Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์ของวารุณี ผู้ถูกกล่าวหามาตรา 112 ปมโพสต์ภาพตัดต่อ ร.10 เปลี่ยนเครื่องทรง 'พระแก้วมรกต' สวมชุดสตรีสีม่วง แบรนด์ "Sirivannavari" ก่อนตัดสินใจอดอาหารประท้วง เรียกร้องสิทธิประกันตัว ย้ำภายใน 3 วัน หากไม่ได้ประกัน เตรียมยกระดับประท้วงด้วยการอดน้ำ พร้อมปฏิเสธการรักษาทุกอย่าง  


23 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวานนี้ (21 ส.ค.) ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ทนายความเดินทางไปเยื่ยม 'น้ำ' วารุณี (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องขังคดี ม.112 อายุ 32 ปี ก่อนได้รับแจ้งว่า เธอจะเริ่มอดอาหาร เพื่อประท้วงอดอาหาร เพื่อประท้วงศาลที่สั่งไม่ให้ประกันตัวต่อเนื่อง รวม 5 ครั้ง (เป็นการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง 1 ครั้ง) ตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาในวันที่ 28 มิ.ย. 2566

ปัจจุบัน วารุณี ถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษาอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นเวลา 57 วันแล้ว หรือเกือบ 2 เดือน จากกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุกคดีมาตรา 112 ปมโพสต์ภาพบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก เป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง "พระแก้วมรกต" เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข โดยศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 3 ปี แต่ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะรับสารภาพเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากนั้น ศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวชั้นอุทธรณ์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ภาพตัดต่อที่ถูกกล่าวหาว่าเอามาลงจนเป็นเหตุแห่งคดีนั้น มาจากขณะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวพระแก้วมรกต เมื่อ 20 พ.ย. 64 (ที่มา เว็บไซต์ royaloffice.th/)

วารุณี เริ่มต้นอดอาหาร และดื่มเฉพาะนม ตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เธอระบุด้วยว่า หากครบกำหนด 3 วันแล้ว ศาลยังไม่สั่งให้ประกันตัวอีก เธอจะพิจารณายกระดับการแสดงออกเป็น "การอดอาหารและน้ำ" ทันที และเธอยังจะปฏิเสธการรักษาทุกอย่างด้วย

รายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังของการตัดสินใจแสดงออกครั้งนี้ วารุณี ได้เขียนไว้เป็นแถลงการณ์ออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชน และย้ำว่าเธอถูกคุมขังมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว แม้เธอจะทำทุกวิถีทาง แต่ศาลก็ยังคงยืนยันไม่ให้ประกันตัว และฟางเส้นสุดท้ายคือคำสั่งที่ศาลอุทธรณ์ไม่ให้ประกันตัวเธอครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2566 ซึ่งเธอตั้งความหวังไว้มากว่าจะได้รับการประกันตัวออกไประหว่างอุทธรณ์คำพิพากษา

อย่างไรก็ตาม ทนายความเล่าเพิ่มเติมว่า วารุณีมีน้ำหนักตัวไม่มากนัก ค่อนข้างผอม ก่อนถูกคุมขังน้ำหนักประมาณ 37 กิโลกรัม (กก.) และลดลงเรื่อยๆ เมื่อถูกคุมขัง โดยปัจจุบันเธอมีน้ำหนักประมาณ 33 กก.เท่านั้น หลายคนจึงแสดงความกังวลว่าเธอจะอาการย่ำแย่หากต่อจากนี้เธอจะประท้วงด้วยการอดอาหารเป็นเวลานาน  

"วารุณี คือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ทุกข์ทรมานด้วยมาตรา 112"

ศูนย์ทนายความฯ ลงบันทึกการเยี่ยม วารุณี โดยระบุว่า เธอต้องการให้สังคมได้รับทราบว่ามีคนธรรมดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากมาตรา 112 ก่อนตัดสินใจอดอาหารตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา 

