Skip to main content
sharethis

ผู้นำฝ่ายค้านเผยเดินหน้าตรวจสอบการทำงานรัฐบาลเข้มข้น เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ไม่มีกรอบเวลา ขึ้นอยู่กับการทำงานรัฐบาล ยอมรับเสียงในสภาไม่อาจสั่นคลอนความเชื่อมั่น แต่ให้สังคมพิพากษา ไม่กังวลพรรคร่วมฝ่ายค้านพลิกขั้ว  ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แม้อนาคตไม่แน่นอน การเมืองต้องปรับตามสถานการณ์


ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

1 ม.ค. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่านายชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงทิศทางการทำงานของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลว่า สำหรับฝ่ายบริหารประชาชนต้องคาดหวังนโยบายต่างๆ หากรัฐบาลไม่สามารถผลักดันผลงานตนเองให้ประชาชนพอใจได้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทั้งนโยบายเรือธงอย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการสำเร็จหรือไม่ ถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลที่จะส่งผลกระทบต่อคะแนนความนิยมของประชาชน ขณะเดียวกันฝ่ายค้านพร้อมเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคจะมีประเด็นที่ให้น้ำหนักต่างกันไป โดยในส่วนของพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการยุติธรรม การจัดการความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องนิรโทษกรรมทางการเมือง 
            
ผู้นำฝ่ายค้านฯ ยังกล่าวถึงนโยบาย Soft Power ของรัฐบาล ที่จัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านบาทในการผลักดัน Soft Power แต่พบว่าถูกนำไปใช้กับงบประมาณในการจัดอีเวนท์ นอกจากนี้ ยังคงติดตามเรื่องค่าไฟ การปรับโครงสร้างราคาค่าไฟ รวมถึงสัญญากับโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ผลิต การทำสัญญาใหม่ๆเกี่ยวกับพลังงานสะอาด ทั้งที่มีการถูกร้องเรียนและตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการในการประมูลอาจมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง แต่รัฐบาลปัจจุบันกลับไม่มีการทบทวนสัญญาหรือการประมูลดังกล่าว ทั้งที่ถูกทักท้วงว่ามีความผิดปกติ
            
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า หลังเปิดปีใหม่ 2567 เรื่องสำคัญในสภาคงจะเป็นเรื่องร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องติดตามตรวจสอบและทำงานอย่างเต็มที่ โดยจะได้เห็นการทำงานของฝ่ายค้านแบบเต็มตัวและเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการวางเป้าหมาย การวางแผนงานในการผลักดันร่วมกัน ขณะที่ความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่หลายคนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจมีความเป็นไปได้ที่จะพลิกขั้วไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหากมีการปรับ ครม. ทำให้ฝ่ายค้าน เหลือคนไม่มากในการทำงานนั้น เรื่องนี้ขออย่าเพิ่งกังวลล่วงหน้า ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อน อนาคตทางการเมืองจะเกิดอะไรขึ้นก็ปรับตามสถานการณ์ พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ต้องทำงานโดยเคารพและให้เกียรติกับทุกพรรค แม้อาจจะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง แต่มีเรื่องที่เห็นร่วมกันแล้วสามารถเป็นเนื้อหา เป็นเงื่อนไขที่วางแผนทำงานร่วมกันได้ ส่วนที่เห็นต่างกัน สามารถแยกทำคนละบทบาทได้
            
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขึ้นอยู่กับข้อมูล ข้อเท็จจริง หากตรวจพบว่ามีการใช้อำนาจโดยมิชอบ หาผลประโยชน์ คอร์รัปชัน ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เกิดความเสียหายรุนแรง ฝ่ายค้านพร้อมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกเมื่อ ดังนั้นเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีกรอบเวลา อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของแต่ละพรรคจะไม่มีการแชร์กัน ซึ่งหากเป็นพรรคก้าวไกล สส.ที่ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนั้นๆ ก็จะไม่ทราบข้อมูล เพราะถือว่าเป็นข้อมูลชั้นความลับ เป็นมาตรฐานการทำงานของพรรค ทั้งนี้คาดว่าในช่วงต้นปี 67 ไตรมาสแรก หากการบริหารรัฐบาลมีปัญหามาก อาจจะมีการเสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อสะท้อนการทำงานรัฐบาล และมองเป็นเรื่องปกติที่เสียงฝ่ายค้านไม่อาจชนะเสียงในสภาได้อยู่แล้ว แต่ในทางการเมืองการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่จบแค่เสียงโหวตในสภาเท่านั้น แต่จะถูกพิพากษาโดยสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อรัฐบาลอย่างแท้จริง กระทบกับความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง แม้ไม่ได้ชนะเสียงโหวตในสภา แต่อาจนำไปสู่การยุบสภา หรืออย่างน้อยเกิดการปรับ ครม. 
            
ต่อข้อถามถึงการทำงานของฝ่ายค้านที่ผ่านมาเป็นอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ช่วงสมัยที่ผ่านมายังไม่เห็นบทบาทของฝ่ายค้านชัดเจนนัก เพราะเสียเวลาไปเยอะกับการเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่ค่อยมีการผลักดันร่างกฎหมาย ฝ่ายค้านจึงยังไม่มีโอกาสทำงานมากนัก ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ก็ล่าช้า ดังนั้น จึงควรให้ประชาชนเป็นคนให้คะแนน แต่บทบาทไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จะมีความเข้มข้นชัดเจนมากยิ่งขึ้นในสมัยประชุมนี้ ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นฝ่ายค้านแต่ค้านไม่สุด เพราะอาจจะมีความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยนั้น ชี้แจงว่า ขอให้รอพิสูจน์จากการปฏิบัติ ยืนยันไม่มีลับลมคมใน ไม่มีวาระซ่อนเร้น พรรคก้าวไกลยังคงทำงานอย่างตรงไปตรงมาบนพื้นฐานเหตุและผล ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านมองว่าไม่จำเป็นต้องค้านรัฐบาลทุกเรื่อง หากเรื่องใดเป็นประโยชน์ก็พร้อมสนับสนุน ผลักดัน โดยการทำงานของพรรคฝ่ายค้านอยากให้มีทั้งสองด้าน คือตรวจสอบการทำงานรัฐบาลอย่างเต็ม ไม่ต้องเกรงใจใคร แต่อีกด้านหนึ่งอยากจะเห็นบรรยากาศการทำงานในสภาที่สามารถร่วมไม้ร่วมมือโดยไม่แบ่งปักแบ่งฝ่ายทางการเมืองหากสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก็สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net