. นายดลหมาด หวังสป

๔. นางสาลิหญ้า หวังสป

๕. นายสวัสดิ์ หลานหมีน

๖. นายโสภณ จงรักษ์

๗. นายเส็น หลำหญ้า

ต้องใช้เงินประกันคนละ 90,000 บาท นี่คือความพยายามอีกครั้งหนึ่งของ ออป.ในการเพิ่มความยุ่งยากต่อชาวบ้านในการต่อสู้คดีและการเจรจาต่อรอง เงินประกันตัว ค่ารถไปศาล ทนาย และอีกมากมายที่เป็นเรื่องยุ่งยากของชาวบ้านที่จบเพียง ป.4 กว่า ๆ โดยเฉลี่ย

การแก้ไขปัญหาในทางกฏหมายเพื่อเอาผิดกับชาวบ้านเพียงเพราะ ออป.มีเงินในการว่าจ้างทนาย โดยไม่เอาเรื่องทั้งหมดมาคุย เป็นการต้อนให้คนในพื้นที่ไปพบทางตัน ในทางกฎหมายในทางคดีชาวบ้านอาจติดคุกเพราะปกป้องป่า แต่ก็ไม่สามารถยืนยันการอยู่ยั่งยืนยงของ ออป.ในพื้นที่ห้วยน้ำขาวได้อีกต่อไป

2 ปีของความพยายามในการบอกกล่าวความล้มเหลวของนโยบายการจัดการป่าสูญเปล่า คนทำดีกำลังจะหมดความอดทนที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากร คนดีกำลังจะถูกลงโทษจากการกระทำคุณงามความดี ครอบครัว ญาติพี่น้องที่เคยปรามาศไว้ถึงความยุติธรรมในสังคมไม่มีจริง กำลังจะถูกพิสูจน์