ทนายความของศูนย์ทนายฯ สังเกตว่า วันนี้น้ำ ไม่ได้แต่งหน้าออกมา หน้าตาดูเศร้าๆ น่าจะรู้เรื่องผลประกันแล้ว เมื่อเรายกหูโทรศัพท์ขึ้น น้ำ ก็ถามทันทีว่า "รอบนี้เขา (ศาล) ให้เหตุผลว่ายังไง"

เราบอกว่า "เหมือนเดิม" อัตราโทษสูง รับสารภาพในศาลชั้นต้นแล้ว เกรงว่าจะหลบหนี… 

น้ำ ฟังแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง "เมื่อวันที่ 18 ตอนนี้หนูกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ มีเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้ามา หนูตื่นเต้นดีใจมากค่ะ คิดว่าต้องเป็นเราแน่ๆ ที่ได้ประกันตัว แต่สุดท้ายก็เป็นคนอื่น หนูก็เลยรู้ค่ะว่าคงไม่ได้ประกันแน่ๆ"

น้ำเริ่มน้ำตาคลอ

"เครียดมากเลยค่ะพี่ ช่วงเสาร์อาทิตย์นี้หนูขอยานอนหลับ 2 เม็ด เพราะมันนอนไม่ได้จริงๆ หลับๆ ตื่นๆ แต่เขาไม่ให้ คือเขาจัดยาให้แล้ว 7 วัน ยานอนหลับวันละเม็ด ถ้าหนูกิน 2 เม็ด วันพรุ่งนี้ก็จะไม่ได้กิน" น้ำ พูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

"เขาพูดออกมาได้ยังไง หนูทำทุกอย่างแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขาต้องการอะไร แล้วเหตุผลมันก็เป็นเหตุผลเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย” น้ำพูดด้วยเสียงสั่นเครือและเริ่มร้องไห้ออกมา

"หนูมีวิธีไหนบ้าง …

"หนึ่ง รออุทธรณ์ มันก็ใช้เวลา เผลอๆ ติดปีครึ่งเท่าโทษจริงเลย

"สอง เซ็นใบยอมเป็นนักโทษเด็ดขาด วิธีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้ กว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยม เพื่อที่จะได้เข้าหลักเกณฑ์พักโทษหรือลดโทษมันก็ใช้เวลา ‘เกือบปี’ ปีหนึ่งมีการเลื่อนขั้นอยู่แค่ 3 ครั้งเอง"

"ตอนนี้สิ่งที่หนูจะทำได้ มันเหลืออยู่อย่างเดียวแล้วพี่ หนูไม่ได้หวังว่ามันจะมีอิมแพ็คยิ่งใหญ่อะไร หนูรู้ว่าคนข้างนอกกำลังสนใจเรื่องอื่นอยู่ (ร้องไห้) แต่หนูอยากให้คนในสังคมรู้ว่า วารุณี คือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ทุกข์ทรมานด้วยมาตรา 112 ความเจ็บปวดของกฎหมายข้อนี้มันมีอยู่จริง จับต้องได้จริง แล้วยังต้องมีอีกกี่คนที่ต้องเจ็บปวดแบบนี้ 

"น้ำตัดสินใจที่จะอดน้ำอดอาหารตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ …"

เราพยายามบอกกับน้ำว่า ทนายความกำลังจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันตัวต่อศาลฎีกาอีกครั้ง หากเธอเริ่มอดอาหารและน้ำ อาจจะทำให้เธอมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักตัวก็น้อยอยู่แล้ว ตอนนี้ประมาณ 33 กิโลกรัมได้ น้ำบอกว่าเธอตัดสินใจจะดื่มเฉพาะนมไปก่อนเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันนี้ (21 ส.ค. 2566) และหลังจากนั้นจะเริ่มอดน้ำและอาหารแบบเด็ดขาดแล้ว

"อีกกี่วันกี่เดือนหนูจะได้ออกไป หนูก็อยากออกไปแบบแข็งแรงนะคะ แต่หนูทำอะไรไม่ได้ หนูอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งของศาลมาเกือบ 2 เดือนแล้ว เราจะยอมได้เหรอ ดังนั้น หนูต้องทำในส่วนที่หนูทำได้"

