ประชาไท-17 มี.ค.2548 กลุ่มสมัชชาคนจนเคลื่อนขบวนล้อการเมืองจากหน้ารัฐสภาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยมีการเชิดหุ่นทักษิณ สวมหน้ากากแกนนำชาวบ้านที่ถูกสังหาร 18 ราย ผูกโซ่ตรวนที่คอและมือประท้วงการกดขี่ใช้ความรุนแรงของกระบวนการรัฐที่ผ่านมา ก่อนประกาศเดินหน้าการตรวจ สอบนโยบายรัฐโดยกรรมาธิการภาคประชาชนอย่างจริงจังต่อไป

หลังจากที่มีการชุมนุมของกลุ่มสมัชชาคนจน บริเวณหน้ารัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางกลุ่มสมัชชาคนจนและเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ ได้มีการแต่งตั้ง" คณะกรรมาธิการภาคประชาชนตรวจสอบนโยบายความยากจนและสังคม" และมีการเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอ หรือข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายที่เกิดปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านสมัชชาคนจน จำนวน 207 กรณี จาก 7 เครือข่าย

ล่าสุดวันนี้(17 มี.ค.) หลังจากที่ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักวิพากษ์สังคมชื่อดัง ได้ปาฐกถาพิเศษ "เรื่อง รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนกับรัฐบาลอำนาจนิยม" กลุ่มสมัชชาคนจนได้เคลื่อนขบวนจากหน้ารัฐสภา ไปหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยโดยมีการเชิดหุ่นทักษิณ สวมหน้ากากแกนนำชาวบ้านที่ถูกสังหาร 18 ราย ผูกโซ่ตรวนที่คอและมือประท้วงการกดขี่ใช้ความรุนแรงของกระบวนการรัฐที่ผ่านมา

เมื่อถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสมัชชาคนจนได้ร่วมจัดพิธีกรรมสาปแช่ง โดยการนำแผ่นศิลาที่มีข้อ
ความสาปแช่งผู้ที่ทำลายชุมชนและสิ่งแวดล้อม และอวยพรผู้ฟื้นฟูธรรมชาติและชุมชนอย่างแท้จริง โดยมีนางใฮ ขันจันทา เข้าร่วมพิธี ก่อนตัวแทนชาวบ้านจะลุกขึ้นอ่านแถลงข่าว พร้อมประกาศเจตนา รมณ์ที่จะร่วมกันตรวจสอบนโยบายการทำงานของรัฐบาล ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ

น.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มสมัชชาคนจน กล่าวว่า หลังจากนี้ไปทางคณะกรรมาธิการภาคประชาชนตรวจสอบนโยบายความยากจนและสังคม จะนัดประชุมพูดคุยกันเพื่อวางแผนงานร่วม กันอีกครั้งว่า จะต้องมีขั้นตอนการทำงานอย่างไรให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะทำงานควบคู่ไปกับการตรวจสอบการทำงานของรัฐไปพร้อมๆ กัน

"เพราะเรามีข้อมูล งานวิจัย มีกระบวนการมีส่วนร่วมทั้งของประชาชนและนักวิชาการ ดังนั้นทุกคนจึงเชื่อมั่นว่า สามารถทำงานและทำการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของนโยบายรัฐได้" ที่ปรึกษาสมัชชาคนจนกล่าว

ในขณะที่ นายชัยพันธ์ ประภาสวัติ ที่ปรึกษากลุ่มสมัชชาคนจน กล่าวสรุปผลการประชุมพ่อครัวใหญ่ว่า จะมีการนัดประชุมหารือกับตัวแทนเครือข่ายทั้งหมดอีกครั้งในต้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อร่วมกันวางแผนการทำงานตามที่ได้พูดกันไว้ให้มีความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมมากขึ้น

"ในส่วนของการผลักดันข้อเรียกร้องกรณีปัญหาความเดือดร้อนทั้ง 207 กรณีจาก 7 เครือข่ายทั่วประเทศนั้น ภายในสัปดาห์นี้ จะเร่งรวบรวมปัญหาข้อมูลทั้งหมด ให้กับทางสมาชิกวุฒิสภาที่มารับฟังปัญหาของชาวบ้านเมื่อวันก่อนเพื่อนำเข้าสู่สภา ก่อนจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล" นายชัยพันธ์ กล่าว

องอาจ เดชา