รอบ 10 ปีที่ผ่านมา คนทำงานในสหรัฐฯ เกือบ 400 คน เสียชีวิตจากความร้อน แต่รัฐต่างๆ กลับยังไม่คืบหน้าในการปกป้องคนทำงานกลางแจ้ง บางรัฐถึงกับยกเลิกกฎระเบียบท้องถิ่นที่ให้บริษัทต่างๆ จัดสถานที่มีร่มเงาให้คนทำงานกลางแจ้งได้พักผ่อนและดื่มน้ำได้

สื่อที่เกาะติดประเด็นท้องถิ่นสหรัฐอเมริกาอย่าง Stateline ภายใต้ The Pew Charitable Trusts รายงานว่าอุณหภูมิช่วงฤดูร้อนในสหรัฐฯ จะพุ่งสูงขึ้น แต่รัฐต่างๆ กลับกำลังถกเถียงกันในเรื่องการปกป้องคนทำงานกลางแจ้งจากความร้อนจัด อย่างเช่นรัฐเท็กซัสที่เพิ่งผ่านกฎหมายยกเลิกกฎท้องถิ่นที่บังคับให้นายจ้างต้องมีการจัดสถานที่ให้ร่มเงารวมทั้งเวลาพักดื่มน้ำระหว่างการทำงานสำหรับคนทำงานก่อสร้าง เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2023 ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐหลายรัฐ ผู้ร่างกฎหมาย และหน่วยงานกำกับดูแล ต่างปฏิเสธที่จะกำหนดให้บริษัทต่างๆ จัดสถานที่มีร่มเงาให้คนทำงานกลางแจ้งได้พักผ่อนและดื่มน้ำได้ ในบางกรณี การออกกฎหมายก็ล้มเหลว หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐต่างไม่ดำเนินการหรือใช้เวลาหลายปี ในการร่างและออกกฎคุ้มครองคนทำงานจากภัยความร้อน

ความร้อนทำให้มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐอเมริกาในแต่ละปีมากกว่าสภาพอากาศสุดขั้วอื่นๆ ตัวอย่างในเท็กซัส มีคนทำงานอย่างน้อย 42 คน เสียชีวิตจากความร้อนระหว่างปี 2011-2021 ตามรายงานของสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) แม้ว่ากลุ่มสหภาพแรงงานและผู้สนับสนุนจะชี้ว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก เนื่องจากมีการอ้างถึงสาเหตุอื่นๆ ในการเสียชีวิตของคนทำงาน

การสืบสวนในปี 2021 โดย NPR และ Columbia Journalism Investigations พบว่าคนทำงานเกือบ 400 คน เสียชีวิตจากการสัมผัสกับความร้อนจากสิ่งแวดล้อมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะคนทำงานชาวฮิสแปนิกที่ทำงานในฟาร์มและคนทำงานก่อสร้างส่วนใหญ่ของประเทศได้รับผลกระทบมากที่สุด

ก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯ รัฐหลายรัฐ ผู้ร่างกฎหมาย และหน่วยงานกำกับดูแล ต่างปฏิเสธที่จะกำหนดให้บริษัทต่าง ๆ จัดสถานที่มีร่มเงาให้คนทำงานกลางแจ้งได้พักผ่อนและดื่มน้ำได้ | ที่มาภาพประกอบ: Haskell Company

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้เกิดความร้อนสูงมากขึ้นในแต่ละปี นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวจะยังเพิ่มสูงขึ้นอีก มีเพียง 3 รัฐเท่านั้น ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน ที่กำหนดให้ผู้ทำงานกลางแจ้งพักหลบความร้อน ส่วนที่มินนิโซตามีกฎที่กำหนดมาตรฐานสำหรับคนทำงานในอาคารเท่านั้น ส่วนโคโลราโดก็ครอบคลุมเฉพาะคนทำงานในฟาร์มเท่านั้น

กฎหมายใหม่ในเท็กซัสซึ่งลงนามโดยเกร็ก แอบบอตต์ (Greg Abbott) ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสจากพรรครีพับลิกัน ได้ยกเลิกกฎระเบียบท้องถิ่นที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ระหว่างสภานิติบัญญัติอนุรักษ์นิยมของรัฐและท้องถิ่นที่เอนไปทางซ้าย เช่น เมืองออสติน และเมืองฮูสตัน เป็นต้น กฎหมายที่ฝ่ายรีพับลิกันอ้างว่ามีผู้สนับสนุนเป็นธุรกิจท้องถิ่น ได้ตัดอำนาจท้องถิ่นหลายๆ ประการ รวมทั้งการยกเลิกกฎระเบียบในออสตินและดัลลัส ที่เคยกำหนดให้คนทำงานก่อสร้างได้พักดื่มน้ำได้ 10 นาที ในทุก ๆ 4 ชั่วโมง ในที่พักที่มีร่มเงา

ผู้นำสหภาพแรงงานในเท็กซัสได้ออกมาเรียกร้องสิทธิแรงงานโดยทันที “การก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมที่อันตราย อะไรก็ตามที่เป็นมาตรการป้องกันขั้นต่ำจะสามารถรักษาชีวิตได้ เรากำลังพูดถึงสิทธิมนุษยชน” อะนา กอนซาเลซ (Ana Gonzalez) รองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและการเมืองของสหภาพแรงงาน AFL-CIO แห่งเท็กซัส กล่าวกับสื่อ Texas Tribune “เราจะเห็นผู้เสียชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะในเท็กซัสที่มีอากาศร้อน”

หน่วยงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของรัฐบาลกลาง หรือที่รู้จักในชื่อ OSHA เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ปกป้องคนทำงานจากความร้อน แต่ตอนนี้กลับยังไม่มีมาตรฐานการปกป้องคนทำงานจากความร้อนของรัฐบาลกลาง 

