Skip to main content
sharethis

เครือข่ายภาคประชาสังคม 16 จังหวัด ยื่นหนังสือถึง กมธ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ สภาผู้แทนราษฎร ขอพิจารณารอบด้าน ห่วงคาสิโนถูกกฎหมายเพิ่มแหล่งการพนัน ต้นเหตุปัญหาสังคม-อาชญากรรม

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2567 ว่านายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากเครือข่ายภาคประชาสังคม 16 จังหวัด ขอพิจารณาข้อห่วงใยประชาชนต่อการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร
            
นายศรัทธา ปลื้มสูงเนิน ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาสังคมจากจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ด้วยเครือข่ายภาคประชาสังคมจาก 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเลย จังหวัดอุดรธานี จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำปาง จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสระบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา และกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการขยายตัวและอิทธิพลของเว็บพนันที่ส่งผลต่อความขัดแย้งของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงการเข้าทลายบ่อนพนันขนาดใหญ่ที่จังหวัดนนทบุรีที่ผ่านมา แต่ขณะเดียวกันมีความเห็นของฝ่ายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เห็นด้วยกับการทำให้แหล่งพนันถูกกฎหมาย สอดรับกับการที่สภาผู้แทนราษฎรมีความพยายามเสนอให้ประเทศไทยมีสถานบันเทิงครบวงจร มีคาสิโนหรือบ่อนพนันถูกกฎหมาย และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีโอกาสเข้ามาอยู่ใกล้เขตเมืองและชุมชนมากขึ้น ทางเครือข่ายฯ จึงมีการสอบถามความเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยการให้ตอบแบบสอบถาม จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,716 ราย พบว่าร้อยละ 85.6 ไม่เห็นด้วยในการให้มีคาสิโนมาเปิดในจังหวัด อำเภอ หรือใกล้ชุมชนของตนเอง  ขณะที่ร้อยละ 88.92 ไม่เชื่อมั่นว่าภาครัฐ จะสามารถดูแลธุรกิจผิดกฎหมายได้ อาทิ การค้ายาเสพติด การค้ามนุษย์ ผู้มีอิทธิพล หรืออื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับแหล่งพนัน ส่วนร้อยละ 90.28 ไม่เชื่อมั่นว่า บ่อนพนันจะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และอาจเป็นปัญหามีผู้ติดพนันโดยเฉพาะในเด็กและเยาวชน และร้อยละ 83.84 ไม่เชื่อมั่นว่าประเทศจะได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่คุ้มค่า เก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังนั้นจากผลการทำแบบสอบถามดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่ต้องการให้มีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในพื้นที่ของตน และไม่เชื่อมั่นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหากมีแหล่งพนันมาอยู่ในพื้นที่ ไม่เชื่อมั่นว่าประเทศจะได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า  เข้าใจดีว่ารัฐบาลมีความหวังว่าการมีคาสิโนภายใต้สถานบันเทิงครบวงจรจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน ดึงดูดให้เกิดการใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้สูงจากต่างประเทศและในประเทศ แต่อาจจะต้องแลกด้วยปัญหาสังคมและอาชญากรรม
            
เครือข่ายภาคประชาสังคม 16 จังหวัด เห็นว่าการจะตั้งสถานบันเทิงครบวงจร และคาสิโน ควรดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุมเพื่อให้ได้ประโยชน์และไม่เกิดโทษตามมา พร้อมฝากไปยังคณะกรรมาธิการฯ ผ่านไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลว่า ขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลคำนึงถึงผลที่จะเกิดตามมาในอนาคต ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมโดยเปิดพื้นที่รับฟังความเห็นประชาชนทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยการให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน และมีการกระบวนการรับฟังความเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ ขอตระหนักว่าการเพิ่มแหล่งการพนัน แม้จะเป็นแหล่งถูกกฎหมาย แต่อาจตามมาซึ่งผลกระทบเกินกว่าประเมินค่าได้ และแม้สถานบันเทิงครบวงจรจะสร้างกำไร และรายได้แก่ผู้ประกอบกิจการและรัฐบาล แต่ผู้ขาดทุนที่แท้จริงคือประชาชน
            
ด้านนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ทุกครั้งที่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรทั้งในส่วนที่ยื่นผ่านทำเนียบรัฐบาลหรือในสภาผู้แทนราษฎร ทุกข้อห่วงใยได้นำมาประกอบการพิจารณาเสมอ ตนในฐานะรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองประธานคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า ได้มีการศึกษาเรื่องดังกล่าวอย่างครบถ้วน เพื่อให้มีความรอบด้านมากที่สุด ยืนยันว่า กมธ.และรัฐบาลให้ความสำคัญต่อประเด็นความห่วงใยของประชาชน สำหรับ Entertainment Complex หรือสถานบันเทิงครบวงจร ต้องมองภาพใหญ่ ซึ่งคาสิโนจะเป็นส่วนหนึ่งในนั้น นำร่องในพื้นที่ที่มีความพร้อม ผ่านการพิจารณากลั่นกรองแล้ว ซึ่งการผลักดันสถานบันเทิงครบวงจรได้กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการจ้างงาน มีมาตรการทางภาษี มีการศึกษาแนวทางคาสิโนของต่างประเทศ ยืนยันว่า กรรมาธิการฯ และรัฐบาลคำนึงถึงความห่วงใยภาคประชาชน และให้ความสำคัญ จึงขอให้มั่นใจว่า ในการพิจารณาสถานบันเทิงครบวงจร ไม่ได้เพียงเป็นการเอาเศรษฐกิจนำเท่านั้น แต่เอาความรู้สึกของประชาชนใส่ลงไปด้วย จะมีการพัฒนาทักษะแรงงานไทย ต่อยอดการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่มีรายได้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย อันจะทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการเข้าถึงคาสิโนจะกำหนดเงื่อนไข ส่วนการพิจารณาเลือกจังหวัด จะพิจารณาจังหวัดที่มีความพร้อมภายใต้เงื่อนไข อาทิ รายได้ต่อหัวต่อครัวเรือน สภาพการศึกษา โครงสร้างพื้นฐานของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ หากเกิด Entertainment Complex หรือสถานบันเทิงครบวงจร เชื่อว่าเมืองรองรอบๆ จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งนี้ ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีการต่อต้านแต่จะปิดการต่อต้านนั้นอย่างไรเพื่อให้เกิดการเติบโตร่วมกัน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด รอบด้าน ต่อไป
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net