"สิ่งนี้ก่อให้เกิดผลทางจิตวิทยาสูงมาก ทำให้ชาวบ้านรู้สึกดี แต่ก็ต้องมาคิดต่อว่าก้าวต่อไปเราจะทำอะไร เมื่อผู้นำรัฐบาลชุดใหม่มีทัศนคติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้นำรัฐบาลชุดที่แล้ว แล้วข้าราชการที่เคยปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายรัฐบาลชุดที่แล้วจะต้องปรับทัศนคติอย่างไรบ้าง ในอดีตผู้นำก้าวร้าว กลไกที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ก็ก้าวร้าวด้วย แต่ตอนนี้เรามีผู้นำที่สุภาพ มีใจแก้ไขปัญหา และความรู้สึกอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นกับข้าราชการในพื้นที่ด้วย" นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าวและว่า

ในส่วนประเด็นการยกฟ้องผู้ต้องหาคดีตากใบนั้น เป็นเรื่องที่มีการร้องขอกันมานานแล้ว และประชาชนต้องทนเจ็บปวดกับเรื่องนี้มานาน แต่รัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำ และที่สำคัญคนที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นควรที่จะถูกโยกย้ายออกไปด้วย และยังมีอีกหลายเรื่องที่ประชาชนไม่อยากให้รัฐบาลชุดที่แล้วทำ แต่กลับมีการกระทำโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของผู้นำศาสนา และประชาชนในพื้นที่ เช่น กรณีการก่อสร้าง "อนุสาวรีย์นกกระดาษ" ที่ทำให้ชาวบ้านมีความอึดอัดใจอยู่จนทุกวันนี้

"สิ่งนี้ทำให้ชาวบ้านยังมีความอึดอัดใจอยู่มาก มันเป็นเรื่องของข้าราชการที่อยากเอาใจเจ้านาย ผู้นำศาสนาคัดค้านแล้วแต่เขาก็ยังดึงดันสร้าง ซึ่งพอเขาสร้างแล้วชาวบ้านก็ไม่ได้แสดงออกอะไรอีก คงเก็บความอึดอัดไว้อย่างนั้น หากผมเป็นผู้ว่าฯ ผมคงให้เขารื้อออกไปแล้ว เพราะมันเหมือนอนุสาวรีย์ของความเจ็บปวด การถูกระทำ ถูกบังคับให้ต้องคล้อยตาม ทั้งๆ ที่ชาวบ้านอยู่กับความเจ็บปวด แต่เขากลับยังเอาการตลาดมาเล่น ชาวบ้านช่วยพับนกเพราะต้องการให้สร้างสันติภาพ ไม่ใช่สร้างอนุสาวรีย์ที่มันขัดกับหลักศาสนา" นายอัฮหมัดสมบูรณ์ กล่าว

.......................................................................

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน