Skip to main content
sharethis

นราธิวาส- 27 มี.ค.48 เมื่อเวลา 10.40 น. ขณะที่รถไฟตรวจการณ์ระหว่างสถานีสุไหงโกลก - สถานีรถไฟสุไหงปาดี วิ่งผ่านบ้านโคกสยา หมู่ที่ 1 ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส มีคนร้ายที่แอบซุ่มอยู่ตรงริมทางรถไฟทั้ง 2 ฝั่ง กดชนวนระเบิด ที่นำมาซุกไว้ใต้รางรถไฟ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงซ้ำอีกระลอก แรงระเบิดทำให้หัวรถจักร โบกี้รถไฟ และรางรถไฟขาดออกจากกัน กำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ และพนักงานรถไฟบาดเจ็บระนาว

ขณะเดียวกัน คนร้ายกลุ่มนี้ยังได้วางตะปูเรือใบเกลื่อนถนนสายหลัก ที่เป็นเส้นทางมายังจุดเกิดเหตุ คือ เส้นทางอำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส เชื่อมต่อกับอำเภอสุไหงปาดี และเส้นทางจากตัวจังหวัดนราธิวาส ถึงอำเภอสุไหงปาดี ทำให้รถของตำรวจ ทหาร และผู้สื่อข่าว ถูกตะปูเรือใบกว่า 10 คัน

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 20 นาย แยกเป็น พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย 9 นาย และตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษอีก 11 นาย ในจำนวนนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุไหงโก - ลก 9 นาย คือ ส.ต.ต.ชัยรัตน์ ชูโตชนะ อายุ 27 ปี ศีรษะบวม มีบาดแผลตามร่างกาย, ส.ต.ต.ธีระพงษ์ คงสวัสดิ์ อายุ 25 ปี กระดูกสันหลังหัก ขาชาทั้ง 2 ข้าง, ส.ต.ต.คำนึง ประสิทธ์มุ้ย อายุ 25 ปี ปวดไหล่ซ้าย เจ็บหน้าอก, ส.ต.ต.เทียนสิน ศรีทอง อายุ 29 ปี เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด, ส.ต.ต.พิษณุ ชัยพรม อายุ 22 ปี ปวดหลัง แน่นหน้าอก, นายสุคนธ์ สมศักดิ์ อายุ 58 ปี ถูกกระสุนปืนอาก้าข้างลำตัว, นายพัฒนา พรามณ์แก้ว อายุ 35 ปี บาดเจ็บที่แขนซ้ายและมีบาดแผลที่หน้าอก, นายประทวน บุญใส อายุ 39 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้องซ้าย และเท้า, นายคณาวุฒิ สุขแสงชู อายุ 47 ปี ถูกระเบิดที่เปลือกตาล่าง

ส่วนผู้บาดเจ็บเล็กน้อยมี 11 คน หลังจากแพทย์โรงพยาบาลสุไหงปาดีทำแผลให้แล้ว เกือบทั้งหมดได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ คือ ด.ต.สารีมิง สามะ, ส.ต.ต.ปรัชญา รัตนนิมิตร อายุ 37 ปี, ส.ต.ท.สมพงษ์ บาชู, ส.ต.ต.อับดุลฮาดี โจทย์สัน, ส.ต.ต.โกวิทย์ มณีรัตน์, ส.ต.ต.บรรลือ ศิริวัฒโน, นายมหามะยานาวี ดาโอ๊ะ อายุ 35 ปี, นายสิงห์ บุญทิพย์, วัฒนา นิลโมทย์, นายสำเนา สะเทือนลำ, นายธเนศ ตามเหมือนมนต์

ต่อมา พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ ได้เดินทางมาบัญชาการกองกำลังผสมพลเรือนตำรวจทหาร ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้าย โดยสั่งการให้กำลังทหารชุดเฉพาะกิจที่ 36 ค่ายเพชราวุธ นำสุนัขสงครามดมกลิ่น 2 ตัว ออกสะกดรอยคนร้าย ไปยังเขตรอยต่อผืนป่าพรุโต๊ะแดง