"อยากให้สื่อสารถึงคนข้างนอก บางคนอาจจะมองว่าเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ ตอนแบมกับตะวันทำ หนูก็ไม่เห็นด้วยนะคะ แต่หนูเข้าใจแล้วว่า พออยู่ในนี้ มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ หนูหมดความอดทนแล้ว” ถึงตรงนี้น้ำร้องไห้โฮเสียงดัง เหมือนว่าเธอกำลังเป็นทุกข์ใจมาก

"พี่หนูไม่ไหวแล้ว ศาลเอากฎหมายข้อนี้มากลั่นแกล้งคนธรรมดา มันต้องมีอีกกี่เคสถึงจะพอใจ พอเห็นว่าไม่มีคนสนใจแล้วจะทำยังไงก็ได้ เตะไปซ้ายไปขวาก็ได้เหรอ หนูบอกเลยนะว่าหนูเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ศาล"

"เมื่อวานหนูรู้แล้วแหละว่าไม่ได้ประกัน เพราะไม่ถูกเบิกตัวก็เลยตัดสินใจร่างแถลงการณ์ส่วนตัวไว้ หนูจะกินนม 3 วัน แล้วก็จะงดน้ำอดอาหารต่อเลย จะกินน้ำแค่ตอนกินยาเท่านั้น แล้วก็จะไม่รับการรักษาใดๆ หนูจะเริ่มอดอาหารตั้งแต่วันนี้เลย"

"ตอนอยู่ข้างนอก เราสามารถมีความฝัน มีความหวัง แต่หนูต้องมาอยู่ในเรือนจำเพราะโพสต์รูปเนี่ยนะ เผลอๆ ขายยายังโทษน้อยกว่านี้เลย แถมยังได้ประกันด้วย หนูอยากให้ศาลรู้ว่ากฎหมายข้อนี้มันไม่เคยดีกับใคร อีกไม่นาน คนจะตื่นรู้กับมาตรา 112 มากขึ้น แล้วกฎหมายก็จะเสื่อมลง มันไม่ดีกับศาล ประชาชน หรือแม้แต่สถาบันฯ เลย"

น้ำ เล่าทั้งน้ำตาว่า "เธอไม่กลัวความตาย"

"มันจะมีตึกในแดนที่ไม่สูงมาก ชั้น 2 จะสูงประมาณ 3 เมตร หนูมีแวบหนึ่งที่คิดว่า โดดลงไปเลยดีไหม? … ถ้าเอาขาลงคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาหัวลงก็อาจจะตาย แต่ถ้าไม่ตายก็โคม่า พิการ อาจจะเป็นภาระครอบครัวอีก หนูก็เลยไม่ทำ หนูคิดแล้วคิดอีก อยู่ข้างนอก หนูก็พยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นครั้งนี้หนูไม่ติดเลยถ้าหนูจะตายจริงๆ"

"หนูอยู่ในคุกพ่อก็ร้องไห้เสียใจ หนูตายพ่อก็ร้องไห้เสียใจ ไม่ว่าหนูจะทำอะไรเขาก็เสียใจอยู่แล้ว คิดว่าพ่อร้องไห้เพราะหนูไม่ได้ประกันกี่ครั้งแล้วคะ …"

"หนูสงสารคนรอบตัวหนูมาก แต่หนูทนไม่ไหวแล้วจริงๆ พี่ช่วยบอกให้ทุกคนเข้าใจด้วยนะคะ"

ก่อนจากกัน น้ำบอกเราว่า "เอ้อ ต่อไปหนูก็คุยกับพี่ทนายได้นานเลยน่ะสิ ไม่ต้องห่วงเรื่องกินข้าวแล้ว" เธอหัวเราะทั้งๆ ที่นัยตายังแดงกล่ำและน้ำตาเปื้อนอาบทั้งสองแก้ม น้ำหมายถึงว่าการเข้าเยี่ยมครั้งต่อไป เราและเธอสามารถคุยกันได้นานขึ้น เพราะเธอไม่ต้องรีบไปกินข้าวมื้อเที่ยงเหมือนทุกครั้งแล้ว

