Skip to main content
sharethis

ครอบครัว “ชิต สิงหเสนี” มอบอำนาจให้ตัวแทนยื่นคำร้องถึงศาลอาญาให้รื้อฟื้นคดีสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 กลับมาพิจารณาใหม่ หวังคืนความเป็นธรรมให้กับจำเลยทั้ง 3 คนที่ถูกพิพากษาประหารชีวิต เตรียมเปิดหลักฐานใหม่บ่าย 3 ครึ่งวันนี้ที่ซีเนม่า โอเอซีส สุขุมวิท 43

18 ต.ค.2566 ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก กังวาฬ พุทธิวนิช และ ปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ผู้รับมอบอำนาจจาก ครอบครัวของชิต สิงหเสนี มายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็นคดีที่มีจำเลย 3 คน ชิต สิงหเสนี, บุศย์ ปัทมศริน มหาดเล็กหน้าห้องบรรทมและเฉลียว ปทุมรส ราชเลขานุการในพระองค์ฯ ถูกกล่าวหาว่ากระทำการประทุษร้ายต่อในหลวง ร.8 ถึงแก่ชีวิต และถูกศาลตัดสินโทษประหารชีวิต เมื่อ 17 ก.พ. 2498 โดยการยื่นครั้งนี้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526

กังวาฬกล่าวถึงจุดประสงค์ของการมายื่นคำร้องและเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมกว่า 500 หน้าที่เป็นหลักฐานใหม่เพื่อขอให้ศาลพิจารณานำคดีดังกล่าวกลับมาพิจารณาในครั้งนี้ว่ามีด้วยกันทั้งหมด 3 เหตุผลคือ ประเด็นแรกต้องการคืนความเป็นธรรมให้กับจำเลยทั้ง 3 คนซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วถูกประหาร ประเด็นที่สองคือต้องการให้มีข้อยุติในการใช้คดีสวรรคตมาใช้ทำลายล้างกันทางการเมืองเพราะตอนนี้มีฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมืองกันได้นำมาใช้ และประเด็นสุดท้ายอยากให้สังคมไทยเรียนรู้เรื่องกรณีสวรรคตเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก

ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจกล่าวว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา 77 ปี ยังไม่เคยมีใครมาดำเนินการรื้อฟื้นคดีเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยไปยื่นคำร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการอะไร และเคยสำนักพระราชวังผ่านพล.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขาธิการในพระองค์ เพราะมองว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์จึงคิดว่าควรจะได้รับพระบรมราชานุญาต

กังวาฬระบุว่าที่เขามายื่นฟ้องครั้งนี้เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมและผู้พิพากษาศาลยุติธรรม ว่าหากต้องการให้มีการรื้อฟื้นคดีให้มาดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น โดยต้องได้รับมอบอำนาจจากผู้สืบสันดาน ซึ่งก็มีผ่องพรรณ และพวงศรี สิงหเสนี ลูกสาวของชิตมอบอำนาจให้แก่เขาและปรีชามาดำเนินการแทน

กังวาฬให้รายละเอียดว่าการดำเนินการขอให้มีการรื้อฟื้นคดีครั้งนี้ได้ใช้มาตรา 5 ของพ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ พ.ศ.2526 เนื่องจากมีหลักฐานใหม่ และมาตรา 20 คือเป็นคดีที่มีพฤติการณ์พิเศษที่จะไม่มีเรื่องเงื่อนเวลา  ส่วนในรายละเอียดของหลักฐานที่นำมายื่นเขาจะขอแถลงอย่างเป็นทางการตอน 15.30 น. ที่มูลนิธิซีเนม่า โอเอซีส ซ.สุขุมวิท43

“หวังเป็นอย่างยิ่งศาลจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน” กังวาฬกล่าวทิ้งท้าย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net