ประชาไท - 11 ต.ค.2549 เมื่อเวลา 11.00 น. ตัวแทนขบวนการผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง (We Move) และเครือข่ายองค์กรประชาชน ประมาณ 50 คนได้ไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.
น.ส.
"แต่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมขัดขวางกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชนมาโดยตลอด และจัดทำกฎหมายหลายฉบับที่เอื้อประโยชน์ต่อคนบางกลุ่ม ตั้งแต่ การเป็นมือกฎหมายในการยึดทรัพย์ในสมัย รสช. แต่ไม่สามารถยึดทรัพย์ได้ จนเป็นที่สงสัยว่า เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ เป็นความจัดเจนอย่างจงใจ"
นายมีชัย ยังต่อต้านคัดค้านการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในกรณีทุจริตยา ซึ่งเป็นกรณีแรกที่ภาคประชาชนได้ใช้กลไก 50,000 รายชื่อ ถอดถอนนักการเมือง แต่เพราะการตีความและตั้งเงื่อนไขของนายมีชัย ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทำให้การถอดถอนต้องเป็นหมันไป จนภาคประชาชนต้องใช้ช่องทางอื่น จนสามารถยึดทรัพย์ และจับรัฐมนตรีเข้าคุกได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ นายมีชัย ยังมีส่วนสำคัญในการร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เป็นกฎหมายอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำลายหลักการขั้นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ และทำลายบูรณภาพของอธิปไตย โดยการแบ่งแยกรัฐซ้อนรัฐ และยังร่างธรรมนูญชั่วคราวที่หมกเม็ดไม่ต่างกับรัฐธรรมนูญใต้ตุ่ม ปี 2490 ทั้งที่นายมีชัยเองเคยพูดว่า จะให้นักวิชาการให้ความเห็น แต่พอนักวิชาการขอดูก็บอกไม่ทันแล้ว ทูลเกล้าฯไปแล้ว ทั้งที่จริงควรเป็นเรื่องเปิดเผย อีกทั้งเนื้อหาก็มีจุดหมกเม็ดจำนวนมาก
"ดังนั้น จากทัศนคติและพฤติกรรมของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ไว้ใจไม่ได้นี้ ทำให้เราต้องมายื่นคัดค้านการเป็นประธานสมัชชาแห่งชาติของนายมีชัย เพราะเกรงว่าในที่สุด จะนำไปสู่การบล็อกโหวต เกิดความไม่โปร่ง
ใส หรืออาจชักนำให้นาย
เมื่อถูกถามว่า หากในที่สุดนายมีชัยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสภานิติบัญญัติจริง จะเป็นเช่นไร น.ส.รสนา ตัวแทนกลุ่มกล่าวว่า "ถ้าในที่สุดนาย
"ประชาชนก็จะถูกทำให้วิ่งวนระหว่างอำนาจเงิน กับอำนาจจากปากกระบอกปืน ซึ่งสิ่งที่น่าห่วงใยที่สุดก็คือ การคอรัปชั่น อำนาจที่เบ็ดเสร็จก็คือคอรัปชั่นเบ็ดเสร็จ การที่ประชาชนลุกขึ้นมาคัดค้านระบอบทักษิณ ก็เพราะปิดกั้นการตรวจสอบประชาชน เราต้องการระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง เราไม่ไม่ต้องการ "เสนาอมาตยาธิปไตย" เราไม่ต้องการ "วาณิชยาธิปไตย""
ทั้งนี้ ภายหลังจากยื่นหนังสือผ่าน ร.ท.
สำหรับองค์กรที่ร่วมลงนามในการยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ครั้งนี้ประกอบไปด้วย
ขบวนการผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง (We Move), คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.), คณะทำงานโลกาภิวัตน์, เครือข่านยผู้หญิงพิทักษ์ทรัพยากร, เครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต้านคอรัปชั่น, แนวร่วมเพื่อความก้าวหน้าของผู้หญิง, มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)
ทั้งนี้ ขบวนการผู้หญิงกับการปฏิรูปการเมือง (We Move) มีข้อเสนอต่อกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดเกณฑ์และที่มาของสมัชชาแห่งชาติให้ยึดโยงกับพื้นที่ระดับจังหวัด และกำหนดสัดส่วนของประชาชนภาคส่วนต่างๆอย่างชัดเจน โดยให้แต่ละภาคส่วนเลือกกันเองให้ได้ 200 คน และเห็นด้วยกับข้อเสนอของนักวิชาการที่ให้แต่ละจังหวัดคัดเลือกจังหวัดละ 20 คน ส่วนที่เหลืออีก 480 คน ขอให้มีการรับสมัครจากกลุ่มที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนในสังคมในประเด็นเศรษฐกิจ สังคม ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน ร่วมกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ผู้หญิง กลุ่มด้อยโอกาส ผู้พิการ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่หลากหลายในการร่างรัฐธรรมนูญ และต้องมีกระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นอย่างชัดเจน และต้องดำเนินการตลอดกระบวนการตั้งแต่กิ่อนยกร่าง โดยสร้างความเชื่อมั่นว่า ประชาชนสามารถร่วมร่างรัฐธรรมนูญได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)