สำหรับกองกำลังผสม แยกเป็น 3 ชุดปฏิบัติการ ชุดแรก กระจายหน้ากระดานออกติดตามกลุ่มคนร้าย ชุดที่ 2 กระจายกำลังโอบล้อมจุดเกิดเหตุ เข้าตรวจค้นสถานที่ที่คาดว่า คนร้ายใช้หลบซ่อน ชุดที่ 3 ออกตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทุกเส้นทางเข้า - ออกจากจุดเกิดเหตุ โดยตรวจตรายานพาหนะอย่างละเอียด

ขณะเดียวกัน พ.อ.อาคม พงศ์พรหม รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ได้ออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่น่าไว้วางใจ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือแจ้งมาที่สายด่วนหมายเลข 1341 หรือส่งข้อมูลไปที่ตู้ปณ. 4 อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี 94170

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสหภาพฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยังกองกำลังในพื้นที่ ขอให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถ เส้นทางรถไฟ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับสับเปลี่ยนกำลังรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่สถานีรถไฟปัตตานีถึงสถานีรถไฟสุไหงโก - ลก ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไปเป็นทหารทั้งหมด และให้เดินเท้าลาดตระเวนในพื้นที่จุดเสี่ยง ก่อนออกเดินรถในช่วงเช้า ทั้งนี้ สหภาพฯ จะประสานไปยังกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง

โดยช่วงเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2548 นายจิตต์สันติ ธนโสภณ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ ที่สถานีรถไฟชุมทางอำเภอหาดใหญ่

สำหรับการเดินรถแต่ละวัน จะมีขบวนรถธรรมดา 4 ขบวนคือ ยะลา - สุไหงโก - ลก, พัทลุง - สุไหงโกลก, สุราษฎร์ธานี - สุไหงโกลก, นครศรีธรรมราช - สุไหงโกลก ส่วนขบวนรถเร็วและรถด่วนแต่ละวันมี 3 ขบวน คือ รถเร็วท้องถิ่นหรือดีเซลรางหาดใหญ่ - สุไหงโกลก, รถเร็วสายกรุงเทพฯ - สุไหงโกลก 3. รถด่วนทักษิณสายกรุงเทพฯ - สุไหงโกลก ทุกขบวนยังเปิดขายตั๋วตามปกติ
วันเดียวกัน หลังจากร.ต.ต.เนติวุฒิ ดีแก้ว ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอสุไหงปาดี พร้อมกำลังตำรวจ กลับจากตรวจจุดเกิดเหตุลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ มาถึงสถานีตำรวจภูธรอำเภอสุไหงปาดี ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณหลังแฟลตตำรวจสุไหงปาดี ห่างจากสถานีตำรวจเพียง 100 เมตร

จากการตรวจสอบพบท่อระบายน้ำทิ้งริมถนนหลังแฟลตตำรวจ แตกกระจายเป็นรูโหว่ กำแพงปูนถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูพรุน มีเศษฝาท่อระบายน้ำและเศษปูน กระจัดกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณมีวงกว้าง 15 เมตร ปะปนกับเศษชิ้นส่วนของสะเก็ดระเบิด อาทิ เศษดินระเบิดไดนาไมต์ เศษตะปู เศษโซ่เลื่อยยนต์ เชื้อปะทุ ลูกปลาย และเศษโทรศัพท์พร้อมซิมมือถือ

จากการสอบสวนทราบว่า ระหว่างที่ตำรวจออกติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ มีชายวัยรุ่น 2 คน พยายามนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม บรรจุในกล่องทัปเปอร์แวร์พลาสติกแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส เข้าไปวางที่แฟลตตำรวจ แต่มีลวดหีบเพลงวางดักไว้ จึงนำออกไปวางไว้ที่ท่อระบายน้ำริมถนนหลังแฟลตตำรวจแทน

จากนั้นคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หายไปประมาณ 15 นาที จึงจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ จนเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกับที่ลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net