Skip to main content
sharethis


เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์กรณีการคุกคามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ความว่า

     


สืบเนื่องจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อขับไล่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยมีเจตนาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้มีการปฏิรูปการเมืองนั้น ในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งดูเหมือนการต่อสู้ เรียกร้องจะเริ่มร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง และการตอบโต้กลับของรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐหรือระหว่างผู้เห็นต่างทางความคิดเริ่มจะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ซึ่งหากรัฐบาลไม่เร่งคลี่คลายภาวการณ์ดังกล่าว ในสถานการณ์วิกฤตการณ์ทางการเมืองนี้ รังแต่จะนำมาซึ่งปัญหาและความรุนแรงทางสังคมได้


 


คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อห่วงใย และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีรักษาการ หน่วยงานรัฐส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำรงรักษาความยุติธรรมทางสังคม และมีนโยบายที่เอื้อต่อหลักประกันสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของพี่น้องประชาชน ดังต่อไปนี้


 


1.คณะทำงานฯ เห็นว่า กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เตรียมขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายเรียกแกนนำส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม ใน 5 ข้อหา เช่น มั่วสุมเกิน 10 คนขึ้นไปเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐนั้น เป็นการกระทำที่พยายามเลือกปฏิบัติต่อประชาชนที่เห็นต่างจากรัฐบาล ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง แต่กลับใช้อำนาจของหน่วยงานสนองรับใช้นักการเมืองอย่างเต็มที่ ในขณะที่คดีที่ภาคประชาชนฟ้องร้องรัฐบาลกลับไม่มีความคืบหน้าเท่าใดนัก


 


คณะทำงานฯ ขอเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายเป็นกลางทางการเมืองในช่วงวิกฤตินี้ และยุติการใช้กฎหมายกลั่นแกล้งประชาชนโดยเจ้าพนักงานรัฐโดยเด็ดขาด เพราะถือว่า เป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยใช้อำนาจเจ้าพนักงานของรัฐกลั่นแกล้งโดยตรง


 


2.คณะทำงานเห็นว่า การเดินขบวนและรณรงค์ขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง โดยการชุมนุมอย่างสงบ เปิดเวทีปราศรัยและการเดินขบวนตามท้องถนนนั้น เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพที่พึงกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และในระบอบประชาธิปไตยพื้นฐาน ทั้งนี้ยังเป็นไปโดยสันติวิธี ซึ่งขัดแย้งกับข้อหาการออกหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ไม่ควรใช้กฎหมายใดๆ หรืออำนาจอิทธิพลกลั่นแกล้งหรือตีความใส่ร้ายป้ายสี


 


ดังนั้น ขอให้คณะรัฐมนตรีรักษาการ และหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน พึงตระหนักในเรื่องนี้ และยุติการใส่ร้ายป้ายสี การคุกคามในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการคุกคามโดยการข่มขู่ การลอบประทุษร้ายร่างกายและทรัพย์สิน ดังที่เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี และบ้านพักของครอบครัวนายสุริยะใส กตะศิลา ขอให้กลไกรัฐต่างๆ ออกนโยบายและภารกิจสนับสนุนดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่ และปราบปรามการคุกคามนอกกติกาทางสังคม เพื่อเสริมสร้างหลักประกันสวัสดิภาพแห่งรัฐ


 


3.หากมีการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐโดยมิชอบ หรือเพื่อกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างชัดเจน ซึ่งเสมือนส่งเสริมความรุนแรงทางสังคม ขอให้รัฐบาลและหัวหน้าหน่วยงานนั้น เอาผิด ลงโทษทางวินัย หรือสอบสวนเอาผิดทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อสกัดกั้นปัญหาความรุนแรง การเลือกปฏิบัติโดยเจ้าหน้าที่รัฐ และเพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์ประเทศไทย เป็นรัฐที่ใช้อำนาจแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ ซึ่งไม่เป็นผลดีในทางสากลและอาจจะทำให้ปัญหาความอดกลั้นทางสังคมย้ายจาก 3 จังหวัดภาคใต้มาสู่ใจกลางกรุงเทพมหานครได้ในที่สุด


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net