Skip to main content
sharethis

ประชาไท -- 2 มิ.ย. 48 หลายฝ่ายออกมาคัดค้านแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราเดียว และสัดส่วนกรรมการสรรหา คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายหลังจากการประชุม 3 ฝ่ายล้มเหลววานนี้

โดยความเคลื่อนไหวจากฝ่ายวุฒิสภา ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ (รธน.) ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะล้วนแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาการบล็อกโหวตได้ อีกทั้งเห็นว่าควรแก้ไขกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับกรรมการสรรหา ป.ป.ช. เพียงเรื่องเดียว

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ระบุว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่เกี่ยวข้องกับการการแต่งตั้งกรรมการสรรหา ป.ป.ช. ไม่ว่าจากฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ก็ล้วนแต่หนีไม่พ้น ตัวแทนจากฝ่ายการเมือง และไม่แก้ปัญหาการบล็อกโหวต

ทั้งนี้ นายเสรีกล่าวว่า สัดส่วนกรรมการสรรหา ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จำนวน5 คน แม้จะมีความหลากหลายในวิชาชีพ แต่ก็มาจากองค์กรเดียวกัน

เช่นเดียวกับสัดส่วนของอธิการบดี จำนวน 7 คน ก็สามารถจะบล็อกโหวตได้เพราะมหาวิทยาลัยของรัฐก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก

โดยสัดส่วนคณะกรรมการสรรหาฯ นั้น วุฒิสภาเห็นว่าควรมาจากผู้แทนองค์กรวิชาชีพที่กฎหมายรับรอง เช่น สภาวิศวกรรมแห่งชาติ สภาทนายความ เพื่อให้เกิดความหลากหลายทางวิชาชีพ ซึ่งอาจจะมีจำนวนประมาณ 5-7 คนและให้ลดสัดส่วนของอธิการบดีลง

จากนั้น นายเสรีเปิดเผยว่าในส่วนของวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขเรื่องการตั้งกรรมการสรรหา ป.ป.ช. ขึ้นมาเป็นการเร่งด่วน เพื่อจะเสนอเป็นแนวทางต่อรัฐบาล

ด้านนายสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่าสถานการณ์ขณะนี้ควรจะแก้กฎหมายประกอบรธน. มาตรา 7 หมวด ป.ป.ช. ก่อน เพื่อปลดล็อกเงื่อนเวลา 30 วัน ที่ต้องตั้งป.ป.ช.ให้เสร็จส้นก่อน เพราะเกรงว่ากว่าจะแก้รธน. เสร็จก็อาจจะแต่งตั้งป.ป.ช. ไม่ทันตามกำหนดเดิม

ด้านพรรคมหาชน ค้านการแก้รธน. มาตราเดียว เสนอแนวทางของพรรค ให้องคมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งป.ป.ช. โดยพลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ กล่าวว่าพรรคมีมติไม่เห็นด้วยในแนวทางการแก้ไขรธน. เพราะเหมือนเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ทั้งนี้ พลตรีสนั่นเห็นว่าควรแก้ปัญหาเรื่องกรรมการสรรหา ควบคู่ไปกับการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากขณะนี้
ป.ป.ช. มีคดีค้างการพิจารณาอยู่กว่า 7,000 คดี โดยมีคดีที่จะขาดอายุความถึง 40 คดี

นายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรคมหาชนกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น รธน. ที่มาจากประชาชนไม่ควรจะแก้ไขโดยประชาชนไม่มีส่วนร่วม

ด้านความเคลื่อนไหวจากพรรคฝ่ายค้าน วันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังคงเสนอสัดส่วนคณะกรรมการสรรหาจำนวนเดิมคือ 21 คน ประกอบด้วยประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานปกครองสูงสุด ผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 4 คน รวม 7 คนอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคล 7 คน สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคัดเลือกกันเองให้ได้ 5 คนและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเลือกกันเองให้ได้ 2 คน รวมทั้งสิ้น 21 คน

อนึ่งวานนี้ ผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และวุฒิสภาประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางในการสรรหาคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยภายหลังการประชุม ไม่มีข้อสรุปที่ลงตัวเนื่องจากต่างฝ่ายต่างยืนยันในแนวทางของตน

ทั้งนี้ แนวทางของฝ่ายรัฐบาลคือ แก้ไขรธน. มาตรา 257
http://www.kodmhai.com/m1/m1-297-302.htmlและกำหนดองค์ประกอบกรรมการสรรหาป.ป.ช. 16 คน ประกอบด้วย ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม 3 คน ฝ่ายวิชาการ ได้แก่อธิการบดีมหาวิทยาลัย 7 คน ตัวแทนองค์กรอิสระที่เหลืออีก 4 องค์กร ได้แก่ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา และประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และฝ่ายการเมืองคือประธานรัฐสภาและผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net