Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านนาหนองบงค้าน คทช. ร้องต้องถอนสภาพป่าสงวนฯ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เปลี่ยนเป็น ‘โฉนดชุมชน’ หรือ ‘ส.ป.ก.’ และพื้นที่เหมืองแร่ต้องเปลี่ยนเป็นป่าชุมชน

กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย แจ้งข่าวว่าเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 นายภูสิทธิ ชูสกุลชาติ เจ้าหน้าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) ได้ลงพื้นที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เพื่อจัดทำโครงการจัดทำแผนการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ระดับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ 2561 ภายหลังจากที่นัดหมายราษฎรในพื้นที่ที่มีที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ท้องที่บ้านนาหนองบงและหมู่บ้านอื่น ๆ เข้าร่วมประชุมในวันที่ 15 ม.ค. 2567 และได้เลื่อนการประชุมมาเป็นวันที่ 18 ม.ค. โดยให้นำสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านมาเป็นหลักฐาน ส่วนกรณีที่ครอบครองเนื้อที่เกิน 20 ไร่ ให้แบ่งให้ทายาทหรือบุคคลอื่นในครอบครัว และกรณีที่พื้นที่ยังไม่แจ้งการครอบครอง (ตกหล่น) ขอให้แจ้งการครอบครองและพิกัดแปลง โดยใช้หลักฐานดังกล่าว หากไม่แจ้งการครอบครองเข้าทำประโยชน์ถือว่าไม่ประสงค์ที่จะขอรับสิทธิ์และผ่อนผัน ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 26 พ.ย. 2561

การประชุมในครั้งนี้มีชาวบ้านเข้าร่วมกว่า 100 คน เพราะทราบดีว่าโครงการดังกล่าวเป็นจัดการที่ดินทำกินในรูปแบบ คทช. ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นวิธีการรวมศูนย์อำนาจการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในท้องที่ตำบลเขาหลวง ให้ตกอยู่ในมือของหน่วยงานรัฐ แทนที่จะให้อำนาจการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแก่ชาวบ้านในพื้นที่โดยตรง และที่ผ่านสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯได้ปล่อยให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เข้ามาทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ป่าสงวนฯจนเกิดผลกระทบต่อชุมชนและสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งชาวบ้านเป็นคนที่ลุกขึ้นมาปกป้องพื้นที่ด้วยตัวเองต่อสู้จนปิดเหมืองได้และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยที่ไร้ความเหลียวแลและความช่วยเหลือใด ๆ จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย จึงได้ทำการยื่นหนังสือต่อนายภูสิทธิ โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ (1) ให้ถอนสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในท้องที่ตำบลเขาหลวงทั้งหมด  โดยส่วนหนึ่งให้เปลี่ยนเป็น 'โฉนดชุมชน' ตามเงื่อนไขของพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562  และอีกส่วนหนึ่งให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518  ซึ่งพื้นที่ส่วนใดควรเป็นโฉนดชุมชนหรือ ส.ป.ก. ก็โดยการประชุมหารือและมีมติจากราษฎรในพื้นที่ และ (2) ในส่วนของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งอยู่ในเขตเหมืองแร่หรือเขตประทานบัตรของเหมืองแร่ทองคำ  ซึ่งหมดสภาพไปจากการต่อต้านคัดค้านจนทำให้ต้องหยุดดำเนินกิจการ  ให้ถอนสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณดังกล่าวทั้งหมด  โดยให้เปลี่ยนเป็นพื้นที่ป่าชุมชนตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562

พร้อมทั้งได้มีมติในที่ประชุมเป็นเอกฉันท์ ว่า ชาวบ้านบ้านนาหนองบงไม่ต้องการโครงการดังกล่าว โดยจะดูแลและจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ในพื้นที่ด้วยตัวเอง ทั้งนี้นายภูสิทธิได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าตนได้มาทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่มีสิทธิที่จะรับทำตามโครงการหรือไม่ก็ได้ เพราะเป็นสิทธิของทุกคน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net