ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ถามความชัดเจนนโยบายตัดอ้อยสดรอบใหม่ พร้อมขอบคุณรัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือตัดอ้อยสดปี 2565/66 แม้เป็นนโยบายรัฐบาลก่อนหน้า ช่วยเหลือเกษตรกรลดการเผาอ้อยลดฝุ่น PM2.5

แฟ้มภาพสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ว่านายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าชาวไร่อ้อยฝากขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.)การคลัง รวมถึง น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ที่ได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยราคาตัดอ้อยสดให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตอ้อยปี 2565/66 จำนวน 120 บาทต่อตัน ซึ่งค้างจ่ายเกษตรกรมาเกือบครบรอบปี การอนุมัติครั้งนี้ทำให้เกษตรกรมีเงินไปต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อ ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม ชาวไร่อ้อยได้ตั้งคำถามว่ามาตรการดังกล่าวที่ได้รับความเห็นชอบสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในการช่วยค่าตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 จะยังคงอยู่หรือไม่ เพราะฤดูกาลเปิดหีบใหม่ปี 2566/67 กำลังจะเริ่มขึ้นจึงต้องการความชัดเจนจากรัฐบาล 

นายอัครเดช กล่าวว่าส่วนตนเชื่อว่าหากไม่มีมาตรการช่วยค่าตัดอ้อยสด ย่อมจะเกิด ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าต้นทุนในการผลิตของชาวไร่อ้อยสูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องเผาอ้อยก่อนตัดเข้าโรงงานเหมือนเดิม จึงถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยเฉพาะการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กอน.) และสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)

จะต้องเร่งทำความเข้าใจกับเกษตรกร และสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นเพื่อให้ชาวไร่วางแผนการผลิตและเก็บเกี่ยวในฤดูกาลนี้ได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นอัตราการช่วยเหลือ การชดเชยเป็นตัวเงินหรือโครงการอื่นสนับสนุน

เพราะหากไม่มีความชัดเจน อาจเกิดปัญหาที่เกษตรกรต้องออกมาชุมนุมเรียกร้อง จนท้ายที่สุดรัฐบาลต้องจ่ายเงินช่วยเหลืออยู่ดี  จึงควรมีความชัดเจนตั้งแต่แรกให้เกษตรกรเตรียมตัวได้ทันในการบริหารจัดการ