รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ หารือเอกอัครราชทูต หนุนแลกเปลี่ยนข่าวสาร แก้ไขข้อมูลบิดเบือนและ Call center ย้ำรัฐบาลจีนดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาชญากรบางส่วนหลบหนีไปประเทศอื่น หวังร่วมมือและแบ่งปันข่าวสารร่วมกัน เพื่อให้ป้องกันความเสียหายได้ทันท่วงที

12 ต.ค.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วานนี้ (11 ต.ค.66) ที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หาน จื้อเฉียง (Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจําประเทศไทย เข้าพบ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้พบปะกับเอกอัครราชทูตจีนฯ ในวันนี้ โดยไทยและจีนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมายาวนาน และเร็วๆ นี้ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ครั้งที่ 3 และ การเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติมากยิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตจีนฯ ยินดีต่อการรับตำแหน่งใหม่ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยการมาเข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ ถือเป็นการแนะนำตัวและทำความรู้จักซึ่งกันและกัน โดยไทย-จีน ใช่อื่นไกลพี่น้องกัน ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์มายาวนาน และมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกมิติ เอกอัครราชทูตจีนฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ทั้งสองฝ่าย ได้หารือถึงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตจีนฯ ต่างเห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชน รวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านการนำเสนอข่าวของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ประชาชนไทยและจีนได้รับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง มีความรู้ความเข้าใจอันดีต่อกัน และยังช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถรับมือและตอบโต้กับข่าวเท็จ (Fake news) ได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องในการร่วมมือแก้ไขปัญหา Call center โดยเอกอัครราชทูตจีนฯ กล่าวว่ารัฐบาลจีนได้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และปัญหา Call center อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้อาชญากรบางส่วนหลบหนีไปประเทศอื่น ดังนั้น ทุกประเทศและประเทศใกล้เคียงจึงควรร่วมมือและแบ่งปันข่าวสารร่วมกัน เพื่อให้ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าวได้ทันท่วงที ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียินดีส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา Call center กับจีน โดยเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะสร้างความเสียหายให้กับประชาชน