ประชาไท - 11 ก.ค. 50 แกนนำภาคประชาชาชนชายแดนใต้ ผลักดันเขตวัฒนธรรมพิเศษต่อ ประกาศถ้าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านประชามติ จะเจาะช่องการปกครองส่วนท้องถิ่น ผุดเขตปกครองพิเศษ ผู้ว่าฯ สงขลา หนุนเผยแพร่คำวินิจฉัยเลขาธิการโลกมุสลิมสู้ภัยไฟใต้
นายวุสนุง มัดดา ภาคประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะผู้ร่วมผลักดันให้ระบุเขตวัฒนธรรมพิเศษในร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 กล่าวว่า แนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการปกครองในรูปแบบพิเศษ โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ เป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถผลักดันให้กำหนดเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษ โดยมุ่งเน้นการใช้ศีลธรรมทางศาสนาเป็นหลักในการปกครองพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
นายวุสนุง กล่าวว่า ถึงแม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้ระบุเรื่องเขตวัฒนธรรมพิเศษ แต่ในหมวดว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น ก็ไม่ได้ปิดกั้นช่องทางให้กำหนดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนของรัฐบาลอีกครั้ง รวมทั้งต้องรอดูว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะผ่านความเห็นชอบจากประชาชนในการลงประชามติหรือไม่
นายวุสนุง กล่าวต่อไปว่า แม้จะยังไม่ทราบว่าการปกครองในรูปแบบพิเศษ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และอาจไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดต่อไปคงจะสานต่อ เนื่องจากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลรวมทั้งประชาชนทั่วไป ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เพราะตรงกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย
"ดังนั้น หากเขตปกครองแบบพิเศษมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริง รวมทั้งมีองค์กรที่สนับสนุนแนวคิดเขตวัฒนธรรมพิเศษ เราก็จะผลักดันให้กำหนดเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษไปด้วยอย่างเต็มที่ เพราะเป้าหมายหลัก คือ ต้องการใช้ศีลธรรมเป็นตัวนำในการปกครอง และต้องเป็นพื้นที่ที่ปราศจากอบายมุขต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่หมดไป" นายวุสนุง กล่าว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 50 ที่โรงแรมหาดใหญ่พาราไดส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นาย
นายสนธิ บรรยายว่า การแก้ปัญหาความไม่สงบ ต้องใช้ทั้งการทหารและการเมือง สำหรับการทหาร ทางตำรวจและทหารทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว ส่วนด้านการเมืองทุกฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จมาก เห็นได้จากผู้นำองค์กรศาสนาอิสลามระดับโลก ต่างชื่นชมและประทับใจกับแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า ชาวมุสลิมจะเชื่อฟังผู้นำศาสนามาก ดังนั้นคำวินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเลขาธิการโลกมุสลิม ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ จึงมีความสำคัญมาก จำเป็นที่ผู้ที่มีหน้าที่แก้ปัญหาต้องนำมาเรียนรู้ ด้วยการนำคำวินิจฉัยที่เป็นทางการดังกล่าว มาแปลแจกจ่ายให้นักเรียนนายอำเภอศึกษาเรียนรู้ เพื่อจะได้นำมาใช้ประกอบการแก้ปัญหาในพื้นที่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)