'ชาดา ไทยเศรษฐ์' รมช.มหาดไทย เผยเช็กบัญชีผู้มีอิทธิพล 600-700 คน เสร็จแล้ว เตรียมถก 3 ต.ค.นี้ ก่อนลงพื้นที่คุยกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทั่วประเทศ เผยจะใช้มาตรการภาษีเล่นงานหากไม่เลิกพฤติกรรม ระบุคิวต่อไปเจ้าหน้าที่รัฐพัวพันผู้มีอิทธิพล

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย (แฟ้มภาพ)

1 ต.ค. 2566 Thai PBS รายงานว่านายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้จัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลของกระทรวงมหาดไทยแล้วเสร็จ มีรายชื่ออยู่ 600-700 คนแบ่งเป็นกลุ่มสีแดง ไม่ถึง 100 คน เนื่องจากบางส่วนได้ล้มหายตายจากไปเยอะ ส่วนเหลือเป็นกลุ่มสีเหลืองที่จัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง รวมถึงซุ้มมือปืนปัจจุบันพบว่ามีจำนวนไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นแค่ฟรีแลนซ์

นายชาดา กล่าวอีกว่า ส่วนรายชื่อยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ต้องรอข้อมูลจากตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงก่อนว่าตรงกันหรือไม่ อีกทั้งส่วนตัวก็ยังไม่เห็นรายชื่อกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะยังอยู่ในชั้นความลับทางราชการ

"ไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือกลั่นแกล้งว่า เป็นคนของฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ เพราะเมื่อขึ้นบัญชีเสร็จแล้วจะยังไม่รู้ว่ามีใครบ้าง จากนั้นจะมีคณะกรรมการพิจารณาร่วมกัน ไม่ใช่ตนเพียงคนเดียวว่าใช่หรือไม่ใช่" นายชาดา กล่าว

รมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า การพิจารณาว่าใครคือผู้มีอิทธิพลจะดูตามกรอบ 16 ฐานความผิดว่า แต่ละคนเข้าข่ายมากน้อยแค่ไหน และจัดอยู่ในกลุ่มสีอะไร โดยในวันที่ 3 ต.ค.นี้ จะนำเรื่องเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่

นอกจากนี้ จะเดินสายพบปะกลุ่มกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติ หากพบใครมีพฤติกรรมเข้าข่ายแต่ยังไม่มาก ก็จะขอให้ละเลิกพฤติกรรมนั้นเสีย พร้อมกับวางมาตรการและให้งบ เช่น การตรวจปัสสาวะบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำท้องถิ่น

ส่วนที่ต้องพุ่งเป้าไปที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เพราะถือเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งมีทั้งอิทธิ พลด้านดีและไม่ดี ซึ่งมหาดไทยคงไม่ออกไปค้นบ้าน หรือไปสร้างกระแสให้ฮือฮา แต่จะค่อยๆ ไปล็อกให้อยู่ คนที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองจะต้องไม่โตไปกว่านี้ หากไม่เชื่อก็เจอกันแน่ โดยที่กำนันและผู้ใหญ่บ้านจะต้องสแกนพื้นที่ของตัวเอง โดยมีนายอำเภอและผู้ว่าฯ ควบคุมอีกชั้นหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในสส.ในสภาฯ มีกลุ่มเจ้าพ่อ มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล หรือไม่ นายชาดา ยอมรับว่ามีคำพูดที่ว่า “ถ้าไม่มีอิทธิพลจะเป็นผู้แทนได้อย่างไร” แต่คำว่าผู้มีอิทธิพลก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี เช่น กรณีการยิงตำรวจที่บ้านกำนันนก จ.นครปฐม ก็พบว่า สส.บ้านใหญ่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเหล่านี้

อีกทั้งปัจจุบันเป็นยุคดิจิทัลแล้ว การไปเลี้ยงลูกน้องแล้วเอามาข่มขู่ประชาชนมันไม่ได้แล้ว พร้อมขอให้ผู้มีอิทธิพลเลิกละพฤติกรรมดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะถูกตรวจสอบภาษีแน่นอน จะไม่ยอมให้เจ้าพ่ออยู่ในคุกแล้วบริวารสร้างอาณาจักร

"ในอดีตก็เคยถูกขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก แต่พิสูจน์ตัวเองได้ว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ตอนนี้ผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลแล้ว ผมเป็นรัฐมนตรี ถ้าจะมีอิทธิพลอยู่บ้างก็เป็นด้านดี ทำงานเพื่อสร้างบ้าน สร้างเมือง" นายชาดา กล่าว

นายชาดา กล่าวว่า หวังว่าการปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะทำให้ปัญหาเบาบางลง และสร้างระบบที่คัดกรองคนดีเข้ามาทำหน้าที่ คัดคนไม่ดีออกไป และจะเป็นระบบที่ยั่งยืน หากตนพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ระบบก็ยังเดินต่อไปได้ 

หลังจากปราบปรามผู้มีอิทธิพลเสร็จแล้ว ลำดับถัดไปจะเป็นการจัดแถวเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนพัวพันกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่อ