กรุงเทพฯ- 27 ก.ค.48 นาย
" เราวางกรอบไว้ว่า เป็นหนี้ไม่เกินรายละ 2.5 ล้านบาท เหลือ 769 รายที่มีความเร่งด่วนและจำเป็นที่ถูกฟ้องร้องบังคับคดีจำนวนเงินต้น 685 ล้านบาท เราได้ซื้อโอนตัดหนี้มาในราคา 296.73 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ลดลงมากว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก"นายพินิจระบุ
อย่างไรก็ดีเป็นที่น่าสังเกตว่า มติของกชก.ครั้งนี้น่าจะไม่สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของเครือข่ายหนี้สินชาวนาฯ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับหลังจากมาชุมนุมประท้วงที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเมื่อวานนี้ โดย 1 ในข้อเรียกร้องของกลุ่มฯ คือ ขอให้รัฐบาลทบทวนมติครม.วันที่ 12 ก.ค.2548 ที่เสนอโดยนายพินิจให้คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกร (กชก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เข้ามาแก้ปัญหาหนี้เร่งด่วนของเกษตรกรที่เป็นสมาชิก เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวขัดกับพ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟู และวิธีการของกชก.ไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ได้
ขณะที่ข้อเสนออื่นๆ อาทิ ขอเชิญให้พ.ต.ท.ทักษิณรับเป็นประธานกองทุนฟื้นฟูด้วยตัวเอง จนกว่าจะแน่ใจว่ากองทุนฟื้นฟูสามารถดำเนินการไปได้ ขอให้นายกฯจัดการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟู เพื่อรับรองรายงานการประชุมของคณะกรรมการเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2548 หรือจัดประชุมใหม่เพื่อแต่งตั้งคณะกรรม การบริหาร กรรมการจัดการหนี้ และแก้ปัญหาเรื่องตำแหน่งเลขาธิการกองทุนฯ เพื่อให้กองทุนฟื้นฟูสามารถบริหารงานต่อไปได้
ขอให้รัฐบาลประกาศใช้นโยบายกองทุนฟื้นฟู เป็นกลไกหลักในการแก้ปัญหาหนี้ของเกษตรกรทั้งระบบ 4. ดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการจัดการหนี้ โดยให้การเห็นชอบการชำระหนี้แทนเกษตรกร 16 ราย ซึ่งได้เซ็นสัญญาไปแล้ว เป็นการประเดิมตามที่คณะกรรมการจัดการหนี้ชุดที่แล้วได้เห็นชอบจำนวน 7.3 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงข้อแรกที่นายกรัฐมนตรีตอบรับว่า อาจจะมานั่งเป็นประธานการประชุมกองทุนฟื้นฟูฯ ชั่วคราวเท่านั้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)