Skip to main content
sharethis

ศาลปกครองเชียงใหม่รับฟ้องคดี เครือข่ายประชาชนฯ ฟ้องโครงการผันน้ำยวม-อีไอเอร้านลาบ กรณีทำโครงการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทับซ้อนพื้นที่อุทยาน-ที่ดินทำกินของประชาชน และขอมีคำสั่งยุติโครงการดังกล่าว ด้านประชาชนในพื้นที่ยินดี ความพยายามไม่สูญเปล่า คดีมีความคืบหน้า

 

27 ม.ค. 2567 สำนักข่าวชายขอบ รายงานวันนี้ (27 ม.ค.) เฉลิมศรี ประเสริฐศรี ทนายความจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ในฐานะทีมกฎหมายของเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 ม.ค.) ได้รับใบแจ้งคำสั่งศาลปกครองเชียงใหม่ ว่าศาลปกครองเชียงใหม่ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณา ในคดีที่เครือข่ายฯ ได้ฟ้องกรมชลประทาน กรณีโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล (แนวผันน้ำยวม) หรือโครงการผันน้ำยวม ซึ่งได้มีการฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566

ที่มา: แฟ้มภาพ

เฉลิมศรี กล่าวว่า คดีดังกล่าวเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม-เงา-เมย-สาละวิน และประชาชนที่มีภูมิลำเนาและที่ทำกินใน จ.เชียงใหม่ จ.ตาก และ จ.แม่ฮ่องสอน รวม 66 คน ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อขอให้พิพากษาว่า โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีผู้ถูกฟ้อง 5 ราย ประกอบด้วย กรมชลประทาน คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี

สำหรับเหตุผลในการฟ้องระบุว่า โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล และอีไอเอที่รู้จักในชื่อ 'อีไอเอร้านลาบ' ซึ่งระบุว่ามีองค์ประกอบของโครงการ 7 องค์ประกอบ คือ เขื่อนผันน้ำยวม ถนนเข้าเขื่อน อ่างเก็บน้ำยวม สถานีสูบน้ำบ้านสบเงา ระบบอุโมงค์ส่งน้ำ พื้นที่เก็บกองวัสดุจากการขุดเจาะอุโมงค์และถนนเข้าหัวงานต่างๆ ทางออกอุโมงค์ส่งน้ำและการปรับปรุงลำห้วยงูด เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (โซน ซี (C)) มีพื้นที่ซ้อนทับกับพื้นที่เตรียมประกาศอุทยานแห่งชาติแม่เงา และเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 โดยหมู่บ้านและรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการตามที่อ้างในอีไอเอ ครอบคลุมพื้นที่ 36 หมู่บ้าน โดยมีครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการ 29 ราย

ผู้ฟ้องคดีขอศาลได้โปรดพิจารณาพิพากษา ดังนี้ 1. ขอให้พิพากษาว่า โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการดำเนินการต่างๆ ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้าเกี่ยวกับโครงการเป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอน/ยกเลิกโครงการดังกล่าวเสีย 2. ขอให้พิพากษาว่า การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของ โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นรายงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอนรายงานและการให้ความเห็นชอบดังกล่าวเสีย 3. ขอให้พิพากษาว่า การจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล แนวส่งน้ำยวม-อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้เพิกถอนการดำเนินการดังกล่าวเสีย 

4. ขอให้พิพากษาว่า ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง การแจ้งข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเหมาะสมและจริงจัง จัดให้มีกระบวนการมีส่วนร่วม และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก่อนที่จะดำเนินการและระหว่างดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการดูแล ปกป้อง รักษาแม่น้ำยวม แม่น้ำเงา แม่น้ำเมย และแม่น้ำสาละวิน และ 5. ขอให้พิพากษาว่า ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ดำเนินการออกกฎหมาย หรือกฎ หรือระเบียบ เพื่อดำเนินการการคุ้มครอง อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในลุ่มแม่น้ำแม่น้ำยวม แม่น้ำเงา แม่น้ำเมย และแม่น้ำสาละวิน

ดาวพระศุกร์ มึปอย ประชาชนจากแม่เงา อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน หนึ่งในผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจว่า สิ่งที่ชาวบ้านเราทำไปไม่ได้สูญเปล่า คดีมีความคืบหน้า การทำงานที่ผ่านมามีทั้งเก็บข้อมูลทำงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่ออธิบายถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน น้ำ ป่า เดือนที่แล้ว (ธ.ค. 2566) ชาวบ้านได้เดินทางไป กทม. เพื่อนำเสนอข้อมูลให้แก่ผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน รู้สึกกลัวที่จะนำเสนอในที่ประชุม แต่ก็มีความดีใจ ตื่นเต้นจนพูดไม่ค่อยออก มีเรื่องอยากนำเสนอเล่าให้ผู้หลักผู้ใหญ่และศาลฟังว่าที่บ้านเราทำนั้นมาหากินและอนุรักษ์แม่น้ำ รักษาผืนป่ามาหลายชั่วอายุคน หากถูกทำลายไปชาวบ้านจะเดือดร้อนกันอย่างมาก

"หวังว่าเขาจะรับฟังและเข้าใจพวกเรา จริงๆ ยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ใช้ทรัพยากรด้วยกัน ทั้งแม่น้ำเงา เมย ยวม อยากได้ชาวบ้านได้ความยุติธรรม" ดาวพระศุกร์ กล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net