Skip to main content
sharethis

ประชาไท—9 พ.ย. 2549 ชาวบ้านไทยพุทธ ใน อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต จ.ยะลา ประมาณ 23 ครอบครัว จำนวนกว่า 100 คน อพยพออกจากหมู่บ้านสันติ 1 และ 2 ย้ายไปอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองยะลา เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้


 


"จะไม่ขอกลับไปอีกแล้ว เพราะรู้สึกหวาดกลัว และไม่อยากอยู่ในพื้นที่นี้ ผมตสูญเสียทั้งพ่อตาและภรรยา...วัดไม่ใช่ที่อยู่ของคนตาย ขอเอาวัดเป็นที่พึ่ง" ชาวบ้านรายหนึ่ง ในอ.บันนังสตา ซึ่งเพิ่งสูญเสียพ่อตาและภรรยา เนื่องจากถูกคนร้ายยิงและเผาบ้าน เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.บันนังสตาเกิดเหตุขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเช้านี้ ผู้ก่อความไม่สงบ 2 ราย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่มีทหารเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 1 นาย หลังเกิดเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 43


 


กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ก่อเหตุยิงครู ,เผาโรงเรียน 4-5 แห่ง และ ลอบวางระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ใน อ.บันนังสตา ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาถึงวันนี้ รวมทั้งหน่วยตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ต้องถอนกำลังจากพื้นที่บาเจาะ ที่บันนังสตา ตามการเรียกร้องของกลุ่มชาวบ้านราว 300 คน แม้เจ้าหน้าที่ชี้แจงเหตุผลที่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองครูและชาวบ้าน


 


ด้านนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ วานนี้ ได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยรัฐมนตรีทีเกี่ยวข้อง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


 


สำหรับความคืบหน้าจาการลงพื้นทีเพื่อพบกับเยาวชนใน 3 จังหวัดภาคใต้นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่าได้พบกับครูและนักเรียนกว่า 2,000 คน โดยนักเรียนได้แสดงความตั้งใจในการให้ความร่วมมือเพื่อสร้างความสงบสุขภาในพื้นที่ ซึ่งพล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่าได้มอบหมายให้ ศอ.บต. เข้าไปทำหน้าที่ฟื้นฟูเยียวยาความรู้สึกให้เกิดความเชื่อมั่นกันต่อไป


 


นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงกรณีการขึ้นบัญชีดำผู้มีต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อกับการก่อความไม่สงบว่า ไม่ควรจะมีแบล็กลิสต์ ส่วนที่มีค่าหัวก็ต้องมีการพิจาณณา เพราะตอนนี้ถือว่าขาดความเป็นธรรม เพราะยังไม่ได้ขึ้นศาล แต่มีการขึ้นค่าหัวไว้ ทั้งจับเป็นและจับตาย จึงถือว่าไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินคดี ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหา


 


พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนในพื้นที่ไม่มั่นใจในความปลอดภัยว่า จะต้องสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้นับว่ามีหลายพื้นที่ที่ประชาชนตกอยู่ในภาวะดังกล่าวขอให้พยายามสงบใจ โดยให้ฝ่ายรักษาความสงบเข้าไปดูแลในพื้นที่


 


 


 


เรียบเรียงจากเว็บไซต์คมชัดลึก และแนวหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net