วันนี้น้ำได้ส่งต่อแถลงการณ์ซึ่งเป็นถ้อยคำของเธอเองทั้งหมดมาเผยแพร่สู่สาธารณชน ถึงความทุกข์ทนของการถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ในฐานะผู้ต้องขังคดี ม.112 และเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจอดอาหารประท้วงที่ได้เริ่มขึ้นไปแล้วตั้งแต่เวลาเที่ยงตรงของวันนี้ 

แถลงการณ์โดยวารุณี 

สวัสดีค่ะ นี่คือ "น้ำ วารุณี" คนธรรมดาที่โดนกฎหมายมาตรา 112 กีดกันออกจากอิสรภาพ ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรัก เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ที่น้ำต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากความบิดเบี้ยวของบุคคลที่เรียกตนเองว่า "ผู้ผดุงความยุติธรรม" น้ำรู้สึกว่า ตราชั่งของศาลมันเอียงไปทางฝั่งตรงข้ามกับประชาชนเสมอ

การใช้ชีวิตในนี้ส่งผลกระทบต่อน้ำมากมาย ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจที่ถดถอยลงทุกวัน ตอนแรกน้ำยังมีความหวังกับกระบวนการยุติธรรมเสมอ หวังว่าเมื่อน้ำยอมทำตามทุกเงื่อนไข ศาลจะปล่อยตัวน้ำออกไปดูแลครอบครัวอย่างที่น้ำเคยทำมาตลอด แต่ผลปรากฏว่าในครั้งนี้น้ำก็ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัวด้วยเหตุผลเดิมๆ นั่นคือ เป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง มีเหตุอันควรที่เชื่อได้ว่าจำเลยจะหลบหนี ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวแล้ว และที่อ้างว่าเจ็บป่วย กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลได้

น้ำอยากถามศาลว่า โทษจำคุกแค่ 1 ปี 6 เดือน น้ำจะลงทุนหนีไปต่างประเทศ 10-20 ปี เพื่ออะไร ถ้าปล่อยตัวน้ำ น้ำจะไปเป็นตัวอันตรายต่อสังคมหรือประเทศชาติอย่างไร

ถ้าศาลขังน้ำไว้เพราะอยากให้หลาบจำ อย่างนั้นต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ น้ำต้องติดคุกเต็ม 1 ปี 6 เดือนเลยไหม หากต้องการแบบนั้นได้โปรดบอกมาเลยว่า “จะไม่พิจารณาการขอประกันตัวของน้ำอีกต่อไปแล้ว” น้ำจะได้เซ็นใบยินยอมเพื่อเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดให้

คำสั่งไม่ให้ประกันตัวของศาลอุทธรณ์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา มันเป็น "ฟางเส้นสุดท้าย" ของน้ำแล้วค่ะ น้ำไม่สนใจแล้วว่าศาลฎีกาจะพิจารณาคำร้องขอประกันตัวว่ายังไงอีกแล้ว หากศาลไม่ให้น้ำออกมาดีๆ น้ำก็จะหาวิธีออกมาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกมาแบบครบ 32 หรือออกมาโดยมี "ผ้าขาวคลุมตัว" ก็ตาม

น้ำไม่เคยคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้ แต่น้ำทนไม่ไหวแล้วค่ะ น้ำไม่อยากอยู่ภายใต้การกลั่นแกล้งของศาลอีกแล้ว ศาลอาจจะคิดว่าน้ำเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่คนที่สังคมจับตามอง จะสั่งไปซ้ายไปขวาก็ได้ พออยู่ในเรือนจำ มันไม่มีอะไรที่น้ำสามารถทำได้เลย น้ำเหลือแค่ "ร่างกาย" ของตัวเอง และน้ำจะใช้มันเพื่อประท้วงความอยุติธรรมของศาล เพราะน้ำเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองค่ะ ไม่ใช่ศาล

