เมื่อวันที่ 19 มี.ค.50 ภายในงานประชุมเรื่อง "การเปิดเสรีการลงทุนใน JTEPA" ดร.
ขณะเดียวกันก็มีรายงานข่าวว่า นาย
อย่างไรก็ตาม ภายในงานสัมมนามีการอภิปรายในประเด็นของการเปิดเสรีการลงทุนและการคุ้มครองการลงทุน โดยเฉพาะ "การยึดทรัพย์ทางอ้อม" โดยรศ.ดร.
ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย จากสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างว่า ปัจจุบัน "ฟูจิ ซีร็อกซ์" มีการนำเข้าเครื่องถ่ายเอกสารเข้ามารีไซเคิลในประเทศไทยอยู่แล้ว หากลงนาม JTEPA ไปแล้วแล้วไทยออกกฎหมายควบคุมสิ่งเหล่านี้ในอนาคต กรณีนี้ก็อาจมีปัญหา โดยเฉพาะเป็นการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่ก่อนแล้ว
ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องการคุ้มครองนักลงทุนยังมีการกำหนดว่ารัฐบาลไทยต้องรับผิดชอบต่อเอกชนหากมีความเสียหายจากการจลาจล ดังนั้นหากเกิดกรณีที่ชาวบ้านประท้วงโครงการดังเช่นกรณีของชาวบ้านบ่อนอก-บ้านกรูด ที่ประท้วงจนโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นร่วมทุนตั้งไม่ได้นั้น หลังลงนาม JTEPA แล้วรัฐบาลไทยก็อาจต้องชดใช้ให้นักลงทุนญี่ปุ่น
ส่วนความกังวลที่ว่าข้อตกลงนี้จะเปิดช่องให้มีการจดสิทธิบัตรจุลินทรีย์ได้ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้สหรัฐและญี่ปุ่นกำลังพยายามใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจน (Hydrogen Base) มาแทนเทคโนโลยีคาร์บอน (Carbon Base) โดยพบว่าจุลินทรีย์ในประเทศไทยเป็นจุลินทรีย์ที่ดีที่สุดในกระบวนการแยกไฮโดรเจนออกมาจากคาร์บอนในน้ำมัน
ดร.วิลาวรรณ กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องการคุ้มครองการลงทุนว่า การใช้มาตรการทางสิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์สาธารณะถือเป็นข้อยกเว้นที่มีการยกมาไว้ในข้อตกลงด้วย ดังนั้น หากมีการออกมาตรการเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งไม่ได้กระทบให้เอกชนต้องปิดกิจการ ไม่มีทางถูกฟ้อง ส่วนเรื่องการประท้วงในพื้นที่โครงการ เป็นสิ่งที่กระทำได้ ไม่ได้ถือเป็นการจลาจล ส่วนการกำหนดการคุ้มครองการลงทุนในข้อตกลงก็คุ้มครองเฉพาะโครงการที่เปิดกิจการแล้ว ไม่ได้ให้การคุ้มครองก่อนที่จะลงทุน
รศ.
อนึ่ง ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ กลุ่มเอฟทีเอว็อทช์จะจัดเวทีใหญ่วิเคราะห์เนื้อหาร่างความตกลงที่มีผลกระทบกับคนไทยใน 4 ด้าน คือ ด้านเกษตร สาธารณสุข การลงทุน และสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นจะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อกดดันรัฐบาลให้ชะลอการลงนามออกไปก่อนจนกว่าจะมีการวิเคราะห์และแก้ไขสาระความตกลงอย่างรอบคอบ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)