Skip to main content
sharethis



 



ประชาไท - 6 ก.พ.2549 นักวิชาการหวั่นเมกะโปรเจ็กต์เชียงใหม่เวิลด์ ทำลาย "เวียงเจ็ดลิน" เมืองวงกลมเก่าแก่ก่อนเมืองเชียงใหม่ เผยเตรียมฟ้องศาลปกครองจี้รัฐให้ชะลอโครงการเพื่อศึกษาผลกระทบก่อน



 


ที่ห้องมัณฑเลย์ สถานบริการวิชาการนานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาลัยการจัดการทางสังคม(วจส.) ได้นำเสนอผลการศึกษาวิจัย "เวียงเจ็ดลิน ปฐมอาณาจักรโบราณแห่งลานนา" ซึ่งมีพื้นที่อาณาบริเวณอยู่ในพื้นที่โครงการพัฒนาเชียงใหม่เวิลด์ หนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล ที่เชื่อมโยงกับโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี


 


นายปฐมภูมิ วรรณาวงศ์ นักวิจัยอิสระ วิทยาลัยการจัดการทางสังคม(วจส.) เปิดเผยว่า ตนได้ทำการศึกษาวิจัย พบว่า เวียงเจ็ดลิน นั้นถือได้ว่าเป็นปฐมอาณาจักรโบราณแห่งล้านนา ก่อนจะมีการสร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 5,000 ปี โดยจากหลักฐานมีความเชื่อกันว่า มนุษย์ออบหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นบรรพบุรุษของมนุษย์เวียงเจ็ดลิน หรือมนุษย์ลัวะ ซึ่งเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างชาติพันธุ์มนุษย์ที่มีเชื้อชาติต่างทวีป


 


"โดยปัจจุบัน เมื่อดูภาพถ่ายทางอากาศกูเกิลเอิร์ทชี้ให้แนวกำแพงเวียงเจ็ดลินเป็นรูปวงกลม 2 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างคูน้ำบริเวณเชิงดอยสุเทพที่ชัดเจน มีแหล่งน้ำผุดอยู่ตรงกลางเป็นสะดือเมือง โดยมีรัศมีรอบวงกลมประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่ารูปแบบผังเมืองนั้นแตกต่างไปจากผังเมืองชุมชนโบราณในที่อื่นๆ ดังนั้น เวียงเจ็ดลิน จึงนับว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ล้านนา ซึ่งหากมีการอนุรักษ์มีการศึกษาให้ชัดเจน และมีการเสนอต่อยูเนสโก เชื่อว่าจะเป็นเมืองมรดกโลกได้เลย" นายปฐมวงศ์ กล่าว


 


นายปฐมวงศ์ กล่าวอีกว่า แต่ก็เป็นที่น่าสลดใจ เมื่อการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ที่ผ่านมา ได้ทำลายโบราณสถานเวียงเจ็ดลินอย่างต่อเนื่อง เช่น การตัดถนนจากแจ่งหัวรินขึ้นดอยสุเทพ การสร้างอ่างแก้วในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การมีสถานที่ราชการมากมาย เช่นสวนสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ สถานีตำรวจภูธรตำบลภูพิงค์ เป็นต้น ซึ่งล่าสุดมีโครงการเชียงใหม่เวิล์ดจะสร้างสถานีกระเช้าไฟฟ้า และการตัดถนนเลี่ยงเส้นทางเดิมเพื่อขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งจะก่อผลกระทบต่อซากโบราณสถานของเวียงเจ็ดลินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


 


"โครงการใหญ่ๆ ที่จะมีการตัดถนนอ้อมลานครูบาศรีวิชัย หรือสร้างลานครูบาฯ คอมเพล็กซ์ สร้างสถานีเคเบิลคาร์ แม้จะเป็นด้วยเหตุผลเพื่อความเจริญด้านเศรษฐกิจ หรือการท่องเที่ยว แต่หารู้ไม่ว่า โครงการเหล่านี้ได้ทำลายความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษยชาติ " นักวิจัย วจส.กล่าวทิ้งท้าย


 


ในขณะที่ นายสวิง ตันอุด ผู้อำนวยการวิทยาลัยการจัดการทางสังคม(วจส.)ภาคเหนือ กล่าวภายหลังการเสนองานวิจัยว่า เวียงเจ็ดลินเป็นโบราณสถานที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์ล้านนา แต่กลับมิได้มีองค์กรหรือหน่วยงานราชการใดเข้ามาบูรณะ อีกทั้งยังมีจะมีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ ในนามเชียงใหม่เวิลด์เข้ามาในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการตัดถนนจากแจ่งหัวลินผ่านเขตเวียงเจ็ดลิน และโครงการพัฒนาลานครูบาศรีวิชัย บริเวณเชิงดอยสุเทพ เป็นคอมเพล็กซ์ และเป็นจุดรับส่งสถานีรถไฟฟ้าไปยังอุทยานช้าง พืชสวนโลก และไนท์ซาฟารี ซึ่งอาจก่อผลกระทบต่อโบราณสถานที่มีความสำคัญของเมืองเชียงใหม่ได้


 


"ด้วยเหตุนี้ทาง วจส.ภาคเหนือ ในฐานะผู้สนับสนุนการศึกษาวิจัยโบราณสถานเวียงเจ็ดริน จึงอยากให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาโบราณสถานเวียงเจ็ดลิน อันเป็นปฐมอาณาจักรโบราณแห่งล้านนา และจะทำหนังสือไปยังกรมศิลปากรเพื่อให้เข้ามาศึกษาสำรวจโดยเร็ว หากมิเช่นนั้น คงจะมีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้ง หากครม.มีมติให้อนุมัติโครงการตัดถนนผ่านแหล่งโบราณสถานของเวียงเจ็ดลิน ก็จะทำการฟ้องศาลปกครองให้หยุดชะลอโครงการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะมีการศึกษาสำรวจแหล่งโบราณสถานเวียงเจ็ดลินให้ชัดเจนเสียก่อน" นายสวิง กล่าว


 


ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะถูกนำเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในวันที่ 7 ก.พ.นี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net