น้ำไม่ได้หวังว่าคนข้างนอกจะมาช่วยกันเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวน้ำนะคะ มันไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่ต้องให้คนหมู่มากมากดดันให้ศาลทำหน้าที่ของตัวเอง ศาลต้องรู้ว่า “การไม่ให้สิทธิประกันตัวมันคือความอยุติธรรม”

น้ำไม่ได้คิดว่าชีวิตของตัวเองมีอำนาจเหนือศาล แต่อยากให้ศาลรู้ว่าทุกครั้งที่ศาลไม่ให้ประกันตัว น้ำผิดหวังและเจ็บปวดแค่ไหน หากบอกว่าโทษจำคุกแค่ 1 ปี 6 เดือนเองก็ทนๆ ไปสิ น้ำอยากให้ลองมาติดคุกดูค่ะ ลองมีภาระ มีครอบครัวต้องดูแล แล้วต้องมาอยู่ในนี้ดู

น้ำตัดสินใจว่าจะอดอาหารตั้งแต่เวลาเที่ยงวันนี้ (21 ส.ค. 2566) โดยนับจากนี้อีก 3 วันน้ำจะดื่มแต่นม หากน้ำยังไม่ได้รับการประกันตัว น้ำก็จะยกระดับด้วย "การอดน้ำอดอาหาร" และจะดื่มน้ำแค่ตอนกินยานอนหลับเท่านั้น 

นอกจากนี้ น้ำจะไม่รับการรักษาใดๆ น้ำเป็นแค่คนธรรมดาที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนกับมาตรา 112 ในกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวเท่านั้น หากน้ำต้องสูญเสียชีวิตตนเอง น้ำก็อยากให้มันเกิดแรงกระเพื่อมในสังคม และอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ถึงปัญหาของมาตรา 112 มากขึ้น เพราะน้ำไม่อยากให้มีคนธรรมดาต้องทุกข์ทรมานกับมาตรา 112 อีกแล้วค่ะ

น้ำทนอยู่กับความอยุติธรรม การถูกกลั่นแกล้งแบบนี้ไม่ได้แล้ว ขอให้ทุกคนเข้าใจน้ำด้วยนะคะ

21 ส.ค. 2566
ทัณฑสถานหญิงกลาง

อดอาหารมา 3 วันแล้ว ดื่มนมถั่วเหลือง มื้อละกล่อง มีอาการปวดท้อง-ความดันต่ำ ปฏิเสธการรักษา

อนึ่ง เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน" รายงานความคืบหน้าวันที่ 23 ส.ค. 2566 ว่า วารุณี อดอาหารมาเป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว นับจากวันที่เธอประกาศอดอาหาร โดยมีการดื่มนมถั่วเหลือง มื้อละ 1 กล่อง มีการอาการป่วยปวดท้อง และความดันต่ำ เซ็นเอกสารปฏิเสธการรักษาทุกอย่างแล้ว

ศูนย์ทนายฯ รายงานผ่านแพลตฟอร์ม 'เอ็กซ์' ว่า วันนี้ (23 ส.ค.) ทนายเข้าเยี่ยมวารุณีที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พบว่า เธอมีหน้าตาที่ไม่สดใส ปากแห้ง น้ำลายเหนียว มีอาการปวดท้องเป็นพักๆ บางเวลาจะปวดมาก ขณะทนายเข้าเยี่ยมเธอบอกว่าปวดท้องแบบระคายเคือง

วารุณีบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. เธอดื่มแค่ "นมถั่วเหลือง" ขนาด 300 มล. วันละ 3 กล่อง ในเวลาเช้า กลางวัน และเย็น

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) พยาบาลของเรือนจำได้เข้าไปตรวจร่างกายวารุณีในห้องขัง พบว่า เธอมีความดันโลหิตต่ำ และได้นัดติดตามอาการอีกครั้งทุกวันอังคารและพฤหัสบดี

ทั้งนี้ วารุณีได้เซ็นเอกสารแสดงเจตจำนงว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้กับร่างกายของเธอ เธอจะไม่ขอรับการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผ่านทางหลอดเลือดหรือทางปากก็ตาม

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net