จากกิจกรรม"งานเอดส์ภาคประชาชน" ทั้ง 3 วัน ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นองค์กรหนึ่งที่ทำงานแก้ปัญหาใช้ทั้ง
23-25 พฤศจิกายน2548 ผู้เขียน (ในนามเครือข่ายองค์ศาสนาด้านเอดส์ในประเทศไทย) ได้มีโอกาสเข้าร่วม "งานเอดส์ภาคประชาชน" ที่ท้องสนามหลวง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ผ่านการประสานงานของคณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.)
จากกิจกรรมทั้ง 3 วันผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นองค์กรหนึ่งที่ทำงานแก้ปัญหาใช้ทั้งยาและจิตวิญญานอย่างสมานฉันท์ในการแก้ปัญหา คือเครือข่ายองค์กร 3 ศาสนา (พุทธ อิสลาม คริสต์) กับการการทำงานด้านเอดส์ในประเทศไทย
คณะกรรมการองค์กรเครือข่ายศาสนามี พระมหาบุญช่วย สิรินทโร เป็นประธาน พระมหาอินสอน แสงยอดเป็นผู้ประสานงานศาสนาพุทธ ผู้ประสานงานศาสนาอิสลามมีนาย
สถานการณ์เอดส์ในสังคมไทย ได้นำพาความสมานฉันท์
เชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์ เป็นโรคที่คร่าชีวิตมนุษย์ชาติไปมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก เพียงช่วงแรกของการแพร่ระบาดได้มีผู้ติดเชื้อไปถึง 62 ล้านคน
HIV ย่อมาจาก human Immunodeficiency Virus เชื้อไวรัสนี้เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ โดยเชื้อเอชไอวีจะเข้าทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันโรค ให้ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆที่เข้ามาในร่างกายเวลาที่เราเจ็บป่วย
ส่วน AIDS ย่อมาจาก Acquired Immunodeficiency Syndrome (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) โรคเอดส์จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายถูกเชื้อเอชไอวีบั่นทอนให้อ่อนแอลง จนถึงขั้นที่ร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้อีก จนเริ่มติดเชื้อ หรือเกิดเป็นโรคต่างๆ เช่น มะเร็ง เป็นต้น
โรคเอดส์ติดต่อกันได้ เมื่อเชื้อไวรัสเอชไอวี (เชื้อเอดส์) เข้าไปในร่างกาย จะเข้าไปจับที่เม็ดเลือดขาว ซึ่งเม็ดเลือดขาวจะกระจายอยู่ในกระแสเลือด, น้ำอสุจิ, น้ำในช่องคลอด การที่คนเราจะได้รับเชื้อเอชไอวี หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "ติดเอดส์" ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะติดกันได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน หากต้องมีช่องทางการติดที่เฉพาะจริงๆ เท่านั้นนั้น โดยมีข้อสังเกตง่ายๆ ว่า ต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างครบถ้วน จึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับเชื้อ คือ
1. ต้องได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี เข้าสู่ร่างกาย โดยต้องมาจากแหล่งที่มีปริมาณเชื้อมากพอที่จะทำให้ติด ได้แก่ เลือด น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด
2. เชื้อที่จะทำให้ติดต่อได้นอกจากเรื่องปริมาณแล้วเชื้อต้องมีคุณภาพและแข็งแรง เช่น ในเลือด น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด มีอาหาร มีสภาพที่พอเหมาะที่จะทำให้เชื้อเติบโตได้แต่ถ้าไปอยู่ในน้ำลาย น้ำตาเชื้อไวรัสจะอยู่ในสภาพที่เป็นกรด เป็นด่าง ทำให้มันไม่แข็งแรง ไม่มีคุณภาพ เติบโตไม่ได้ หมดความสามารถที่จะทำให้ติดต่อได้
3. ต้องเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการสัมผัส ส่งต่อเชื้อได้โดยตรง เช่น การใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน หรือการร่วมเพศ ซึ่งเป็นการส่งต่อเชื้อกันโดยตรง เช่นในกรณีการร่วมเพศ ถ้าฝ่ายชายมีเชื้ออยู่เชื้ออาจจะผ่านเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุช่องคลอด หรือถ้าผู้หญิงมีเชื้ออยู่ เชื้ออาจจะผ่านเข้าสู่ร่างกายทางปลายเปิดของ องคชาติ
คนส่วนใหญ่จะกังวลกับการติดเอดส์ จากช่องทางที่มีโอกาสเสี่ยงน้อยมากๆ เช่นการช่วยคนประสบอุบัติเหตุ การสัมผัสกับเลือด ตามแต่จะสมมติกัน แต่มักจะไม่คิดถึงช่องทางที่ทำให้ติดเอดส์จากวิถีชีวิต และพฤติกรรมทางเพศที่กระทำอยู่เป็นประจำ ทั้งที่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีติดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน และคุณจำเป็นต้องรู้ว่าจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ด้วยตัวคุณเอง (โปรดดูwww. sex.sanook.com/sex/safetysex/safety)
