สวนดุสิตโพลชี้คนไทยดีใจได้รัฐบาลอภิสิทธิ์

เว็บไซต์เดลินิวส์ - 20 ธ.ค. สวนดุสิตโพล รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจาก 30 จังหวัดทั่วประเทศต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ ดังนี้ ความรู้สึกของคนไทยต่อการได้รัฐบาลอภิสิทธิ์ อันดับ 1 ร้อยละ 46.06 ดีใจ สบายใจขึ้นและคลายเครียด อันดับ 2 ร้อยละ 23.54 มีความหวังว่าประเทศชาติน่าจะดีขึ้น ส่วนความหวังของคนไทยต่อการได้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ร้อยละ 39.79 น่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น รองลงมาร้อยละ 24.06 คงจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใส สำหรับสิ่งที่คนไทยกลัวต่อการได้รัฐบาลอภิสิทธิ์ ประการแรกคือ กลัวความขัดแย้งที่อีกฝ่ายไม่ยอมยุติ ร้อยละ 34.38 และกลัวการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดความขัดแย้งในรัฐบาล ร้อยละ 31.72

แม่ทัพภาคที่1 ประสานตำรวจเกาะติดม็อบ เฝ้าระวังเหตุป่วนปีใหม่

เว็บไซต์แนวหน้า - พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์กรณีที่ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ว่า กองทัพติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการชุมนุมวันที่ 28 ธันวาคมนี้ ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งทหารได้ประสานงานกับตำรวจ เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุม โดยขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่โดยตรง ยังเฝ้าระวังสถานการณ์และเกาะติดความเคลื่อนไหวมวลชนตามปกติ

ส่วนการเฝ้าระวังเหตุการณ์ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ทางกองทัพได้เตรียมพร้อมแล้ว พร้อมประสานความร่วมมือกับตำรวจและทุกภาคส่วน เพื่อขอความร่วมมือจากกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างและชุมชนต่างๆ ในการแจ้งแบะแสความเคลื่อนไหว หากพบสิ่งผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านกองอำนวยการรักษาความมั่นคงมั่นในทันที

"สังศิต" ชี้ "ครม.อภิสิทธิ์1" ไปไม่รอด เหตุแบกความคาดหวังสูง-ทีม ศก.ยังไม่ดีพอ

เว็บไซต์แนวหน้า - นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงโฉมหน้า ครม.อภิสิทธิ์ 1 ว่า รัฐบาลชุดนี้ประชาชนมีความคาดหวังสูงมาก เพราะจัดตั้งขึ้นหลังจากที่ 2 รัฐบาลที่ผ่านมาล้มเหลว ก่อปัญหามากมายทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ประชาชนจะเรียกร้องให้แก้ปัญหาโดยเร็ว ซึ่งสวนทางกับขีดความสามารถของคณะรัฐมนตรีที่มีความเปราะบางมากเพราะเป็นการประสานกันของกลุ่มผลประโยชน์อันหลากหลายโดยเฉพาะกลุ่มทุนที่เป็นปัจจัยหลักทำให้จัดตั้งรัฐบาลได้ แม้แต่ทีมเศรษฐกิจที่เห็นขณะนี้ก็ยังไม่พอที่จะมากู้ชีพเศรษฐกิจไทย "การที่สภาหอการค้าออกมาแสดงความผิดหวังในทีมเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มเห็นตัวครม.อย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา ถือเป็นเรื่องน่าห่วง เพราะเป็นการส่งสัญญาณที่รวดเร็วมาก ซึ่งอาจจะมาจากการตั้งความหวังไว้สูง หลังจากที่ไม่เคยคาดหวังอะไรกับรัฐบาล 2 ชุดที่ผ่านมา ดังนั้นรัฐบาลนี้จะไปรอดหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะมีความอดทนรอให้นายอภิสิทธิ์แก้ปัญหาได้นานแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าประชาชนจะอดทนไม่นาน" นายสังศิต กล่าว

