Skip to main content
sharethis

สปสช.นัดหารือผู้บริหารโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยภายในสัปดาห์หน้า หาทางออกปมค้างชำระโรงพยาบาลในกลุ่ม UHosNet โดย สปสช. ย้ำว่าไม่ได้นิ่งนอนใจและจะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด

9 ก.พ. 2567 ทีมสื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) ทำหนังสือเร่งรัดให้ สปสช. ชำระค่ารักษาพยาบาลที่ค้างชำระแก่โรงพยาบาลในกลุ่ม UHosNet ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2567 นั้น ขอเรียนว่า สปสช. ได้รับทราบถึงความกังวลใจ และไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยขณะนี้ สปสช.ได้มีการนัดหารือกับผู้บริหารโรงพยาบาลในกลุ่ม UHosNet จะลงพื้นที่ไปพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันในสัปดาห์หน้า โดยหลังจากที่มีข้อเสนอแนะหรือแนวทางที่ชัดเจนร่วมกันแล้ว สปสช. จะเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการแก่โรงพยาบาลในกลุ่ม UHosNet โดยเร็วที่สุด

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ปัญหาทำให้การเบิกจ่ายเงินล่าช้านั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาทางเทคนิค เช่น รายการเบิกจ่ายติดรหัส C (ข้อมูลรายการไม่ผ่านการตรวจสอบ) 611 ล้านบาท และรหัส DENY (ข้อมูลรายการที่ถูกปฏิเสธการจ่าย) 389 ล้านบาท รวมทั้งการจ่าย 0 บาท กรณีเบิกค่าใช้จ่ายนอกรายการ Fee Schedule ซึ่งจากเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ สปสช. ต้องมีการตรวจสอบและ Mapping รหัสการเบิกจ่ายใหม่ ทำให้การจ่ายเงินค่าบริการล่าช้า

“สปสช. เข้าใจถึงความลำบากของโรงพยาบาลที่ต้องการนำเงินเหล่านี้ไปหมุนเวียนเพื่อจัดบริการแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม เราก็มีหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ การหารือที่จะเกิดขึ้นเราคงต้องมาหาจุดสมดุลร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ด้วย เช่น กรณีติดรหัส C เราอาจต้องมีการจัดทีมหรือสายด่วนสำหรับให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่การเงินของโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อให้การเบิกจ่ายถูกต้องสามารถจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว เรายืนยันว่าหากมีการทำรายการเบิกจ่ายที่ถูกต้องก็สามารถจ่ายเงินให้ได้ภายในเวลา 3 วัน” นพ.จเด็จ กล่าว

นอกจากปัญหาเชิงเทคนิคแล้ว อีกส่วนยังเป็นปัญหาเชิงระบบ เช่น การให้บริการในบางรายการไม่ได้ครอบคลุม หรือกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้อยู่ในรายการที่ สปสช. จ่ายเงินให้ได้ ซึ่ง สปสช. ได้รับทราบและอยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมแล้ว แต่การดำเนินการต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนจึงอาจไม่รวดเร็วทันใจ และจะได้นำประเด็นปัญหาในในเชิงเข้าหารือในที่ประชุมครั้งนี้ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net