ราชทัณฑ์มีมติให้ปล่อยตัว "เปรมชัย" คดีล่าเสือดำวันนี้ก่อนครบกำหนดโทษในเดือนธันวาคมแต่ให้มีการคุมประพฤติต่อจนถึงวันพ้นโทษ เนื่องจากเห็นว่ามีปัญหาด้านสุขภาพและเคยต้องคว้านเนื้อรักษาเบาหวานด้วยจึงไม่ต้องติดกำไล EM

17 ต.ค.2566 ประชาสัมพันธ์กรมราชทัณฑ์เผยแพร่จดหมายข่าวกรณีที่มีข่าวว่า เปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องขังคดีล่าเสือดำจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้

ในรายงานระบุว่าในวันนี้กรมราชทัณฑ์มีการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยลดวันต้องโทษจำคุก ครั้งที่ 13/2566 มีผู้ต้องขังที่เข้ารับ การพิจารณารวมทั้งสิ้น 567 ราย อนุมัติ 484 ราย ไม่อนุมัติ 83 ราย โดยกลุ่มที่อนุมัติปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุกในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 มีจำนวน 113 ราย  ซึ่งในกลุ่มนี้มีนักโทษเด็ดขาดเป็นที่สนใจของสังคม จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายเปรมชัย กรรณสูต ต้องโทษอยู่ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ ในความผิดฐานพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า , พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและความผิดต่อเจ้าพนักงาน  

มติที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ  ได้เห็นชอบอนุมัติให้ปล่อยตัวลดวันต้องโทษจำคุกเพื่อคุมความประพฤติ เปรมชัยฯ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2566 และจะพ้นโทษในวันที่ 7 ธ.ค. 2566 แต่เนื่องจาก เปรมชัยฯ มีปัญหาด้านสุขภาพ ตรงบริเวณข้อเท้าที่เคยถูกคว้านเนื้อที่ตายจากอาการเบาหวานลงขา เพราะป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมได้ยาก และหากให้อุปกรณ์ดังกล่าว จะมีการเสียดสีจนเกิดบาดแผลที่รุนแรงขึ้นอีก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบำบัดรักษาในกรณีฉุกเฉิน คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติเห็นควรไม่ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ทั้งนี้ เมื่อปล่อยตัวคุมประพฤติจะต้องมารายงานตัวและอยู่ภายใต้เงื่อนไขคุมความประพฤติจนกว่า จะครบกำหนดโทษจริงต่อไป

คดีนี้ที่เปรมชัยได้รับการปล่อยตัวนี้เป็นคดีที่เปรมชัย พร้อมพวกอีก 2 คน ได้แก่ ยงค์ โดดเครือ และธานี ทุมมาศ ถูกฟ้องเป็นจำเลยว่าได้ลักลอบเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 แล้วร่วมกันล่าสัตว์ป่าสงวน ได้แก่ เสือดำ และไก่ฟ้าหลังเทาเพื่อนำมาประกอบอาหาร โดยทางฝ่ายจำเลยได้ต่อสู้คดีจนถึงชั้นศาลฎีกา โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 ให้จำคุกนายเปรมชัย (จำเลยที่ 1) รวม 2 ปี 14 เดือน, ยงค์ (จำเลยที่ 2) จำคุก 2 ปี 9 เดือน และธานี (จำเลยที่ 4) จำคุก 2 ปี 13 เดือน และสั่งให้จำเลยทั้ง 3 คน รวมถึงนที ชดใช้ค่าเสียหาย 2 ล้านบาทตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ให้ปรับแก้ไขดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่