กลุ่มธุรกิจในเท็กซัสและฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันกล่าวว่านายจ้างต้องการความสอดคล้องด้านกฎระเบียบ ซึ่งกฎแบบเมืองต่อเมืองส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการจ้างงาน

แบรนดอน เครตัน (Brandon Creighton) วุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัสจากพรรครีพับลิกัน ที่ผลักดันการร่างกฎหมายนี้ ทวีตว่ามันเป็น “ร่างกฎหมายที่สนับสนุนธุรกิจและส่งเสริมการเติบโตมากที่สุดผ่านสภานิติบัญญัติครั้งที่ 88 และจะเป็นความหวังที่สำคัญสำหรับผู้สร้างงานในเท็กซัส”

สหภาพแรงงาน AFL-CIO แห่งเท็กซัส ระบุว่าการก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมที่อันตราย อะไรก็ตามที่เป็นมาตรการป้องกันขั้นต่ำก็สามารถรักษาชีวิตได้ | ที่มาภาพประกอบ: Spirit HR

ถึงกระนั้น กลุ่มสหภาพแรงงานและแรงงานข้ามชาติจำนวนมากเรียกร้องให้รัฐต่างๆ เขียนข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น แคลิฟอร์เนียได้วางพื้นฐานสำหรับการคุ้มครองคนทำงานตั้งแต่ปี 2005 กำหนดให้คนทำงานสามารถเข้าถึงที่มีร่มเงาบังแดดและการพักดื่มน้ำ ควบคู่ไปกับมาตรฐานการฝึกอบรมและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

ในปี 2021 รัฐโอเรกอนและวอชิงตันกำหนดมาตรฐานฉุกเฉินชั่วคราวหลังจากคลื่นความร้อนทั่วแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคน ซึ่งโอเรกอนได้คงไว้ให้กลายเป็นกฎเกณฑ์ถาวร ส่วนวอชิงตันกำลังดำเนินการเพื่อกำหนดให้เป็นกฎเกณฑ์ถาวรด้วยเช่นกัน

หลายเดือนหลังจากคลื่นความร้อนนั้น ประธานาธิบดีโจ ไบเดนสั่งให้ OSHA เริ่มกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับมาตรฐานการปกป้องคนทำงานจากความร้อนของรัฐบาลกลาง กระบวนการนี้ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 7 ปี และอาจมีการหยุดชะงัก ขึ้นอยู่กับว่าใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024

ในรัฐมินนิโซตา ซึ่งเป็นรัฐที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศน้อยกว่ารัฐทางตอนใต้อื่นๆ กฎหมยของรัฐกำหนดให้อุณหภูมิภายในอาคารต้องอยู่ในระดับที่รู้สึกสบาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนักหน่วงของงานที่ทำด้วยเช่นกัน

ส่วนความพยายามของรัฐอื่นๆ ที่ยังไม่ได้บังคับใช้เป็นกฎหมายก็มีเช่น

นิวยอร์ก กำลังมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดให้ต้องมีการคุ้มครองคนทำงาน รวมถึงร่มเงาและจุดพักดื่มน้ำสำหรับคนทำงานกลางแจ้งในสภาพอากาศสุดขั้ว เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2023 ที่ผ่านมา

เนวาดา มีการผลักดันร่างกฎหมายที่คล้ายกัน โดยปรับถ้อยคำจาก "หยุดพัก 10 นาทีทุกชั่วโมง" เปลี่ยนเป็น "ช่วงเวลาตลอดวันทำงาน" เพื่อให้คนทำงานสามารถ "ดื่มน้ำได้ตามต้องการ" ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการรับฟังความเห็นครั้งสุดท้ายในการประชุมคณะกรรมการเมื่อเดือน พ.ค. 2023 ที่ผ่านมา

ฟลอริดา ความพยายามของพรรคสองฝ่าย (เดโมแครตและรีพับบลิกัน) ในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยจากความร้อนสำหรับคนทำงาน ล้มเหลวมาโดยตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสมัยประชุมล่าสุดที่สิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2023 ตามรายงานของ Miami Herald

เวอร์จิเนีย ในปี 2021 คณะกรรมการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้สังเกตการณ์  ด้วยการปฏิเสธมาตรฐานความปลอดภัยจากความร้อนสำหรับคนทำงานกลางแจ้ง หลัง 2 ปี จากลงมติเป็นเอกฉันท์เพื่อพัฒนากฎนี้ ฝ่ายที่สามารถคว่ำกฎนี้ได้ อ้างถึงกฎ OSHA ของรัฐบาลกลางที่มีศักยภาพกว่า (แต่ก็อยู่ระหว่างการร่างอยู่)

แมริแลนด์ ผ่านร่างกฎหมายในปี 2020 ซึ่งกำหนดให้มีกฎใหม่ แต่มาตรฐานเหล่านั้นยังคงอยู่ในขั้นตอนการร่างอยู่ โดยมีตัวแทนจากภาคธุรกิจและสิ่งแวดล้อมเข้ามามีส่วนร่วม 

รัฐอื่นๆ เช่น นอร์ทแคโรไลนา เช่น หน่วยงาน OSHA ของรัฐบาลกลาง ให้คำแนะนำแก่สาธารณชนว่าอาจใช้มาตรฐานความปลอดภัยจากความร้อนสำหรับคนทำงานนี้ ในลักษณะ "ข้อกำหนดหน้าที่ทั่วไป" ในสถานที่ทำงาน.

ที่มา:
Many states decline to require water breaks for outdoor workers in extreme heat (BARBARA BARRETT, Stateline, 20 June 2023)