พรรคไทยเท่าเทียมเสนอ 'สภา-นายกฯ' 7 ข้อหวังยุติอาชญากรรม การทุจริตและผูกขาดอำนาจในหมู่ข้าราชการและฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น

21 ก.ย.2566 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ที่จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ เจษ อนุกูลโภคารัตน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานประสานการเมืองและรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนรับยื่นหนังสือจาก ชัยนรินทร์ กุหลาบอ่ำ เลขาธิการพรรคไทยเท่าเทียม เรื่องข้อเสนอเพื่อยุติอาชญากรรม การทุจริตและผูกขาดอำนาจในข้าราชการและฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น จากเหตุการณ์ ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวงจนเสียชีวิต ลูกน้องคนสนิทของ ประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ตำบลตาก้อง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม ณ ขณะนั้น สร้างความหดหู่ใจ แก่คนทั่วประเทศจากการกระทำอันรุนแรงอุกอาจต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจยี่สิบกว่านาย ทำให้เห็นถึงอิทธิพลมืดและความสกปรกในการปกครองส่วนท้องถิ่นกับข้าราชการตำรวจในพื้นที่ สะท้อนถึงปัญหาการปกครองท้องถิ่นที่ล้าหลัง ปล่อยให้มีการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจ การใช้ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ที่ขาดการตรวจสอบ สร้างความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์กับข้าราชการเพื่อรับเหมางานของรัฐในลักษณะผูกราด เอาเปรียบคู่แข่ง การที่เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตเรียกรับสินบน ส่วยทางหลวง ล้วนนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำทางอำนาจระหว่างข้าราชการผู้มีอิทธิพลกับประชาชน มาช้านาน เป็นระบบพวกพ้องที่อยู่เหนือกฎหมาย

โดยพรรคไทยเท่าเทียม เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังนี้ 

1. จัดการปัญหาการฮั้วประมูลงานและข้าราชการที่ทุจริตอย่างจริงจัง ปฏิรูประบบการแข่งขันประมูลงานของรัฐ ให้โปร่งใสตรวจสอบได้ และให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลของรัฐมากขึ้น 

2. หยุดส่งเสริมนายทุนผูกขาดในระดับท้องถิ่น และลดอิทธิพลนายทุนขนาดใหญ่ กระจายงานและรายได้อย่างเป็นธรรม 

3. ทบทวนระเบียบวินัยของข้าราชการตำรวจทุกระดับ ไม่ให้เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล เอกชน รวมทั้ง ห้ามไปงานเลี้ยงข้าราชการท้องถิ่น แม้ในนามส่วนตัวก็ต้องรายงานผู้บังคับบัญชา 

4. ควบคุม ทบทวนและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน

5. ยกเลิกตำแหน่งกำนั่นทั่วประเทศ เพราะมักนำไปสู่การสร้างอิทธิพลในท้องถิ่นและระบบอุปถัมภ์ หรือเสริมสร้างระบบเจ้าพ่อแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตยแต่อย่างใด 

6. เปิดพื้นที่ให้แก่ประชาชนปีละ2ครั้ง ให้ประชาชนออกแบบนโยบายท้องถิ่นร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล อันเป็นการส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ประชาชน 

7. เพิ่มอาสาสมัครหมู่บ้าน ประชากร 200 คนต่ออาสาสมัคร 1 คนเพื่อประสานงานความเดือดร้อนของคนในพื้นที่กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขึ้นต่อกระทรวงมหาดไทยและมีเบี้ยเลี้ยงตอบแทนให้

เจษ อนุกูลโภคารัตน์ กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวดำเนินการตามขั้นตอนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และจะรีบนำกราบเรียนประธานรัฐสภาเพื่อโปรดทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งด้วยว่า พรรคไทยเท่าเทียม นอกจากยื่นข้อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้ว ยังยื่นต่อ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีด้วย