"ปณิธาน" ยอมรับถูก ปชป.ทาบทามเป็นโฆษกรัฐบาล

เว็บไซต์คมชัดลึก - 20 ธ.ค. นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่าจะไปดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ได้ทาบทามให้ตนไปดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่เป็นข่าว และทางพรรคประชาธิปัตย์จะให้ไปช่วยงานอีก 2-3 อย่าง ส่วนจะเป็นงานด้านไหนนั้นอยู่ระหว่างการพูดคุยกับทางผู้ใหญ่ก่อน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร ต้องไปถามทางผู้ใหญ่ของทางพรรคประชาธิปัตย์ หากตนตัดสินใจทางใดทางหนึ่งเกรงว่าจะไปกระทบกับทางพรรคเขาไม่ดี

"ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลย ขอเวลาอีก 2-3 วัน ส่วนจะให้ช่วยงานด้านไหนเดี๋ยวก็จะต้องพูดคุยกัน และขณะนี้ยังไม่ได้ลาออกจากทางมหาวิทยาลัย เพราะหากไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องลาออก ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาทางการเมืองได้มีการขอข้าราชการจากทางมหาวิทยาลัยให้ไปช่วยงานทางด้านการเมือง ทั้งนี้ผมจะต้องดูปัจจัยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวมาทางด้านนี้ ตอนผู้ใหญ่มาทาบทามผมก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน จึงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกนิดหน่อย" นายปณิธาน กล่าว

เมื่อถามว่า การเมืองตอนนี้ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และกลุ่มคนเสื้อแดงก็เตรียมที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล นายปณิธาน กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองมันแปรปวนมาก แต่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่มองว่าตนอาจจะไปช่วยงานได้ แต่สถานการณ์แปรปวนมาก เพราะหลายฝ่ายก็มองว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ได้ไม่นาน จะอยู่นานเท่าไหร่ก็คงตอบยาก แต่ก็คงจะต้องดูว่าคณะรัฐมนตรีเป็นอย่างไร นโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างไร จะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หรือ ปัญหาแทรกซ้อนได้หรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ที่หลายคนมองว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีสร้างความเชื่อมั่นก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

'สุเทพ'ท้าลาออก! ถ้ามีคนยืนยันได้ว่าขายเก้าอี้ รมต.

เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่าคนนอกจ่ายเงินให้พรรคเพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ขอสาบานและกล้าพูดต่อหน้าเพื่อนร่วมพรรคและประชาชนทั้งประเทศว่า ไม่มีใครซื้อตำแหน่งได้ในพรรคประชาธิปัตย์ หากคนที่พูดยืนยันได้ ตนก็พร้อมจะลาออกจากทุกตำแหน่งทันทีโดยไม่ต้องพิสูจน์ ขอเพียงออกมายืนยันว่าตนขายตำแหน่งรวมทั้งตำแหน่งเลขาธิการพรรคด้วย

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ไม่รู้สึกกลัวหรือกังวลที่คนในพรรคออกมาพูด เพราะความจริงก็คือความจริงสามารถอธิบายได้ กรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร์พัทลุง ออกมาพูดเรื่องเงินคนเป็นการตีความผิดและไม่คิดว่าจะมากล่าวหาตนเช่นนั้น ส่วนการดึงนายวีระชัย วีระเมธีกุล มาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าคนนอกนั้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับประเทศจีน เพราะเคยเป็นผู้จัดการธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศจีนและเป็นคนที่มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษและภาษาจีนเป็นอย่างดี สามารถประสานงานกับผู้อื่นได้ ซึ่งตนและหัวหน้าพรรครู้จักกับนายวีระชัยมาเป็น 10 ปี คิดว่าคนอย่างนี้ควรนำมาช่วยงานในพรรคประชาธิปัตย์

"ประชา"แทงกั๊ก ไม่ค้าน-ไม่หนุนรัฐบาล รออัดเมื่อทำงานพลาดโดยไม่ไว้หน้าใคร เล็งหารือ สส.งูเห่าหาสงบศึก

