ผู้นำจีนและประเทศในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน เตรียมประชุมซัมมิตกันในวันที่ 30-31 ต.ค. ที่เมืองหนันหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน

โดยนายหลิวเจี้ยนเชา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า จีนและอาเซียนจะสานต่อความสัมพันธ์ที่ได้ก่อสร้างกันมา 15 ปี เพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นและร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจต่อไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อาเซียนระบุว่า การประชุมจะมุ่งไปที่ธุรกิจบริการและการลงทุน โดยที่ประชุมก็จะพยายามเจรจาเรื่องการเปิดเสรีภาคบริการในรอบแรกให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2006 นี้ แต่สิ่งที่จะเป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งขึ้นนั้น อยู่ที่การวางแผนที่จะสร้างเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีน ในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือปี 2010

ทั้งนี้นาย ออง เกง ยัง เลขาธิการอาเซียนให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า "ในช่วงแรกหลายประเทศในอาเซียนกังวลว่า จีนจะมาแย่งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) และชิงตลาดจากสหภาพยุโรปและสหรัฐฯไป แต่ที่ผ่านมา ประเทศอาเซียนนั้นเกินดุลส่งออกกับประเทศจีนมาโดยตลอด"

ในขณะที่นายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ระบุว่า "การเติบโตของจีนและอาเซียนทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้ต้องให้ความสำคัญกับภาคบริการ และการลงทุนด้วย นอกเหนือจากด้านการผลิต แม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพียงใดก็ตาม"