Skip to main content
sharethis

นายกฯ แถลงประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.ระนอง อนุมัติงบให้ 6 จังหวัด 13 โครงการ มูลค่า 350 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดละ 50 ล้านบาท และโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชนอีก 5 โครงการ 202 ล้านบาท

23 ม.ค. 2567 เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลรายงานถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่ หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง  จ.ระนอง และเศรษฐา ทวีสินได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงภารกิจที่ได้เดินทางมาจังหวัดระนองและการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ในครั้งนี้ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

 นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงกรณีเมื่อวาน (22 ม.ค.67) ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่เกาะพยาม เพื่อนำร่องสร้างสะพานข้ามคลองให้แก่เด็กชาวมอร์แกนให้สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้  รวมทั้งกล่าวถึงภารกิจในช่วงเวลาบ่ายที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน (Land Bridge ชุมพร - ระนอง) ที่จะทำให้ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดระนองและชุมพร เจริญมากยิ่งขึ้น  มีการสร้างงาน และสร้างรายได้ พร้อมศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและรับหนังสือร้องเรียนจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยและจะมีการพูดคุยกันต่อไป

อีกทั้งเศรษฐายังได้กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 จ.ระนอง ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการของกลุ่ม 6 จังหวัด 13 โครงการมูลค่า 350,000,000 บาท จังหวัดละ 50,000,000 บาท และโครงการตามข้อเสนอของภาคเอกชน 5 โครงการมูลค่า 202,000,000 บาท โดยให้ใช้งบประมาณปี 2566 งบกลางไปพลางก่อน

โครงการเหล่านี้มีอะไรบ้าง

ทั้งนี้ในเว็บไซต์มีการลงรายละเอียดของโครงการทั้ง 13 โครงการที่ ครม.มีมติเห็นชอบด้วยในเรื่อง “ผลการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน” โดยทั้ง 13 โครงการมีรายละเอียดดังนี้

  1. โครงการผนึกกำลังผู้ประกอบการทางการค้ากับเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามันเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 33,200,000 บาท
  2. โครงการมารีน่าชุมชน ยกระดับคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐานเพื่อเรือท่องเที่ยวชุมชนทะเลอันดามัน วงเงิน 16,800,000 บาท
  3. โครงการปรับปรุงพื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะมูลฝอย ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 35,000,000 บาท
  4. โครงการก่อสร้างเขื่อน คสล. คลองบางใหญ่ (เฟส 2) (ภายในโรงเรียนสตรีภูเก็ต) วงเงิน 15,000,000 บาท
  5. โครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภคพร้อมปรับภูมิทัศน์ถนนจัดสรรพัฒนา ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง วงเงิน 50,000,000 บาท
  6. โครงการเพิ่มศักยภาพการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินของเมืองท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ จังหวัดกระบี่ วงเงิน 50,000,000 บาท
  7. โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือควนตุ้งกู บ้านควนตุ้งกู ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง วงเงิน 25,000,000 บาท
  8. โครงการการขับเคลื่อนจังหวัดตรังสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร “Trang Gastronomy and Creative City” เพื่อเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์องค์การยูเนสโก วงเงิน 25,000,000 บาท
  9. โครงการท่าเทียบเรืออัจฉริยะจังหวัดพังงา (Phang Nga Smart Piers) วงเงิน 42,500,000 บาท
  10. โครงการติดตั้งระบบดับเพลิง (Fire Pump) พร้อมระบบท่อน้ำดับเพลิงและตู้อุปกรณ์ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะปันหยี วงเงิน 7,500,000 บาท
  11. โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง จังหวัดสตูล วงเงิน 19,902,000 บาท
  12. โครงการติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำบริเวณอ่าวประมง เกาะหลีเป๊ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล วงเงิน 12,903,000 บาท
  13. โครงการถนนบนคันคลองส่งน้ำ LMC ฝายดุสน ตำบลควนโดน อำเภอควนโคน จังหวัดสตูล วงเงิน 17,195,000 บาท

โดยโครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่ผ่านมาจากการประชุมฯ เมื่อ 22 ม.ค.2567  ระหว่าง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.กลุ่มจังหวัด) ได้ ณ ห้องประชุมรัตนรังสรรค์ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง จังหวัดระนอง โดยมีปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ มีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนสถาบันภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)  (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เข้าร่วมประชุมฯ ด้วย

นอกจากโครงการทั้ง 13 โครงการดังกล่าว สศช.ยังได้พิจารณาโครงการที่เอกชนเป็นผู้เสนออีก 7 โครงการจากทั้งหมด 51 ว่ามีความพร้อมดำเนินการแล้ว 7 โครงการดังนี้

  1.  โครงการปรับปรุงและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานถนนท่องเที่ยวชุมชนเกาะยาวใหญ่ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของท้องถิ่น อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา
  2. โครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำ ถนนนาเกาะ-บางโจ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
  3. โครงการยกระดับและพัฒนาศักยภาพระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จังหวัดกระบี่
  4. โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายากจังหวัดตรัง ระยะที่ 2 จังหวัดตรัง
  5. โครงการท่าเรือมาเนาะห์ เกาะยาวน้อย เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดพังงา
  6. โครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง - เกาะสอง เพื่อการท่องเที่ยวและการสัญจร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
  7. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชุมชน จังหวัดสตูล

ในรายงานระบุด้วยว่า โครงการที่ 5 โครงการท่าเรือมาเนาะห์ เกาะยาวน้อย เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดพังงาได้รับการบรรจุไว้ในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แล้ว

อย่างไรก็ตาม จากทั้งหมด 7 โครงการที่เอกชนเสนอ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ 6 โครงการเป็นกรอบวงเงิน 272,099,000 บาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน และให้ สศช.พิจารณาโครงการจากเอกชนที่เหลือเพิ่มเติมเพื่อขอรับจัดสรรงบเพิ่มเติมต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net