เว็บไซต์แนวหน้า - พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.)แถลงที่บ้านพัก ซ.วิภาวดี 60 ร่วมกับ สส.ที่โหวตสนับสนุนให้พล.ต.อ.ประชา เป็นนายกรัฐมนตรี อาทิ นายปุระพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒนา สส.สัดส่วน น.พ.แวมาฮาดี แวดาโอะ สส.นราธิวาส นายปาน พึ่งสุจริต รองหัวหน้าพรรค นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค โดยพล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะวางตัวเป็นกลาง ไม่ใช่ทั้งฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ถ้ารัฐบาลทำงานเป็นประโยชน์พรรคก็จะสนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง พรรคจะทำการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ละเว้นว่ารัฐมนตรีจะเป็นสส.ของพรรคด้วยหรือไม่

 "ผมยังศรัทธาและชื่นชมนายกฯ และรัฐมนตรีบางคนในครม.ชุดนี้ จึงอยากให้กำลังใจในการทำงานให้รัฐนาวานี้ฝ่าวิกฤติไปได้ และให้รัฐบาลประสบความสำเร็จ แต่ถ้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราจะตรวจสอบโดยไม่ละเว้นใคร "พล.ต.อ.ประชากล่าว

พล.ต.อ.ประชากล่าวต่อว่า ผู้ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าพรรคพผ.จาก 17 สส.ที่โหวตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประขาธิปัตย์(ปชป.)เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเห็นว่าคนจะมาเป็นรัฐมนตรีต้องมีอะไรดีๆ ถึงจะมารับตำแหน่งได้ อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่าการตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะให้ถูกใจทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละพรรค แต่ละกลุ่มต้องจัดสรรคนลงตำแหน่งตามสิทธิ์ของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะประสานรอยร้าวในพรรคอย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า  พรรคยังมีความเป็นพรรคการเมือง เรื่องอะไรที่ไม่เข้าใจจะมีการพูดคุยกันแน่นอน

ด้านนายสุรเดช กล่าวว่า หลังจากนี้จะจับตาดูการทำงานของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ว่าทำได้ตามที่ประกาศว่า 99 วันจะทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งตำแหน่งในครม.มีความสำคัญมาก จะทำมาเป็นรัฐมนตรีฝึกงานไม่ได้

ขณะที่ นายปุระพัฒน์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีคนไม่เคารพกฎหมาย โดยเฉพาะอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ยังไม่ยุติบทบาท โดยการสร้างกลุ่มขึ้นมา ทำให้ สส.ไม่มีอิสระ เรื่องนี้ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องเข้ามาจัดการให้ถูกต้อง

ส่วนนายปานกล่าวถึงการเตรียมส่งสส.ในพรรคเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในเขตที่ว่างลงว่า น.พ.แวมาฮาดี ส่งหนังสือไปถึงนายชาญชัย ชัยรุ่งเรื่อง รักษาการหัวหน้าพรรคให้เปิดการประชุมกรรมการบริหารพรรคโดยเร็วเพื่อพิจารณาลงมติว่าจะส่งสส.คนไหนลงเลือกตั้งซ่อม เพราะถ้าไม่มีมติพรรค ขณะที่ส่งชื่อให้กับกกต.ไปแล้ว ถ้ามีการทักทวงอาจจะถูกยกเลิกภายหลังได้

 "เรากังวลว่าถ้าส่งเรื่องไปแล้ว ถ้าดูรายละเอียดตามข้อบังคับไม่รู้เรื่อง และส่งชื่อไปลงสมัคร โดยไม่ผ่านมติกรรมการบริหารพรรค ก็อาจจะเป็นโมฆะ และทุกอย่างมันจะยุ่ง พรรคจะเสียโอกาส เพราะผมเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อมเราสามารถชนะการเลือกตั้งได้จนเพิ่มนวน สส.อย่างน้อยได้อีก 20 คน จึงขอให้นายชาญชัยรีบทำการเปิดประชุมเพื่อหามติพรรคโดยเร็ว"นายปานกล่าว

