Skip to main content
sharethis

ประชาไท-18 ส.ค. 48       วานนี้(18 ส.ค.) นายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธาธิการ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้นำกำลังเทศกิจสามคันรถตู้ พร้อมกำลังตำรวจอีก 8 นาย รวมทั้งข้าราชการ กทม. เข้าไปยังชุมชนป้อมมหากาฬ ขณะที่ชาวชุมชนฯ รวมตัวออกมาขวางไม่ให้เข้า พร้อมส่งตัวแทนเจรจา


 


นายอภิรัตน์ กล่าวว่า การสำรวจมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการช่วยเหลือเยียวยา หลังรื้อชุมชนตามแผนการพัฒนาของรัฐบาล  แต่ที่นำคนมาเป็นจำนวนมากเนื่องจากเกรงว่าจะมีความไม่ปลอดภัย เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาชุมชนไม่ค่อยให้ความร่วมมือ กับ กทม.


 


ระหว่างการเจรจา ชาวบ้านได้แย้งว่า แม้จะเป็นผู้เช่าไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ก็อยู่อาศัยกันยาวนาน จนคนภายในชุมชนมีความสัมพันธ์กันอย่างเข้มแข็ง นอกจากนี้ชุมชนยังมีประวัติศาสตร์ คู่มากับโบราณสถาน"ป้อมมหากาฬ" และสามารถที่จะพัฒนาชุมชนให้เข้ากับโครงการ "บ้านถาวร" ของกทม.ได้


 


แต่ตัวแทนของกทม.อ้างว่าต้องทำตามกฎหมาย  ทำให้บรรยากาศการเจรจาเริ่มระอุขึ้น จนกระทั่งตัวแทนจากทางกทม.สั่งให้เจ้าหน้าที่ กทม. ตรวจพื้นที่ทันที ชาวบ้านจึงไม่พอใจจนกรูกันเข้ากันเจ้าหน้าที่เข้าตรวจ จนเกือบจะมีการปะทะ แต่นายปฐมฤกษ์ เกตุทัต ตัวแทนจากอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาความมั่นคงที่ทำกินและที่อยู่อาศัย วุฒิสภา  เข้ามาไกล่เกลี่ย และเข้าร่วมวงเจรจา จึงเข้าสู่ภาวะปกติ


 


นายปฐมฤกษ์ ระบุว่า การที่ กทม.ยืนจะไล่รื้อและมีการเยียวยาตอบแทนนั้นเป็นการข้ามขั้นตอน เพราะ กทม.ต้องตอบให้ชัดก่อน ว่า รื้อชุมชนได้หรือไม่ เพราะเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติทางกฎหมาย ยังมีเรื่องค้างที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ คณะอนุ กมธ.ศึกษาปัญหาความมั่นคงที่ทำกินฯ  ในคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมละความมั่นคงของมนุษย์วุฒิสภา


 


โดยที่ผ่านมาทางอนุ กมธ.ศึกษาความมั่นคงที่ทำกิน ได้เชิญผู้บริหาร กทม.มาหารือเพื่อปรึกษาเชิงนโยบายหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยมีผู้ใดมาสักครั้ง นอกจากนี้ นายอภิรักษ์ เคยตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้ ศ.แพทย์หญิง เพ็ญศรี พิชัยสนิธ รองผู้ว่าฯ เป็นประธาน แต่มีการประชุมเพียงครั้งเดียว เมื่อปีก่อน ต่อมาเรียกประชุมครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา กลับตัดสินว่าชุมชนป้อมมหากาฬต้องออกจากพื้นที่


 


ทั้งนี้ นายปฐมฤกษ์ ระบุว่า ในการประชุมดังกล่าว ตนได้เข้าร่วมด้วยในฐานะกรรมการคนหนึ่ง มีการถกเถียงกันในข้อกฎหมาย ซึ่งทาง กทม. ได้ อ้าง พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ว่าคนอยู่กลับโบราณสถานไม่ได้ แต่ความจริง พ.ร.บ.ดังกล่าว บอกว่า ให้อำนาจการตัดสินที่ กรมศิลปากร  ไม่ใช่ กทม.


 


อีกทั้ง กทม.ยังได้อ้างคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด ให้ย้ายชุมชนออกไป ใน คำสั่งศาลก็ไม่ได้พูดเช่นนั้น และเมื่อที่ประชุมมีการเสนอให้จัดเวที เชิญนักกฎหมาย นักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในเรื่องนี้มาร่มกันตีความเพื่อหาข้อยุติทางกฎหมาย ทาง รองผู้ว่าฯซึ่งเป็นประธานกลับสั่งปิดประชุมทันที


 


"จึงอยากถามกทม.ว่า การตัดสินว่าชุมชนต้องรื้ออกไปนั้นตัดสินบนฐานกฎหมายอะไร" นายปฐมฤกษ์ กล่ว


 


จากนั้น นายปฐมฤกษ์ เสนอว่าต้องการคุยกับ นายอภิรักษ์ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาดังกล่าว จึงโดยจะให้ทางอนุฯกมธ.ทำจดหมายเชิญ นายอภิรัตน์ ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่วันนี้ ต้องทำตามหน้าที่ให้ได้ สุดท้ายทางชุมชนไม่ได้ขัดขวางแต่ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลหรือพูดจาอะไรกับทางกทม.เพิ่มแต่อย่างใด


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


 


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=247&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=233&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=248&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net