ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-29 ก.ค.48     กลุ่มหยุดยิงปะโอแดงในรัฐฉานภาคใต้ ออกประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของตนปลูกฝิ่นได้อย่างเสรี ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า  ขัดแย้งกับที่ทางการพม่ารายงานของสหประชา ชาติที่ระบุว่าปริมาณฝิ่นในพม่ากำลังลดลงแล้วอย่างสิ้นเชิง
 

สำนักข่าว S.H.A.N รายงานโดยอ้างข้อมูลจากหนังสือพิมพ์กันตาระวดีไทม์ของกลุ่มคะยาค์อิสระฉบับวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา กลุ่มหยุดยิงปะโอแดง หรือ SNPLO [Shan Nationalities People Liberation Organi zation] ในรัฐฉานภาคใต้ได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของตนปลูกฝิ่นได้อย่างเสรี

คำประกาศดังกล่าวออกโดย นายชิดผิ่ว นายอำเภอเมืองหมอกใหม่ ผู้ได้รับการแต่งตั้งจากกลุ่มหยุดยิงปะโอแดง [SNPLO] ซึ่งปกครองหมู่บ้านทั้งหมด 21 หมู่บ้าน 5 หมู่บ้านอยู่ในอำเภอสี่แส่ง ส่วนอีก 16 หมู่บ้านอยู่ในอำเภอหมอกใหม่ จังหวัดตองจี  โดยอนุญาตให้ชาวบ้านปลูกฝิ่นได้อย่างเสรีและให้เพิ่มปริมาณมากขึ้นกว่าเดิม

มีข้อมูลว่า  ที่ผ่านมาชาวบ้านที่มีอาชีพปลูกฝิ่นจะได้ผลผลิตอย่างน้อยปีละ 2 - 20 จ๊อย(3.2- 32 กก.) ต่อ 1 ครอบครัว ในขณะที่ราคาซื้อขายอยู่ที่ 2.8 แสนจ๊าต(11,200 บาท) ต่อ 1 จ๊อย(1.6 กก.) ในปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ที่ 3 แสนจ๊าต(1.2 หมื่นบาท) ต่อ 1 จ๊อย

รายงานข่าวชิ้นนี้สอดคล้องกับการรายงานของตำรวจพม่าในเมืองตองจี  เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา   ปริมาณการปลูกฝิ่นในเขตพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังหยุดยิงปะโอขาว PNO ซึ่งเป็นคู่แข่งของกองกำลังหยุดยิงปะโอแดง SNPLO ในอำเภอหัวโปง อำเภอปางลอง และอำเภอผายขุ่น เพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกปี

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา กลุ่มกองกำลังปะโอขาว ได้ประกาศห้ามประชาชนในพื้นที่ของตนปลูกฝิ่น ขณะที่กองกำลังปะโอแดงกลับอนุญาตให้มีปลูกได้อย่างเสรี   ซึ่งปริมาณฝิ่นในพม่าปัจจุบันแตกต่างกับกับรายงานของสหประชาชาติที่ระบุว่าปริมาณฝิ่นในพม่ากำลังลดลงแล้วอย่างสิ้นเชิง

ด้านนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าคนหนึ่งให้ความเห็นว่า   อย่าว่าแต่ปริมาณฝิ่นในพม่าจะลดลง ปัจจุบันปริมาณกลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม สาเหตุเกิดจากรัฐบาลให้ร่วมมือและรู้เห็นเป็นใจนั่นเอง