สถานการณ์เอดส์ในสังคมไทย ได้นำพาผู้นำศาสนาอิสลาม พุทธ และคริสต์ ที่มีความตระหนักต่อปัญหาโรคเอดส์มารวมตัวกันในเวทีที่ชื่อว่า ศาสนเสวนาอย่างสมานฉันท์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2546 เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจ จากชุมชนทางศาสนาต่างๆ
ดยอาศัยสถานการณ์นี้เราจึงรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นชุมชนเดียวกันเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ร่วมมือกันระหว่างศาสนา เพื่อประโยชน์ของสังคมของเรา
ในขณะเดียวกับที่เห็นคุณค่าร่วมกันในด้านศักดิ์ศรีมนุษย์และสิทธิมนุษยชน (เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน) และจัดตั้งองค์กรชื่อว่า เครือข่ายองค์ศาสนาด้านเอดส์ในประเทศไทย (Interfait Network on AIDS in
เอชไอวี/เอดส์ ตามทรรศนะของเครือข่ายมิใช่การลงโทษสำหรับผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมาน หากแต่เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับความเชื่อและการอุทิศตน สร้างโอกาสให้ศาสนิกรับใช้ผู้ที่กำลังทนทุกข์ทรมานในสถานการณ์นี้ชุมชนทางศาสนาได้รับการท้าทายด้วยความเชื่อและหลักธรรมของศาสนาแห่งตนที่ไม่เห็นด้วยกับการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นจึงนำหลักธรรมที่คล้ายคลึงกันในทุกศาสนา นั่นคือ ความรัก ความเมตตา การรับใช้ มาร่วมกันระดมพลังเพื่อความสมบูรณ์ของบรรดาผู้ติดเชื้อฯ ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ที่ได้รับผลกระทบและเครือข่ายองค์3 ศาสนาด้านเอดส์ในประเทศไทยได้วางวัตถุประสงค์ไว้ว่า
เสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานด้านเอดส์ให้เครือข่ายแต่ละศาสนา
รณรงค์และสนับสนุนงาน "เครือข่ายระหว่างศาสนาในงานด้านเอดส์ในประเทศไทย" ให้เกิดเข้มแข็งในการทำกิจกรรมระหว่างกลุ่มศาสนา
เป็นแกนนำในการผสมผสานคุณค่าของศาสนาและความเชื่อ เพื่อร่วมกันลดการติดเชื้อเอชไอวีในสังคมไทย
เป็นองค์กรประสานงานกับระดับท้องถิ่น ภูมภาค ระดับชาติ และระดับโลกในการปฏิบัติพันธกิจต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์
หน่วยงานศาสนาต่างทำงานในปัญหาเอดส์ในอย่างต่อเนื่อง มีการทำงานทั้งตั้งรับปัญหา ทำงานเชิงรุกในชุมชน ในโรงเรียน ในสถานประกอบการ โดยจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้ 1. งานป้องกัน 2. การดูแล 3. การสนับสนุน 4. การรณรงค์เชิงนโยบาย และสรุปบทเรียนการทำงานของตน
จากทรรศนะดังกล่าวของเครือข่ายองค์กร 3 ศาสนาทำให้ได้เห็นความมุ่งมั่น เป็นความมุ่งมั่นที่จะรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าง มีพลังและสร้างเครือข่ายทางความเชื่อระหว่างศาสนาที่ลึกซึ้งในการทำงานเอดส์ในประเทศไทย ที่มุ่งแก้ไขปัญหาเอดส์ด้วยความกล้าหาญ การกระทำที่สร้างสรรค์และเป็นนวตกรรมที่มุ่งส่งเสริมคุณค่าความเป็นมนุษย์ ที่สนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับประชาชน
บนความหลากหลายของชุมชนทางศาสนาทำให้สามารถสร้างเวทีแลกเปลี่ยน หารือ ติดตามสถานการณ์และปัญหาโรคเอดส์ร่วมกันจนเกิดความตกลงร่วมกันว่า จะกลับไปกระทำภารกิจของตนเองบนพื้นฐานความเชื่อของตน ไปสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์ เสริมสร้างกำลังใจแก่พี่น้องที่ติดเชื้อและกำลังป่วย ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติไปสู่การเคารพคุณค่าชีวิต และความสัมพันธ์ที่มีความหมายในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ณ วันนี้ ปัญหาเอดส์ในสังคมไทยอาจจะบรรเทาลงด้วยมือของศาสนิกต่างๆ ที่ยึดมั่นดำเนินชีวิตตามคำสั่งสอน แต่เราต้องยอมรับว่า สถานการณ์เอดส์ในโลก และแม้ในสังคมไทยเองยังคงรุนแรงอยู่
กระนั้นก็ดี เรา ศาสนิกชนมีความเชื่อมั่นว่า การแก้ไขปัญหาทุกเรื่องสามารถสำเร็จได้ด้วยการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก ในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมมันจะเติบโตขึ้นและบังเกิดผลต่อสังคม โดยอาศัยความร่วมมือจากศาสนิกอื่นๆ จากทุกมุมบนโลกใบนี้อย่างสมานฉันท์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)