ผบก.น.1 เผยพร้อมรับมือ นปช.ชุมนุมใหญ่สนามหลวง

เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ธ.ค.) พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวถึง มาตราการดูแลรักษาความปลอดภัยในวันชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณท้องสนามหลวงในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. นี้ว่า ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้มีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ

กรณีที่มีการออกหมายจับกลุ่มคนเสื้อแดง6คนที่ก่อเหตุความวุ่นวายภายหลังทราบผลโหวตนายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการจับกุมเพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด

"เกื้อกูล" ส่งซิก ลดต้นทุนขนส่ง ช่วยชาวบ้าน

เว็บไซต์แนวหน้า - นายเกื้อกูล  ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม กล่าวว่า คงต้องรอให้มีงานแบ่งงานหน้าที่รับผิดชอบจาก รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงก่อน แต่ในความเห็นส่วนตัว กระทรวงคมนาคมดูแลเรื่องการขนส่ง จึงจะต้องมีการบูรณาการทั้งระบบ โดยจะเน้นการแก้ไขลดต้นทุนในการขนส่ง เช่น การส่งเสริมการขนส่งทางน้ำ ซึ่งมีราคาถูกกว่าชนิดอื่น ที่สำคัญต้องลดค่าใช้จ่ายของปรระชาชน โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหาเช่นนี้ จำเป็นต้องดูในรายละเอียดว่าจะมีนโยบายใดที่สามารถแบ่งเบาทุกข์ ให้กับพี่น้องประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า หรือลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนให้ถูกลง เพราะถ้าต้นทุนในการขนส่งลดลงก็สามารถท่าจะลดราคาสินค้าอื่นไปได้ อันเป็นการช่วยเหลือ ประชาชนในสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้

รมช.สธ. ลั่นสานนโยบายเดิม เน้นการเข้าถึงในบริการ

เว็บไซต์แนวหน้า - นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวภายหลังการมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 ว่า คงต้องรอให้มีการถวายสัตย์ปฏิญานก่อน จากนั้นจึงค่อยหารือกับ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ว่า จะมีนโยบายอื่นใดใหม่อีกหรือไม่ และจะเป็นประโยชณ์ ซึ่งเข้าถึงประชาชนอย่างสูงสุด   ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า หากนโยบายเดิมใดๆที่เป็นประโยชณ์และเข้าถึงในการบริการต่อประชาชนอยู่แล้ว ก็จะสานต่อ โดยเฉพาะ กระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพ และการดูแลรักษากต่อผู้ที่เจ็บป่วย  ดังนั้นตนก็จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  โดยจะเน้นสารธารณสุขขั้นพื้นฐาน และอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม. โดยจะเน้นการดูแลและการเข้าถึงมากกว่านี้ แม้งบประมาณปี 52 จะขอเพิ่มไม่ได้แล้ว แต่ในส่วนของงบกลาง ที่จะใช้กระตุ้นละฟื้นฟูเศรษฐกิจ ต้องมาดูในรายละเอียดว่าจุดใดเรื่องใดนโยบายใดที่สามารถส่งเสริมการใช้งบประมาณ เพื่อให้เข้าถึงประชาชน และเกิดประโยชณ์และความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งต้องมาดูอีกครั้งในรายละเอียด

วางบึ้มหน้าห้างปัตตานีซุปเปอร์มาเก็ตเสียชีวิต 1 เจ็บ 7

เว็บไซต์คมชัดลึก - 20ธ.ค.) เวลา 18.10 น. พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.เมือง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดขึ้นที่หน้าห้างปัตตานีซุปเปอร์มาเก็ต สี่แยกหน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนพิพิธ อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมชุดตัดสัญญานโทรศัพท์ ชุดวิทยาการ กก.ภจปัตตานี และ กำลังตำรวจ ทหาร ไปที่เกิดเหตุ

พบจักรยานยนต์ล้มคว่ำได้รับความเสียหาย 7 คัน และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุกระจกหน้าต่างแตก สเก็ดระเบิดและชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ ตกอยู่เกลื่อนกลาด มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปัตตานี

เบื้องต้นมีรายงานว่าพบผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 7 ราย