Skip to main content
sharethis

กรณีที่ “เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย” ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 ที่ผ่านมา เรื่อง มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ยืนยันในเสรีภาพที่จะแสวงหาความรู้ในการเรียนการสอน แต่คณาจารย์ที่ร่วมกันแถลงกลับถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (รายละเอียดเพิ่มเติม)

ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ย.58) เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี ซึ่งประกอบด้วย ธนิต โตอดิเทพย์ นฤมล กล้าทุกวัน ปิยชาติ สึงตี เพ็ญศรี พานิช มนวัธน์ พรหมรัตน์ วัณณสาส์น นุ่นสุข วิทยา อาภรณ์ และสุรัช คมพจน์ สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าว ฉบับที่ 1 เรื่อง มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ประเทศไทยไม่ใช่ค่ายกักกัน และคัดค้านการดำเนินการทางกฎหมายต่อกลุ่ม “เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย”  โดยเรียกร้องให้ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) หยุดข่มขู่คุกคามคณาจารย์ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ใจ และหยุดกิจกรรมทางกฎหมายกำลังดำเนินการต่อ“เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย” ในปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้เพื่อคืนบรรยากาศของเสรีภาพและประชาธิปไตยสู่สังคมไทยอันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความวัฒนาถาวรของประเทศไทยในโลกยุคปัจจุบัน

แถลงการณ์เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี

ฉบับที่ 1 เรื่อง มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ประเทศไทยไม่ใช่ค่ายกักกัน และคัดค้านการดำเนินการทางกฎหมายต่อกลุ่ม “เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย”

            จากกรณีที่ “เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย” ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 เรื่อง มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ยืนยันในเสรีภาพที่จะแสวงหาความรู้ในการเรียนการสอน แต่คณาจารย์ที่ร่วมกันแถลงกลับถูกออกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี เห็นว่าการตั้งข้อหาจำคุกกับคณาจารย์กลุ่มดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ เป็นการคุกคามให้ยุติการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ทั้งที่การแสดงความคิดเห็นของคณาจารย์เหล่านั้นเป็นไปโดยบริสุทธิ์ใจ ปรารถนาดี และเปิดเผย และถือเป็นหน้าที่อันพึงกระทำของคณาจารย์ที่ต้องแบ่งปันความคิดและความรู้กับสังคม

            เราสนับสนุนว่า “มหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร” หากแต่เป็นสถานที่แสวงหาความรู้ แลกเปลี่ยนถกเถียงกันบนพื้นฐานของการใช้เหตุผลและข้อเท็จจริง นำมาซึ่งความรู้ใหม่ เพิ่มพูนสติปัญญาไปรับรู้โลกที่เปลี่ยนแปลงไปและแก้ไขปัญหาของประเทศ เสรีภาพในการแสวงหาความรู้และแสดงความคิดเห็นจึงเป็นปัจจัยพื้นฐานของมหาวิทยาลัยและสังคม

            เรายืนยันว่า “ประเทศไทยไม่ใช่ค่ายกักกัน” ประชาชนไทยมีความหลากหลายทางความเชื่อและความคิดทางการเมือง หนทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้คือเสรีภาพในความเชื่อและการแสดงความคิดเห็นด้วยหลักเหตุผลและข้อเท็จจริง การปฏิบัติต่อประชาชนคนไทยประดุจผู้ถูกกักกันด้วยการปลูกฝังอุดมการณ์หรือความเชื่อหนึ่งๆ เพื่อครอบงำสังคมทั้งหมดภายใต้โครงสร้างอำนาจของคนบางกลุ่ม ด้วยวิธีการปิดหูปิดตา บังคับข่มขู่ คุกคามด้วยอำนาจกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมให้ผู้เห็นต่างยุติการแสดงความคิดเห็นมีแต่จะนำมาซึ่งความขัดแย้งมากขึ้น และไม่สามารถนำพาสังคมไทยไปสู่ความเสมอภาค เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม และสันติสุขได้

            เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี จึงเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติหยุดข่มขู่คุกคามคณาจารย์ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ใจ และหยุดกิจกรรมทางกฎหมายกำลังดำเนินการต่อ“เครือข่ายคณาจารย์มหาวิทยาลัย” ในปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้เพื่อคืนบรรยากาศของเสรีภาพและประชาธิปไตยสู่สังคมไทยอันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความวัฒนาถาวรของประเทศไทยในโลกยุคปัจจุบัน

เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี

23 พฤศจิกายน 2558

ผู้ร่วมลงนามแถลงการณ์เครือข่ายคณาจารย์วลัยลักษณ์เสรี ฉบับที่ 1

            1. อ.ดร.ธนิต โตอดิเทพย์         สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            2. อ.นฤมล กล้าทุกวัน             สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            3. อ.ปิยชาติ สึงตี                   สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์     

            4. อ.เพ็ญศรี พานิช                 สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            5. อ.มนวัธน์ พรหมรัตน์            สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            6. อ.ดร.วัณณสาส์น นุ่นสุข       สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            7. อ.วิทยา อาภรณ์                 สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            8. อ.สุรัช คมพจน์                   สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            9. อ.อนุสรณ์ ชัยอักษรเวช        สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            10. อ.อัมพร หมาดเด็น            สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

            11. อ.อุเชนทร์ เชียงเสน          สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

           

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net